เรื่องนี้ต้องรู้ “E-Commerce รัสเซีย เป็นอย่างไร ?”

E-Commerce เป็นการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์เป็นอีกช่องทางที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศรัสเซีย เนื่องจากประเทศรัสเซียถูกจัดเป็นประเทศที่มีการใช้สื่อออนไลน์มากที่สุดในกลุ่มของประเทศยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยที่ชาวรัสเซียมีแนวโน้มการใช้ E-Commerce สูงขึ้นทุกปี และความน่าสนใจคือรัฐบาลรัสเซียเองได้ให้ความสำคัญกับการค้าในระบบ E-Commerce และมองว่าเป็นช่องทางสำคัญที่จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าขายในประเทศ อีกทั้งจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนจากชาวต่างชาติได้

ผู้ประกอบการคนใด ที่กำลังสนใจจะเข้าไปลงทุนในรัสเซีย ลองมองช่องทาง E-Commerce เป็นช่องทางแรกเริ่มในการเข้าไปลงทุน มาลองดูกันว่า E-Commerce รัสเซียมีอะไรที่ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้บ้าง

1. เว็บไซต์ไหน ที่ชาวรัสเซียเข้าไปซื้อสินค้าบ่อยที่สุด เว็บไซต์ E-Commerce ที่ชาวรัสเซียใช้บริการในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำ คือ Wildberries Ulmart M.video Ozon.ru Avito AliExpress Citilink Eldorado และ Asos โดยที่เว็บไซต์ Aliexpress เป็นเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ E-Commerce ภายในประเทศ ที่ชาวรัสเซียให้ความนิยมและเข้าชมอย่างต่อเนื่อง มีตัวเลขประมาณค่าไว้ว่ามีชาวรัสเซียถึง 22 ล้านรายต่อเดือนที่เข้าซื้อสินค้า ถือได้ว่า 90% ของการซื้อสินค้าจากเว็บนี้เป็นชาวรัสเซีย จึงสามารถคาดการณ์ได้ว่าโอกาสการเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการผ่านเว็บไซต์ E-Commerce ยังเป็นช่องทางที่ชาวรัสเซียให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

2. Payment หรือช่องทางในการจ่ายเงินของชาวรัสเซีย Cash on delivery หรือ COD เป็นการเก็บเงินปลายทาง เป็นการจ่ายเงินที่จะทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าจะสามารถได้รับสินค้าก่อนจ่ายเงินออกไป เปรียบได้กับการที่ผู้ซื้อสามารถไปซื้อของที่ร้านเช่นกัน ซึ่งช่องทางนี้จะเป็นช่องทางการจ่ายเงินหลักของชาวรัสเซีย รองลงมา คือ การหักเงินโดยตรงกับทางธนาคาร คล้ายกับบ้านเราที่เดินไปที่ธนาคารเพื่อจ่ายเงินไปที่ผู้ขาย และสุดท้ายคือการจ่ายเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

3. วิธีการจัดส่งสินค้า การจัดส่งสินค้าภายในประเทศของชาวรัสเซียไม่แตกต่างจากของที่ไทยมากนัก คือหากเป็นของไปรษณีย์กลางของประเทศ จะมีการจัดส่งประมาณ 7-10 วัน และมีการใช้บริการของทางบริษัทเอกชนเช่นกัน และที่น่าสนใจ คือ ในปัจจุบันเนื่องจากชาวรัสเซียมีการค้าทาง E-Commerce ส่งผลให้มีการส่งพัสดุระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นและมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4. ทำการตลาดผ่าน E-Commerce สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศรัสเซีย ช่องทางออนไลน์เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ เนื่องจากความน่าสนใจของการทำการค้า E-Commerce กับชาวรัสเซีย คือ มีความสะดวกในการขายสินค้า ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริโภคได้ง่าย สามารถพูดคุยกับผู้ซื้อได้ง่ายและช่วยสร้างความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาได้ โดยช่องทางที่เป็นที่นิยม เช่น Yandex Vkontakte รวมไปถึง Instagram โดยชาวรัสเซียเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ อย่างวันปีใหม่ วันผู้หญิง วันผู้ชาย มักจะมีการจับจ่ายเพื่อซื้อสินค้าให้กับคนพิเศษ จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจในการขายสินค้า และสร้างโปรโมชัน เพื่อเป็นกลยุทธ์ทางการค้าที่จะทำให้ชาวรัสเซียสนใจและหันมาซื้อสินค้า

E-Commerce เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้าไปลงทุนและเจาะตลาดรัสเซียในระยะแรก เนื่องจากเครื่องมือออนไลน์เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้กันอย่างเป็นประจำอยู่แล้วเพียงแค่ศึกษา ทำความรู้จักการตลาดของรัสเซียเพิ่มเติม และทำความเข้าใจให้มากขึ้น เท่านี้การเข้าไปลงทุนในรัสเซียโดยใช้ E-Commerce ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน

Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก หรือสายด่วน 1333