ปัจจุบันอินโดนีเซียกำลังอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจในระยะที่ 2 (2559-2563) ผลักดันให้มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยใช้งบประมาณร้อยละ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศมาใช้เป็นทุนวิจัย และพัฒนานวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับภาคการผลิต อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซียยังประกาศเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า เมื่อถึงปี 2568 รายได้ต่อหัวของประชากรจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,250 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้อินโดนีเซียกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลก
เมื่อพิจารณาข้อมูลข้างต้น จึงกล่าวได้ว่าอินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจเหมาะแก่การเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการไทย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าอุตสาหกรรมใดที่เหมาะแก่การเข้าไปลงทุนกันครับ
อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป
อินโดนีเซียมีพืชทางการเกษตรที่สำคัญ คือ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน โกโก้ และกาแฟ ซึ่งจะเห็นได้ว่าสินค้าดังกล่าวมีความสอดคล้องกับไทยที่มีการปลูกพืชในลักษณะเดียวกัน โดยจุดอ่อนของอินโดนีเซียอยู่ที่การขาดการพัฒนาด้านแปรรูป รวมทั้งปริมาณการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถใช้จุดแข็งในด้านการแปรรูปที่มีอยู่ ขยายตลาดเข้าไปในอินโดนีเซียได้ ทั้งในรูปแบบการให้ความรู้แก่เกษตรกรในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย, การพัฒนาการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต ตลอดจนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และการตลาด
แอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล
อินโดนีเซีย คือประเทศมุสลิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีประชากรร้อยละ 88 ของประเทศ (จำนวน 237 ล้านคน) นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น อินโดนีเซียจึงมีอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลขนาดใหญ่ ที่เปิดช่องให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปเจาะตลาด ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้รับการยอมรับในเรื่องศักยภาพในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพ รวมถึงข้อได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบทางการเกษตร เหล่านี้จึงเป็นโอกาสของธุรกิจอาหารฮาลาลไทยที่จะขยายตลาดเข้าไปในอินโดนีเซีย
อุตสาหกรรมก่อสร้าง
อินโดนีเซียยังมีความต้องการพัฒนา และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอีกมากมาย ทั้งท่าเรือ ท่าอากาศยาน และถนน รวมถึงอีกหลายโครงการที่รอการลงทุนจากนักธุรกิจต่างชาติ เหล่านี้เป็นโอกาสของนักลงทุนไทยที่จะยื่นซองร่วมประมูลโครงการต่างๆ อย่างไรก็ตาม การเข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษารายละเอียด กฎข้อบังคับ และเงื่อนไขให้รอบครอบ
อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
ด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลาง จึงทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคในอินโดนีเซียมีความต้องการสูงขึ้นตามไปด้วย โดยธุรกิจที่น่าสนใจของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุน คือ
1) ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่เกี่ยวกับแฟชั่นที่ผสมผสานแนวคิดแปลกใหม่
2) ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ โดยผู้ประกอบการไทยมีแรงงานฝีมือด้านการทำเครื่องประดับที่โดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งความต้องการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในอินโดนีเซียมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้คนนิยมนำมาตกแต่งเสื้อให้ดูมีความโดดเด่น
ธนาคารกรุงเทพ ใส่ใจให้บริการนักลงทุนในย่านอาเซียนด้วยบริการเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน
เรามีสาขาของธนาคารอยู่ในประเทศอาเซียน 9 ใน 10 ประเทศ เพื่อให้บริการท่าน
สนใจติดต่อได้ที่ศูนย์ AEC Connect ชั้น 2 สำนักธุรกิจ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
อีเมล: AECconnect@bbl.co.th โทรศัพท์ 02 -230-2758 หรือ สายด่วน 1333