บ้าน หรือที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ
ถือเป็นความต้องการพื้นฐานของคน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้พฤติกรรมการซื้อบ้านปรับเปลี่ยนตามไปด้วย
ผู้บริโภคมีข้อมูลมากขึ้นในการเลือกซื้อบ้าน และนี่คือผลสำรวจพฤติกรรมคนซื้อบ้านล่าสุดของดีดีพร็อบเพอร์ตี้
ผลสำรวจ Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุด
ที่สอบถามผู้บริโภคอายุตั้งแต่ 22 - 60 ปีขึ้นไป จำนวน 945 คน เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย พบว่าคนไทยส่วนใหญ่ค้นหา
(Search) และค้นคว้าข้อมูล (Learn) เพื่อเปรียบเทียบ
(Compare) โครงการและปัจจัยต่างๆ ตั้งแต่ราคา ทำเล
โปรไฟล์ของโครงการ ไปจนถึงใช้เครื่องมือออนไลน์ต่างๆ
ที่อำนวยความสะดวกก่อนตัดสินใจ
รวมไปถึงการคำนวณภาระการผ่อนหรือดอกเบี้ย ในขณะที่มีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมด้านการเงินก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมากขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้นยังพบว่า อายุและรายได้เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ในด้านต่างๆ ด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
Platform ยอดนิยมที่ผู้บริโภคไทยใช้เมื่อต้องหาข้อมูล
พฤติกรรมพื้นฐานของผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ
ก็ตาม คือการ “ค้นหา” ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมถึงการซื้อหรือเช่าอสังหาฯ
ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูงที่ต้องให้ความสำคัญในการคัดเลือก โดยในภาพรวมพบว่า
v อันดับหนึ่งคือ โซเชียลมีเดีย 72% กระโดดจากการสำรวจครั้งก่อนอยู่ในอันดับสามที่ 50%
v อันดับสองคือ เว็บไซต์ของผู้ประกอบการอสังหาฯ จำนวน 69% โดยครั้งที่ผ่านมาอยู่ในอันดับสี่ 43%
v อันดับสามคือ เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาฯ อยู่ที่ 61% ตกอันดับจากครั้งก่อนที่ติดอันดับสองด้วยจำนวน 61% เท่ากัน
ผลการสำรวจครั้งล่าสุดนี้พบว่า ช่องทางการค้นหาข้อมูลของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก
จากครั้งก่อนที่อันดับหนึ่งคือการเข้าชมโครงการด้วยตนเองถึง 79% ตามด้วยเว็บพอร์ทัลอสังหาฯ โซเชียลมีเดีย
และเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ
โดยเมื่อเจาะลึกตามช่วงวัยในครั้งนี้พบว่าผู้บริโภคอายุระหว่าง
22-29 ปี ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียค้นหาข้อมูลอสังหาฯ
มากถึง 81% รองลงมาคือเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ 77%
ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะ
เมื่อจะซื้อ ราคา ทำเล
ข้อมูลด้านการเงินต้องมา
คำถามที่น่าสนใจและเพิ่มขึ้นมาสำหรับการสำรวจครั้งนี้คือ
เมื่อต้องการซื้อหรือเช่าอสังหาฯ ข้อมูลที่ผู้บริโภคค้นหามากที่สุดคืออะไร
โดยในภาพรวมพบว่า 3 อันดับแรก คือ
· ราคา 83%
· ตามด้วยทำเล 72%
· ข้อมูลทางการเงิน 69%
สิ่งที่น่าสนใจคือพบว่ากลุ่มคนอายุระหว่าง
22-29 ปี ให้ความสำคัญกับข้อมูลทางการเงินถึง 78% อีกทั้งยังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภาษี 59%
มาตรการของรัฐบาล 46% เอกสารและกระบวนการทางกฎหมาย 50% เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มต้นทำงานจึงยังไม่มีเงินออมมากนัก
ข้อมูลดังกล่าวจึงมีความสำคัญมากสำหรับคนวัยนี้ มากกว่ากลุ่มคนอายุ 30-60 ปี ที่ค่อนข้างมีความพร้อมทางการเงินแล้ว
ถ้าจะเช่าสิ่งที่อยากรู้คือความคุ้มค่า
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ
ทั้งภายในและภายนอกโครงการอสังหาฯ ก็เป็นส่วนสำคัญทีผู้บริโภคต้องนำมาใช้พิจารณา เพื่อคัดเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรอบด้านและคุ้มค่ากับการลงทุนให้มากที่สุด
สำหรับปัจจัยภายในสำคัญ ที่นำมาพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่
· ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม./ตร.ว.
59%
· ขนาดของที่พักอาศัย 50%
· สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
45%
ราคาและขนาดของที่พักอาศัยเป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคนำมาใช้พิจารณา เพื่อดูว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่นำมาใช้คัดเลือกด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องของการออกแบบโครงการ โปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ ยังไม่ใช่ส่วนสำคัญที่ใช้พิจารณาเป็นอันแรกๆ
สำหรับปัจจัยสำคัญภายนอกโครงการอสังหาฯ
ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ 3 อันดับแรก คือ
· ทำเลของที่อยู่อาศัย 83%
· ความปลอดภัยของทำเล 65%
· โครงสร้างพื้นฐาน /
สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ 62%
ทำเลยังครองแชมป์อันดับแรกเช่นเดียวกับการสำรวจครั้งก่อนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
ตามด้วยความปลอดภัยของทำเล และโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบพื้นที่
นอกจากนี้ 25%
ให้ความสำคัญเรื่องของการพัฒนาพื้นที่โดยรอบในอนาคต และอีก 23% สนใจเรื่องสินเชื่อบ้าน ทั้ง 2
เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจไม่ใช่น้อย
ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมองไปถึงเรื่องของการลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต
เงินทอง ต้องวางแผน
เมื่อมีแผนว่าจะตัดสินใจซื้อบ้านแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “เงิน” ที่ต้องใช้ในการลงทุน จากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้พบว่า
ผู้คนส่วนใหญ่มีการเตรียมออมเงินก่อนที่จะค้นหาอสังหาฯ โดย
- 44%
เริ่มออมเงินก่อนค้นหาอสังหาฯ
- 31%
เริ่มออมหลังจากประเมินราคาอสังหาฯ
- 20%
เริ่มออมเงินหลังจากตัดสินใจซื้ออสังหาฯ
เท่ากับว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าการลงทุนซื้ออสังหาฯ จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก การวางแผนเก็บออมแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะเริ่มค้นหาบ้านที่ถูกใจ จะช่วยลดความกดดันทางด้านการเงินไปได้มากพอสมควรกว่าการเพิ่งเริ่มต้นออมเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านแล้ว
จากผลสำรวจพฤติกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ก่อนตัดสินใจซื้อหรือเช่าอสังหาฯ สักแห่ง ผู้บริโภคจะพิจารณาในหลายด้าน เพื่อหาสิ่งที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการในระยะยาว เพราะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง และอีกมุมหนึ่งคือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการได้ทราบว่า ควรวางกลยุทธ์หรือพัฒนาโครงการอย่างไรให้เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง