ทุกวันนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจที่ไม่ว่าใครก็อยากจะลงทุน
และมองว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยซึ่งมีการชี้ชัดแล้วจาก
ETDA ว่ามูลค่าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า
3.15 ล้านล้านบาทแน่นอน
ปัจจัยจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ที่ธุรกิจขายของออนไลน์สามารถเปลี่ยนชีวิตใครหลายๆ คนได้มากมาย
แม้จะเทียบไม่ได้กับการค้าปลีกแบบเดิม เพราะมีสัดส่วนการซื้อขายประมาณร้อย 5 ของการค้าปลีกทั้งหมด แต่ทว่าตลาดนี้เติบโตร้อยละ
15-30 ต่อปี
ดังนั้นเป็นไปได้มากว่าในไม่ช้าช่องทางออนไลน์กับช่องทางค้าปลีกแบบออฟไลน์จะไล่เบียดกันมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ไวรัส Covid-19 กำลังระบาด ทุกคนต่างไม่อยากออกจากบ้านไปไหน
ส่งผลให้การซื้อขายออนไลน์ยิ่งถูกกระตุ้น และได้รับผลกระทบในแง่บวกเข้าไปใหญ่
ซึ่งทุกวันนี้เป็นยุคแห่งสมาร์ทโฟนที่สามารถซื้อทุกอย่างได้ผ่านโทรศัพท์แค่เครื่องเดียว
ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ที่ชื่นชอบการแชท
การติดต่อสื่อสารผ่านสมาร์ทโฟนเป็นทุนเดิม
ด้วยเหตุนี้ทำให้การขายสินค้าออนไลน์ทั่วไปที่เคยเกิดขึ้น เปลี่ยนมาเป็นการซื้อขายออนไลน์ ที่พ่วงการแชทเข้ามาด้วย ถึงจะสร้างยอดขายได้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะผู้บริโภคกลุ่มใหม่เสพติดการแชทจากสมาร์ทโฟนเป็นหลักมากกว่า ดังนั้นจาก E-Commerce ที่มีจึงเปลี่ยนเป็นวิธีการขายด้วย C-Commerce ซึ่งเป็นรูปแบบการขายแบบใหม่ที่เน้นความง่าย สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ผู้ซื้อในทุกเรื่องราวที่ต้องการ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
C-commerce คืออะไร
จริงๆ
แล้วคือการซื้อขายผ่านทางช่องแชทเป็นหลัก ย่อมาจาก Conversational
Commerce ซึ่งก็คือ การแชทคุยกันเพื่อปิดการขายนั่นเอง
ก็จะมีทั้งแชทกับคนจริงๆ หรือแชทกับบอท และไม่ใช่แค่กระบวนการสั่งซื้อเท่านั้น
แต่กระบวนการติดต่อทุกอย่างเองก็เช่นกัน ไปจนถึงการบริการหลังการขาย
นี่ไม่ใช่แค่เทรนด์ธุรกิจโลกที่คุณต้องจับตามอง
แต่มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเทศไทยแบบ 100% เพราะ Google เองเคยให้ข้อมูลไว้ว่า
พฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนไทยนั้นจะแตกต่างจากประเทศอื่นๆ มาก
เพราะคนไทยจะชอบคุยมากกว่า ซึ่งต่างประเทศจะไม่คุยให้วุ่นวาย เขามองว่ามันเป็นการเสียเวลา
และกดสั่งซื้อตามที่ระบบมีเท่านั้นพอ
ส่วนคนไทยจะทักถามคุยกับผู้ให้บริการทุกครั้ง แม้จะมีข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์หรือแดชบอร์ดมากมายแค่ไหนก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจ
และยืนยันในการตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งทำให้เทรนด์ C-Commerce
นี้เติบโตและน่าจับตามอง
รวมถึงส่งผลกระทบต่อยอดขายได้แบบมหาศาลในประเทศไทย
เหตุผลที่คนออนไลน์ชื่นชอบการแชทเพราะอะไร?
C-commerce เป็นหนึ่งในช่องทางที่จะช่วยให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ได้กล่าวไป
มีการวิจัยพบว่าลูกค้ามักจะเกิดความเชื่อใจ และรู้สึกดีต่อแบรนด์มากขึ้น หากได้มีการติดต่อพูดคุยกับบุคคลโดยตรง
แทนที่จะสั่งซื้อแล้วจบไป ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่แค่กับประเทศไทยเท่านั้น
แต่เป็นกับผู้บริโภคทุกคนทั่วโลก
มีผู้ทำแบบสำรวจจากอินโดนีเซียเผยว่า
เขาพร้อมที่จะซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านการแชทมากกว่า
เพราะปกติเขาไม่เคยซื้อของออนไลน์เลย แต่ล่าสุดเพิ่งซื้อรองเท้าผ่านการแชทไป
เพราะคนขายโชว์ภาพสินค้า และวิดีโอจริงๆ ตอนใส่ให้ดู
ซึ่งนี่เป็นหลักฐานยืนยันอย่างดีว่า
การแชทในโลกออนไลน์นั้นสามารถปิดการขายได้ดีกว่ามาก และมีแนวโน้มจะขยายตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก
1.26 เท่า
ดังนั้นการพูดคุยสื่อสารผ่านช่องแชทจะกลายเป็นทางสำคัญทันทีในการที่จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีกับแบรนด์ของคุณ
การเพิ่มช่องทางแชทให้หลากหลาย หรือมีคนตอบแชทที่มากขึ้นเอง ก็อาจเป็นหนทางที่ดีที่คุณต้องวางแผนตั้งแต่วันนี้เช่นกัน
ทำไม C-commerce ถึงน่าสนใจในประเทศไทย
การทำธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยนั้นนับว่าเป็นความโชคดีอย่างมาก
เพราะเป็นช่องทางที่ทำเงินได้ง่าย และมีผู้รอใช้บริการอยู่เยอะทีเดียว
เนื่องจากจากการสำรวจนั้นเฉลี่ยแล้วคนไทยเป็นผู้ใช้งานร้านค้าออนไลน์มากที่สุดใน 9 ประเทศทีเดียว ซึ่งคนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงถึงวันละ
9 ชั่วโมง ในขณะที่คนอเมริกาใช้เน็ตวันละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
และด้วยความที่คนไทยนิยมใช้งานแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการแชทในการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็น Line หรือ Messenger
ส่งผลให้ติดพฤติกรรมการแชท และกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานในการทำสิ่งต่างๆ
ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยรูปแบบ C-commerce นั่นเอง
การติดต่อสื่อสารแบบ Two way communication ทำให้คนไทยกล้าที่จะเปิดใจใช้บริการต่างๆ ง่ายขึ้น เพราะเรื่องของ E-Commerce ในประเทศไทยนับเป็นเรื่องที่ใหม่ และเพิ่งเข้ามาได้ไม่กี่ปีเท่านั้นหากเทียบกับประเทศใหญ่ๆ ทั่วโลกแล้ว แต่กำลังซื้อของคนไทยมีสูง และพร้อมที่จะเรียนรู้ใช้งานสิ่งใหม่ๆ ขอแค่มีคนให้คำแนะนำ ทำให้การซื้อขายแบบ C-commerce กลายเป็นช่องทางหลักที่ทำให้คนไทยเชื่อมั่นในระบบได้มากขึ้นกว่าเดิม และเกิดการซื้อสินค้าอย่างง่ายดายนั่นเอง
เทรนด์การทำธุรกิจออนไลน์แบบ C-Commerce นั้นจะอยู่คู่กับคุณไปอีกยาวนาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานอายุน้อยรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นใช้บริการตามมาในอนาคตนี้ จะชื่นชอบ C-commerce อย่างมาก เพราะเขาเกิดมาพร้อมกับการแชท รายล้อมไปด้วยสมาร์ทโฟน และแชทแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ดังนั้นการวางระบบหลังบ้านเพื่อรองรับ C-commerce ไว้ตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้ในอนาคตคุณมีฐานที่ดี และมียอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ เป็นที่รู้จัก และกินส่วนแบ่งในตลาดก่อนใครอย่างแท้จริง