5 นวัตกรรมสุดล้ำ! ฝีมือคนไทย พิชิตเชื้อโรคสุดฮิตที่มากับหน้าฝน

ฤดูฝนเป็นช่วงที่คนเราเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากฝนได้ชะล้างมลพิษที่มีอยู่ในอากาศตกลงมาสู่ตัวเรา รวมถึงอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เกิดความอับชื้นและน้ำท่วมขัง อันเป็นสาเหตุของแหล่งเชื้อโรคมาสู่เราได้มากมาย 

โดยเฉพาะ ยุงลายภัยร้ายใกล้ตัวที่มองข้ามไม่ได้โดยเฉพาะเด็ก ๆ  ต้นเหตุของไข้เลือดออก ที่เมื่อปี 2565 พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 27,912 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตทั้งหมด 25 ราย ในขณะที่ ปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม พบผู้ป่วยไข้เลือดออกแล้ว 16,550 ราย เสียชีวิตแล้ว 14 ราย นอกจากไข้เลือดออกแล้วยังมีอีกหลายโรคไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัด, โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ปะปนมากับน้ำฝน หรือแม้แต่โรคที่เกิดจากเชื้อราในร่มผ้า 

ด้วยเหตุนี้นักวิจัยไทยจึงมีการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อนำมาต่อป้องกันอันตรายจากโรคเหล่านี้ วันนี้ขอนำเสนอ 5 ตัวอย่างนวัตกรรมการดูแลสุขภาพ ฝีมือคนไทย ไอเทมดี ๆ ที่จะมาช่วยป้องกันเชื้อโรครอบตัวเราในช่วงหน้าฝนที่กำลังจะมาถึงนี้

บริษัทอิคาริ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ในการกำจัดและยับยั้งการแพร่พันธ์ของยุงลาย เป็นการคิดค้นสารกำจัดลูกน้ำยุงลายสูตรใหม่ด้วยการใช้ ‘ซีโอไลท์’ ทดแทน ทรายอะเบท โดยผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก ว่าสามารถใช้ในการป้องกันกำจัดยุงลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมลูกน้ำยุงลายได้นานกว่า 3 เดือน ด้วยสูตรผสมและเทคโนโลยีพิเศษ 

โดย ผลิตภัณฑ์สารกำจัดลูกน้ำยุงลายยี่ห้อ เอซาย (AZAI) ถือเป็นรายแรกในประเทศไทยและรายแรกของโลกที่นำซีโอไลท์มาใช้ เพราะส่วนใหญ่ในตลาดมักใช้ทรายอะเบทเป็นผลิตภัณฑ์แทบทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ LeO-Trap กับดักไข่ยุงลาย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนารูปแบบกับดักยุงโดยกับดักไข่ยุงนี้ ทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติและฟีโรโมนหอยทะเล จะช่วยล่อให้ยุงเข้ามาวางไข่ภายในกับดักเป็นการตัดตอนไม่ให้มีปริมาณยุงเพิ่มขึ้นจนกระทั่งหมดไป ในผลิตภัณฑ์นี้จะใช้ร่วมกับสารกำจัดลูกน้ำยุงลายยี่ห้อเอซาย (AZAI) สามารถตัดวงจรลูกน้ำ ยุงลาย

ซึ่งช่วยลดปัญหาโรคไข้เลือดออกไข้ชิก้า ไข้มาลาเรีย และช่วยลดการแพร่พันธุ์ยุงจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถนำไปวางตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำ ใต้ต้นไม้ หรือภายในบริเวณบ้านตามที่ต้องการ

โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2560 โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

ในช่วงหน้าฝน “ไข้เลือดออก” ยังเป็นโรคระบาดที่อันตรายในประเทศเขตร้อนที่มี “ยุงลาย” เป็นพาหะของโรค ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี เจ้า ‘สติกเกอร์กันยุง BUG GUARD’ เกิดขึ้นมาจากประสบการณ์ของเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่เคยป่วยเป็นไข้เลือดออกในวัยเด็ก แล้วสงสัยว่าทำไมจึงไม่มียารักษา

กระทั่งเรียนจบคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงทราบว่าบริษัทยาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่อากาศหนาว ไม่พบปัญหาเรื่องยุงหรือไข้เลือดออก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำสมุนไพรไทยมาวิจัยเพื่อผลิตแผ่นสติกเกอร์กันยุงรายแรกของไทยและประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด รายเดียวที่ไล่ยุงไทยได้จริงปลอดภัยกับเด็กแรกเกิด 

นอกจากนี้ช่วงหน้าฝน หลายคนอาจเจอปัญหาเด็ก ๆ ป่วยบ่อย นอนไม่หลับ ภูมิแพ้ งอแงตลอด เพราะปัญหาเหล่านี้อาจกวนใจเด็ก ๆ อยู่ ‘สติกเกอร์หัวหอม’ บรรเทาหวัดสำหรับเด็ก จึงเป็นตัวช่วยในการบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกเยอะ หายใจไม่สะดวก ภูมิแพ้ในเด็กเล็ก

สิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยให้จมูกสดชื่น หายใจสะดวกโล่งสบาย ซึ่งจากการวิจัยในหัวหอมแดง มีน้ำมันอัลลิลิก ไดซัลไฟด์ (Allilic disulfides oil) เป็นน้ำมันหอมระเหย รักษาอาการหวัดเบา ๆ ที่ไม่มีไข้โดยน้ำมันอัลลิลิก ไดซัลไฟด์จากหัวหอมจะช่วยต้านสิ่งแปลกปลอม ลดการอักเสบ ต้านเชื้อไวรัส ขับเสมหะ ต้านเชื้อแบคทีเรียได้

บริษัท เพอร์มา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้คิดค้นและเจ้าของนวัตกรรม ‘เส้นใยเพอร์มา’ เทคโนโลยีขั้นสูงของวงการสิ่งทอที่ผสานนาโนซิงค์ออกไซด์ฝังแน่นเข้าไปในเส้นใย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างคงทนถาวร และปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการใช้งาน เพื่อตอบโจทย์สุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับ ‘เส้นใยเพอร์มา’ เป็นนวัตกรรมที่ถูกวิจัยและพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีแนวคิดอยากสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าของสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน จนสามารถนำอนุภาค ‘Nano Zinc’ ซึ่งเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ผสมผสานเข้าไปอยู่ในเส้นใยสิ่งทอ 

ด้วยเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า Extrusion Nano Zinc ซึ่งเป็นการฝังตัวเข้าไปในเส้นใยสิ่งทอแทนวิธีการเคลือบบนเส้นใยแบบทั่วไป จากนั้นจะถูกนำไปปั่นเป็นเส้นด้าย ถักทอเป็นผืนผ้า และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน หน้ากากอนามัย ผ้าเช็ดตัว พื้นรองเท้า กางเกงชั้นในที่ช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อในช่องคลอด

โดยผลิตภัณฑ์ของเพอร์มามีคุณสมบัติพิเศษ คือเนื้อผ้าที่นุ่ม ใส่สบาย แห้งง่าย ไม่อับชื้น จึงช่วยลดปัญหาเรื่องแบคทีเรีย ที่ส่งผลให้เกิดกลิ่น ที่มาจากความอับชื้น ลดปัญหาเรื่องกลิ่นอับชื้นที่จับบนเส้นใยได้ดีขึ้น ลดปัญหาเรื่องเชื้อราในร่มผ้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเส้นใยเพอร์มามีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดผดผื่น เชื้อรา นั่นเอง

ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ (A-MED) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช. ผลิตโดยผู้ผลิตเอกชนที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิตตามมาตรฐาน ISO 13485 ในการผลิตหน้ากากอนามัย

โดยความพิเศษของหน้ากากอนามัยเซฟีพลัส คือ มีความหนา 4 ชั้น แผ่นชั้นกรองพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการเคลือบสารไฮดรอกซีอาปาไทต์และไทเทเนียมบนเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็กและจุลินทรีย์ จึงช่วยป้องกันฝุ่น PM2.5 และกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้ทั้งไวรัสและแบคทีเรียเมื่อถูกแสงแดด 

ซึ่งข้อดีของเซฟีพลัส คือผ่านการออกแบบให้มีความกระชับกับใบหน้า หายใจได้สะดวก ไม่อึดอัด ทำให้สวมใส่ได้เป็นเวลานาน ที่สำคัญหน้ากากอนามัยเซฟีพลัสผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ 99%

โดย Safie Plus มีความแตกต่างจากหน้ากากอนามัยทั่วไป เนื่องจากหน้ากากอนามัย Safie Plus ทั่วไปจะประกอบด้วยผ้าจำนวน 4 ชั้น ชั้นนอกสุดทำหน้าที่ป้องกันน้ำ ชั้นกลางจะเป็นชั้นกรอง ส่วนชั้นที่ 3 จะช่วยซับน้ำที่เกิดขึ้น

ในขณะ Safie Plus จะเพิ่มชั้นกรองขึ้นอีก 1 ชั้น คือผ้ากรองนอนวูฟเวนที่เป็นเส้นใยธรรมชาติผสมพอลิเอสเตอร์ที่เคลือบด้วยวัสดุเชิงประกอบ นั่นคือ HYDROXYAPATITE และ TITANIUM DIOXIDE แทรกไประหว่างชั้นนอกสุดกับชั้นกลางของหน้ากากอนามัยทั่วไป

โดยอยู่ช่องว่างระหว่างเส้นใยของผ้าทั้งสามชั้น จึงช่วยดักจับ ป้องกันฝุ่น PM2.5 และป้องกันสารพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ รวมถึงกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และไวรัสๆได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ไม่ให้ลอดผ่านหน้ากากอนามัยไปสู่ผู้สวมใส่ และสามารถย่อยสลายสิ่งสกปรกเหล่านี้ทำให้ผู้สวมใส่มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น

‘เครื่องกำจัดเชื้อโรคด้วยวิธีการฉายแสงยูวีซี’ เป็นนวัตกรรมจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ใช้ฆ่าเชื้อโรคในโรงพยาบาลหรือสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ ช่วยลดการตกค้างของสารเคมี และการใช้น้ำยาพ่นฆ่าเชื้อ ผลงานวิจัยพัฒนาโดย ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์  

สำหรับ เครื่องกำจัดเชื้อ Girm Zaber Station จะทำงานโดยใช้รังสีอัลตราไวโอเลตที่มีความยาวคลื่นอยู่ในย่านความถี่ 254 นาโนเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ทั้งบนพื้นผิวเครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงไวรัสในฝอยละอองในอากาศ 

สำหรับวิธีการใช้งานต้องใช้ในพื้นที่ปิด (ไม่มีสิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช) ใช้เวลากำจัดเชื้อโรคเฉลี่ยจุดละ 5-15 นาที ช่วยลดเวลาทำความสะอาด ลดความเสี่ยงของผู้ปฏิบัติงาน และลดค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ โดย Girm Zaber Station ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบมาตรฐาน Lighting (มอก. 1955/EN55015) จากศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC)

จากทั้ง 5 นวัตกรรมนี้ สะท้อนให้เห็นว่า นวัตกรรมฝีมือคนไทย ไม่แพ้ใครในโลก ช่วยให้เรารับมือและป้องกันเชื้อโรคที่มากับหน้าฝนได้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งเป็นตัวอย่างแนวคิดสำหรับ SME ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ มาช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภค เพื่อต่อยอดธุรกิจและพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดจากการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วงหน้าฝนแบบนี้อย่าลืมหาไอเทมเหล่านี้มาใช้ จะได้ปลอดภัยและไม่เกิดโรค ด้วยความห่วงใยจาก Bangkok Bank SME

https://www.bangkokbanksme.com/en/6focus-nano-zinc-thai-innovation

https://www.nstda.or.th/home/performance_post/girm-zaber-uv-c-sterilizer/

https://www.nstda.or.th/home/performance_post/safie-plus/

https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/192102

https://www.youtube.com/watch?v=B66MtX_J2H4

https://happynoz.co.th/our-brand/bug-guard/

https://www.pidst.or.th/A1271.html

https://www.facebook.com/profile.php?id=100083298911024