โครงการบ้านสวนอิ่มสุข จากจุดเริ่มต้นที่คนต่างมองว่าบ้า
เทรนด์การทำบ้านจัดสรรหรือสร้างที่อยู่อาศัยตลอดกว่า
10 ปีที่ผ่านมา เป็นการสร้างบ้านรองรับชุมชมเมืองที่เติบโตและขยายตัว เน้นทำเลเป็นจุดขาย
เช่น ใกล้ถนนหลักสำคัญ ติดแนวรถไฟฟ้า อยู่ในย่านตัวเมือง ใกล้ตลาด ใกล้ชุมชม
ใกล้โรงพยาบาล หรือห้างร้านใหญ่ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลับไม่มีใน “โครงการบ้านสวนอิ่มสุข”
โครงการบ้านสวนอิ่มสุขเป็นโครงการที่ดินจัดสรรบนพื้นที่
114 ไร่ ตั้งอยู่ที่ 555 หมู่ 11
ถนนทางหลวงชนบท นย.5032 ตำบลทรายมูล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก มีการวางตัวโครงการห่างไกลออกไปจากคำว่า
“ความเจริญ” เพราะตั้งอยู่บนทุ่งดอนกันดารที่ถูกกล่าวขานกันมาในอดีต
ท่ามกลางพื้นที่การเกษตรและไม่มีแม้แต่ไฟถนนที่จะคอยส่องสว่างให้เดินทางปลอดภัยตลอดทาง
แต่กล้าแบ่งสรรพื้นที่ขายในราคากว่า 2 ล้านบาท กับที่ดินแปลงละ 2 ไร่
แถมไม่ใช่นายทุนหรือมหาเศรษฐีเงินหนาที่ไหน เป็นเพียงคนที่เติบโตขึ้นมาจากพื้นที่นี้ แค่มีโอกาสและวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจจึงกล้าคิด กล้าทำ นำสิ่งที่ใครๆ ต่างมองว่าเป็นไปไม่ได้ ให้มีความเป็นไปได้ เปิดโครงการมา 2 ปี มียอดจองเข้ามาจนเหลืออยู่เพียงแค่ 10 กว่าแปลงเท่านั้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ เพิ่มจุดขาย
โครงการบ้านสวนอิ่มสุข
มีจุดเริ่มต้นมาจากแนวคิด มุมมอง ที่กินขาดของคุณนิยม ธรรมเจริญ
รองประธานกรรมการ “บ้านสวนอิ่มสุข” และนักวิเคราะห์การตลาด ที่พ่วงความรู้ระดับปริญญาตรีนิเทศน์ศาสตร์และปริญญาโทสื่อสารการตลาด
มาพร้อมกับประสบการณ์การทำงานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์อันโชกโชน
กับหน้าที่คิดวิเคราะห์การตลาด จนทำให้เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล กล่าวว่า
“ผมเป็นคนพื้นที่เกิดตำบลบางสมบูรณ์ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ถนนยังเป็นแค่ถนนดิน ถึงแม้จะไปโตที่อื่นแต่สุดท้ายก็กลับมาปักหลักที่บ้านเกิด สร้างครอบครัว และหาลู่ทางในการทำธุรกิจของตัวเอง ก็มาทำร้านกาแฟแฟรนไชน์ที่ตลาดองครักษ์ และอยากกลับมาทำโครงการบ้านจัดสรรตามที่เคยคิดไว้ จนมีโอกาสได้มาทำที่นี่ร่วมกับหุ้นส่วนสำคัญอีก 2 ท่าน คือคุณประทีป อรชร เจ้าของทุนใหญ่ และผู้ใหญ่ที่นับถือ (ไม่ขอเอ่ยนาม)
สำหรับพื้นที่นี้นั้นในอดีตเป็นนาดอนถูกทิ้งร้างมานาน
เพราะไกลจากคลองส่งน้ำ (ส่วนคลองส่งน้ำหน้าโครงการเพิ่งมาพัฒนาภายหลัง) ต่อมามีผู้ใหญ่ที่นับถือได้มาซื้อที่ตรงนี้ถือครองกรรมสิทธิ์ไว้
จึงส่งต่อให้คุณนิยม กับคุณประทีป ช่วยกันพัฒนา ซึ่งความจริงมีอยู่ 3-4
แปลงด้วยกันภายในจังหวัดนครนายกนี้ มีทั้งที่แถวตำบลดอนยอ แถวบ้านนา และตัวเมือง
คุณนิยม บอกว่า ที่เลือกที่ดินตรงนี้เพราะเห็นว่ามีโอกาสพัฒนาได้ และความเจริญจะเข้ามาถึง ถ้าย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อนหน้าถนน 4 เลนส์ตรงจุดต่อจากแยกองครักษ์ไปบางน้ำเปรี้ยว ห้างโลตัสก็ยังไม่มาเปิด ไฟถนนที่เห็นเป็นหย่อมๆ นี้ก็ยังไม่มา สัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ยังมาไม่ถึง แต่มีถนนลาดยาง กับวิทยาลัยการอาชีพองครักษ์เกิดขึ้นแล้ว
“ผมก็มองว่ามีโอกาสที่ถนนสี่เลนส์จะเกิดขึ้นในเร็วๆ
นี้แน่นอนและความเจริญจะต้องตามมา เพราะถึงแม้พื้นที่ตรงนี้จะดูไม่ค่อยเจริญอยู่ห่างจากตัวเมืององครักษ์มา
10 กิโลเมตร ห่างจากรังสิต กรุงเทพราวๆ 69 กิโลเมตร ร้านสะดวกซื้ออะไรก็ไม่มี
ผมจึงปักหลักโครงการตรงนี้ในทันที”
โดยก่อนจะเริ่มเปิดโครงการขายได้ทำการจัดสรรแบ่งพื้นที่ด้านในไว้
มีการขุดบ่อ ทำถนนแบ่งโซนเรียบร้อยเป็นแปลงๆ ละ 2 ไร่ แล้วจึงติดป้าย
และทำสำนักงานขาย ตอนมาทำคนแถวนี้และคนสนิทที่รู้จักกันก็มาดูนะว่าเราทำอะไร ก็มีแต่คนค่อนขอดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมาขายที่ดินแปลงละ
2 ล้านในที่แบบนี้ ต่างๆ นานา หาว่าเราบ้ามากที่กล้ามาลงทุนในที่แบบนี้
แต่โครงการก็ดำเนินการตามแผนต่อไป และพอติดป้ายขายก็ได้ลูกค้าคนแรก
เป็นคุณยายที่มาพร้อมกับไอเดียว่าอยากสร้างบ้านที่มีพื้นที่กว้าง มีมุมปลูกต้นไม้
ทำสวน อยู่กับลูกหลาน โดยจองก่อนเลย 2 แปลง และจากไอเดียของคุณยายลูกค้ารายแรก
ทำให้โครงการมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยแนวคิด “บ้านสวน ที่อยู่อาศัยที่ออกแบบเองได้
ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบสุข” เพราะแถวนี้เงียบสงบ เหมาะต่อการหนีเมืองมาพักผ่อนหรือมาใช้ชีวิตหลังเกษียณ
ดังนั้นกลุ่มลูกค้าที่พุ่งเป้าไปก็จะเป็นลูกค้าที่มองหาสถานที่พักผ่อนต่างจังหวัดที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ
มากนัก เอาไว้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ”
รถติดและโควิดมาช่วยสร้างโอกาส
หลังเปิดโครงการ สร้างสำนักงานขายอย่างเป็นทางการก็มีลูกค้าแวะเวียนมาชมโครงการเรื่อยๆ
จากจำนวน 41
แปลงที่จัดสรรไว้เริ่มมีลูกค้าวางจอง โดยลูกค้ากลุ่มแรกเป็นคนพื้นที่ย่านใกล้เคียง
จากนั้นเป็นลูกค้ากลุ่มที่สองที่หนีเส้นทางหลักหนีรถติดช่วงเทศกาลเลี่ยงมาใช้ถนนสาย
นย.5032 ซึ่งเป็นถนนสายในตัดผ่านหน้าโครงการแต่เป็นถนนสายในที่คนพื้นที่นิยมใช้กัน
ลูกค้าที่มาจองไว้ก็ทำหน้าที่ให้โจทย์ทางโครงการมาสานต่อ เราก็พร้อมปรับพื้นที่ เขียนแปลนหาช่างสร้างบ้านให้ตามต้องการ โดยทีมงานชำนาญการ พอช่วงโควิด-19 เข้ามาก็ทำให้ตัวโครงการตอบโจทย์ชีวิตผู้คนมากขึ้น จากการที่ก่อนหน้าคนอยู่ห้องคอนโด บ้านจัดสรรที่มีพื้นที่ไม่มากได้ ตอนนี้เริ่มอยู่กันไม่ได้ เพราะทุกคนต้องการพื้นที่ให้ชีวิต ซึ่งการมีบ้านต่างจังหวัดที่ไม่ไกลจากเมือง มีพื้นที่ให้ทำสวนครัว ปลูกผักปลูกต้นไม้ใช้ชีวิตแบบนี้ กลายเป็นสิ่งที่จะตอบรับกระแส New Normal ที่เปลี่ยนเทรนด์การทำธุรกิจแนวนี้ได้
ปัจจุบันโครงการฯ ตรงนี้เหลืออยู่อีก 10
แปลงสุดท้าย ในราคาขายคือตารางวาละ 3,500 บาท ถ้าปิดการขายได้หมดก็จะไปเปิดโครงการที่อื่นต่อ
โดยนำเทรนด์พฤติกรรมผู้คนที่เปลี่ยนไปช่วงโควิด มาใช้ขับเคลื่อนโครงการ
ซึ่งคงไม่ต่างจากที่นี่มากนัก และสำหรับที่นี่คาดว่าอีก 2-3 ปีจะมีความเจริญเข้ามาถึง
จากการที่ส่วนงานราชการได้ขยายสาขามาอยู่ในบริเวณนี้ และกลายเป็นชุมชนใหม่ที่น่ารัก
คนที่พักที่นี่จะชอบความสงบสุขและพักผ่อนอาศัยได้อย่างสบายใจ จากธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ใกล้กรุงของสถานที่แห่งนี้
“สำหรับการลงทุนทำธุรกิจตรงนี้ ที่อาจดูสวนทางกับสิ่งที่นักลุงทุนใหญ่ๆ คนอื่นเขาจะทำกัน เป็นความเสี่ยงอย่างแน่นอน แม้ว่าทุกการลงทุนจะมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่ด้วยหลักคิดจุดขายที่มี ผมคิดว่าต้องไปรอดและมันเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับคนยุค New normal ที่ต้องการดิ้นออกจากห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ไปหาพื้นที่โล่งกว้าง ดังนั้นการทำธุรกิจยุคนี้ไม่ว่าจะทำอะไร จะต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความยืดหยุ่นสูง ตามติดสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ทันแล้วไปให้สุด ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นี้ด้วย” คุณนิยม กล่าวทิ้งท้าย