เมื่อเร็วๆ นี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมทางไกลกับผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟ
เพื่อติดตามสถานการณ์การค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟของไทย
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่าในช่วงวิกฤตนี้ทำให้ยอดจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปของไทยขยายตัว
รวมทั้งยอดส่งออกยังเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากไทยมีศักยภาพด้านการผลิต
เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่มีการผลิตลดลง
จึงเป็นโอกาสทองในการส่งออกกาแฟสำเร็จรูปของไทย
ผู้ส่งออกสินค้ากาแฟสำเร็จรูปแจ้งว่า ได้รับการติดต่อจากประเทศผู้นำเข้าที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟจากไทย เนื่องจากหลายประเทศผลิตกาแฟสำเร็จรูปลดลง ในขณะที่ไทยสามารถผลิตได้แม้ในช่วงวิกฤต ทำให้ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟได้มากขึ้น ขณะเดียวกันรสนิยมของผู้บริโภคเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งสนใจบริโภคกาแฟคั่ว ที่มีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟจากไทยกับต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบส่งออก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกกาแฟคั่วผสม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สำหรับไทยเป็นผู้ส่งออกกาแฟสำเร็จรูปอันดับที่
11 ของโลก ในปี 2562 ไทยส่งออกปริมาณ
24,812 ตัน คิดเป็นมูลค่า 92.34 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สปป.ลาว ร้อยละ 26 เมียนมา ร้อยละ 24
และกัมพูชา ร้อยละ 20 โดยไทยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งออกกาแฟสำเร็จรูป
ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนที่ร้อยละ 0 รวมถึงนำเข้าเมล็ดกาแฟดิบจากแหล่งนำเข้าสำคัญ
อาทิ เวียดนาม สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ที่อัตราภาษีร้อยละ 5 ซึ่งทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2563 (ม.ค.-มี.ค.) ไทยส่งออกกาแฟสำเร็จรูปปริมาณ 6,606
ตัน เป็นมูลค่า 25.19 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขยายตัวร้อยละ 14.69 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยไทยยังส่งออกไปตลาดรอง เช่น ฮ่องกง และสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 28 และ 88 ตามลำดับ เป็นต้น
ขณะที่สถานการณ์ของธุรกิจกาแฟในประเทศ
จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social
Distancing ส่งผลให้ยอดขายลดลง
ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบการให้บริการ เป็นการขายแบบออนไลน์และแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น
รวมทั้งปรับเปลี่ยนสินค้าให้อยู่ในรูปแบบกาแฟพร้อมดื่ม
ซึ่งสามารถสั่งซื้อและเก็บไว้ได้นานขึ้น
รวมถึงปรับผังที่นั่งในร้านให้มีระยะห่างที่เหมาะสม
เพื่อรองรับการเปิดบริการหลังผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์
ส่วนผู้ประกอบการโรงคั่วกาแฟและผู้ผลิตกาแฟสำเร็จรูป
ให้ข้อมูลว่าสินค้ากาแฟสำเร็จรูป (3 in 1) กาแฟคั่วบด กาแฟแคปซูล และอุปกรณ์ชงกาแฟ
ที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและทางออนไลน์ มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น
ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อในปริมาณมาก อาทิ โรงแรม ภัตตาคาร และสายการบิน
มียอดขายลดลงเนื่องจากต้องปิดกิจการในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม หากผู้ผลิตไทยสามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานของกาแฟได้อย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การเก็บ การคั่ว และการแปรรูป จะทำให้กาแฟไทยมีความน่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น