Bangkok Bank InnoHub ปั้นสตาร์ทอัพ สู่มิติใหม่ธุรกิจการเงิน
เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ กับการเสนอผลงานของสตาร์ทอัพด้านการเงินระดับโลกภายใต้ชื่องาน ‘Demo Day 2019 – Bangkok Bank InnoHub Season 2’ จัดขึ้นโดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดย Bangkok Bank InnoHub โครงการที่ช่วยพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของสตาร์ทอัพ วิสัยทัศน์ของธนาคารกรุงเทพ ที่มีต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเปิดรับความคิดสร้างสรรค์จากสตาร์ทอัพภายนอกเข้ามาพัฒนาการให้บริการ เพื่อผลักดันให้ธนาคารพัฒนาอย่างเต็มที่ให้ทันกับยุคสมัย Digital Disruption ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
Bangkok Bank InnoHub เป็นโครงการ Startup Accelerator นอกจากจะเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของสตาร์ทอัพ
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำ Proof-of-Concept (PoC) ร่วมกับธนาคารอย่างใกล้ชิดในวระหว่างที่เข้าร่วมโครงการ
ยังได้ทำงานร่วมกับ Mentor ซึ่งเป็นผู้บริหาร
และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงิน โดยหลังจากจบโครงการ 12
สัปดาห์ สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสนำเสนอนวัตกรรมของตนกับนักลงทุน
ถือเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจและการทำตลาดในประเทศไทย
ที่สำคัญโครงการนี้ถือเป็นภาพลักษณ์ด้านนวัตกรรมของธนาคารอีกด้วย โดยธนาคารมีทีม R&D ภายในของฝ่ายนวัตกรรมในการคิดค้นและพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี ที่เป็นตัวเร่งการเติบโตภายในและเตรียมความพร้อมให้องค์กรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ออกสู่สังคม
Inspiring Change เปลี่ยนนวัตกรรมตอบโจทย์ธุรกิจ
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ ได้วางเป้าหมายให้โครงการนี้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจการเงินในอนาคต
รวมถึงกำหนดกลยุทธ์ในแผนงานดิจิทัล ที่จะนำเทคโนโลยีต่างๆ
เข้ามาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ คิดค้น
และสร้างสรรค์บริการทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรมและให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารจะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมและพร้อมรับมือกับความท้าทายจากเทคโนโลยีทางการเงิน
เหนือสิ่งใดธนาคารยังมีเป้าหมายในการ
Inspiring Change ซึ่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยยกระดับการแข่งขันด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการเงิน
“Banking Industry” เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพทั้งในและต่างประเทศได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
สำหรับทิศทางของ Bangkok Bank InnoHub จะมุ่งให้เกิดผลลัพธ์ที่รวดเร็วและคุ้มค่ามากที่สุด (Results-driven) ซึ่งธนาคารเปิดรับทุกแนวทางความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ที่จะช่วยให้การเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ที่ช่วยให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และถือเป็นการสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ร่วมกับสตาร์ทอัพในระยะยาว
ความสำเร็จที่ผ่านมา
ทั้งนี้โครงการ Bangkok Bank InnoHub ได้ผ่านมาแล้ว
2 ซีซั่น โดยแต่ละซีซั่นมีจำนวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจากทั่วทุกมุมโลกเพิ่มขึ้นทุกปี
และหลังจากจบโครงการสตาร์ทอัพที่ถูกคัดเลือกแต่ละรายเติบโตขึ้นอย่างมาก เช่น
มีการขยายทีมเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า, การชนะรางวัลในงานต่างๆ,
บางรายสามารถเข้าไปเปิดตลาดในประเทศอื่นๆ ได้สำเร็จ
ล่าสุดบางรายระดมทุนไปถึง Series B ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ปัจจุบันโครงการซีซั่น 2 ได้ดำเนินการจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และยังคงทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพ
ในการร่วมผลักดันให้ธนาคารสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่สังคมอย่างต่อเนื่องและยังอยู่ในระหว่างการทำงานร่วมกันกับสตาร์ทอัพ
ทั้งหมด 3 ราย จาก ซีซั่น 2 ซึ่งอยู่ในช่วงของการทดลอง
(Pilot) กับสตาร์ทอัพ 1 ทีม
เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้เชิงธุรกิจผ่านการทดสอบ Solution กับกลุ่มลูกค้าจริงในวงจำกัดและยังอยู่ระหว่างพัฒนา ร่วมกับสตาร์ทอัพอีก
2 ทีม ในการเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนากระบวนการทำงานของธนาคารให้รองรับยุคดิจิทัลซึ่งใกล้จะสำเร็จแล้ว
สำหรับเป้าหมายในอนาคตจะต่อยอดธุรกิจด้วยการนำผลิตภัณฑ์และบริการของสตาร์ทอัพในโครงการมาพัฒนาร่วมกับสินค้าและบริการของทางธนาคารออกสู่สังคม
เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มสตาร์ทอัพ
ที่มีแนวคิดใหม่ได้มีโอกาสพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง
ทาง
Bangkok Bank InnoHub จึงจะเปิดการรับสมัครในรูปแบบ
Rolling Application เข้ามาใช้กับทางโครงการ
เพื่อให้การพัฒนาศักยภาพของกลุ่มสตาร์ทอัพ หน้าใหม่ให้มีโอกาสและความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันก็พร้อมสนับสนุน Ecosystem อย่างเต็มที่ด้วยทรัพยากรและเครือข่ายที่มีอีกด้วย
ส่วนรูปแบบและแนวทางความร่วมมือที่จะทำให้เกิดการเติบโต
และความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาวนั้น ทางโครงการ ฯ ได้เน้นใน 5 เรื่องหลักๆ ที่ทางธนาคารให้ความสนใจเป็นพิเศษ ดังนี้
1. Creating
Unique Customer Experience: เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. Digitalization
and Automation: เทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับขั้นตอนการปฏิบัติงานต่างๆ
โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีอย่าง Automation และ AI ช่วยธุรกิจจัดการขั้นตอนการทำงาน และช่วยให้องค์กรทำงานได้ดีกว่าเดิม
3. Future SME Solution: นวัตกรรมที่จะเข้าช่วยแก้ไขปัญหาให้กับ SMEs เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการบริหารงานของลูกค้า SME
ของธนาคาร
4. Innovative
Payment: โซลูชันในการจ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ
เทคโนโลยีชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ
5. Discovering Cutting Edge Technology: เปิดกว้างสำหรับนวัตกรรมไม่จำกัดเทคโนโลยีและหัวข้อการใช้งานโดยมีโจทย์ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ
ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของสถาบันการเงิน
โดยธนาคารเปิดรับความร่วมมือกับบริษัททางด้านเทคโนโลยี
ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
Strategic Partnership ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือในระยะยาวเพื่อร่วมพัฒนา
หรือออกแบบผลิตภัณฑ์/บริการ สู่ตลาดร่วมกัน
White label solution สตาร์ทอัพพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้กับองค์กรนำไป launch
สู่ตลาดภายใต้ brand ขององค์กรใหญ่
ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ (B2B2C solution)
Strategic Investment องค์กรลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพโดยสตาร์ทอัพ
สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากร (resource ) ขององค์กรได้มากขึ้น และในบางกรณีองค์กรใหญ่อาจเลือกที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทสตาร์ทอัพอีกด้วย
กล่าวได้ว่า Bangkok Bank InnoHub ไม่เพียงสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม
เครือข่ายต่างประเทศของธนาคาร ยังช่วยเชื่อมโยงสตาร์ทอัพสู่โอกาสที่เปิดกว้างในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย