ปัจจุบันผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกมีกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
ทั้งจากพฤติกรรมการ Work from home และกิจกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตและเล่นเกม
ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เพิ่มขึ้นด้วย นี่จึงเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไทยที่มีศักยภาพอยู่แล้ว
จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและขยายการส่งออกในตลาดโลกได้
ในปี 2562 ไทยเป็นผู้ส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อันดับที่ 6 ของโลก รองจากจีน สหภาพยุโรป สหรัฐฯ เม็กซิโก และฮ่องกง รวมถึงเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ขณะที่ไตรมาสแรกของปี
2563 (ม.ค.-มี.ค.) พบว่า ไทยส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
มูลค่าสูงถึง 3,943 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ
เช่น สหรัฐฯ สัดส่วนร้อยละ 37 ฮ่องกง สัดส่วนร้อยละ 16 อาเซียน สัดส่วนร้อยละ 14 สหภาพยุโรป สัดส่วนร้อยละ
14 และจีน สัดส่วนร้อยละ 11 เป็นต้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
2562 พบว่ามูลค่าส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ขยายตัวร้อยละ 14
หากจำแนกรายสินค้า พบว่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ซึ่งเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่ม
(สัดส่วนการส่งออกร้อยละ 75) ขยายตัวถึงร้อยละ 23 มีมูลค่าการส่งออก 2,960 ล้านเหรียญสหรัฐ
นับว่าไทยเป็นผู้ส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อันดับที่ 2 ของโลกรองจากจีน
ทั้งนี้การเปิดเสรีทางการค้าถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกสินค้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของไทยเติบโต
โดยปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับ 18 ประเทศ ได้แต้มต่อไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า
รวมถึงได้เป็นภาคีในความตกลงว่าด้วยสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information
Technology Agreement: ITA) ขององค์การการค้าโลก (WTO) ทำให้ได้ประโยชน์จากการยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียม ในสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศสมาชิก
นอกจากนี้ ไทยและสมาชิก WTO กว่า 50 ประเทศ
ยังได้จัดทำความตกลงขยายขอบเขตสินค้า หรือ ITA Expansion ไปยังสินค้าต้นน้ำและกลางน้ำอีก
201 รายการ
ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ
ส่วนประกอบวงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่เสียภาษีนำเข้า
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของไทย รวมถึงช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้มาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตอีกด้วย
ขณะเดียวกันในปัจจุบันไทยมีมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสะสมในสาขาการผลิตคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ ถึง 18,175 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการจ้างงานในสาขาอิเล็กทรอนิกส์กว่า 3 แสนคน
ทั้งนี้ผู้ประกอบการควรศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ทันต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดเล็กและเบา เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งควรวางแนวทางปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว และเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก