เลส บราวน์ (Les Brown) นักการเมืองชาวอเมริกัน
ที่กล่าวถ้อยคำอมตะที่ว่า “จงตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์
เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไปไม่ถึง คุณก็ยังได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดาว” นับวันจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
ในยุคที่โลกกำลังขับเคลื่อนเข้าสู่ทศวรรษใหม่ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสังคม
บวกกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี เราต้องเลือกว่าจะกล้าก้าวออกมาจาก Comfort Zone ฝึกตัวเองให้เป็นคนกล้าท้าทายสิ่งใหม่ จะออกแบบชีวิตและอาชีพตนเองอย่างไร เพื่อเพิ่มโอกาสและความสำเร็จให้ทันการเปลี่ยนแปลง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน
(SEAC) เชื่อว่าทางรอดสำคัญสู่การทำงานในโลกทศวรรษใหม่
คือ เรื่องการปรับ Mindset (วิธีคิด) และเปลี่ยน Skillset (ทักษะ) ในการทำงาน โดยเฉพาะปัจจุบันที่ทุกคนไม่สามารถคาดเดาถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวแปร ทั้งรูปแบบธุรกิจใหม่ การสื่อสารรูปแบบใหม่
หรือการเชื่อมโยงกันในระดับโลกที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
(Drivers of Change) ที่มีส่วนสำคัญต่อการผลักดันให้เราทุกคน
“ต้องมี” วิธีคิดและทักษะใหม่ๆ
เพื่อสร้างความสามารถในการพัฒนาและสร้างผลลัพธ์ให้เกิดตามที่ต้องการ
โดย SEAC
ได้ถอดรหัส 3 เคล็ดลับการออกแบบชีวิตและอาชีพในอุดมคติ
เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างความสำเร็จ แม้จะเรียนมาไม่ตรงสายก็สามารถทำงานที่เราฝันได้
เคล็ดลับที่ 1 – อย่ารอให้การทำงานมาเปลี่ยนชีวิตเรา
เราสามารถเลือกวิถีชีวิตและเลือกงานได้
•Technology
& Life Integration – เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในทุกมิติของการใช้ชีวิต
ทำให้ชีวิตเรามีตัวเลือกมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา
ไปจนถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหากเรารู้จักวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
•Work
& Life Integration – ปัจจุบันเราไม่สามารถแยกเรื่องของการทำงานออกจากการใช้ชีวิตได้อีกต่อไป ไม่มีใครที่บอกว่าทำงานแค่ 8 โมงถึง 6
โมงเท่านั้น เพราะเรื่องการทำงานถูกกลืนเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน และสิ่งที่เราทำได้คือการบริหารจัดการเวลาด้วยตัวเอง
เพื่อให้เกิดการบูรณาการของการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม
•Design
Your Own Career – ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนไป
คนเราสามารถออกแบบชีวิต ออกแบบการทำงานได้ด้วยตัวเอง
แต่อาจต้องเริ่มจากการตั้งคำถามสำคัญกับตนเอง เช่น
สำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
ต้องเริ่มจากการตั้งคำถามว่าอยากทำงานในอุตสาหกรรมแบบไหนและทักษะตัวไหนบ้างที่จำเป็นในการทำงานนั้นๆ
สำหรับคนที่เป็นฟรีแลนซ์ ต้องบอกตัวเองอยู่เสมอว่า อย่าหยุดอยู่แค่บทบาทหรืออาชีพเดียว เพราะความต้องการของลูกค้าทุกวันนี้เปลี่ยนเร็วมาก เราต้องหาวิธีเพิ่มคุณค่าในตัวเอง และสำหรับคนที่พึ่งจบใหม่ สิ่งที่ต้องทำคือต้องฝันให้ใหญ่ กล้าที่จะล้ม พร้อมเปิดใจเรียนรู้ว่าต้องการอะไรในชีวิตและงานใดที่จะพาเราไปสู่ความฝันนั้น
เคล็ดลับที่ 2 – วิธีคิดที่ชอบ ทักษะที่ใช่ ทำให้เราไปได้ไกลกว่าเดิม
เมื่อเห็นภาพของการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการใช้ชีวิตและเรื่องของการทำงานแล้ว
จนเข้าใจว่าตัวเราเองสามารถเป็นคนออกแบบชีวิตและอาชีพได้อย่างไรนั้น ขั้นตอนต่อไปเพื่อเดินทางให้เข้าใกล้สู่จุดมุ่งหมายนั้นๆ
คือการเลือกวิธีคิด (Mindset) ที่ชอบ
ที่จะช่วยให้เราก้าวสู่เป้าหมายของเราได้ดีขึ้น รวมถึงการมีทักษะ (Skillset)
ที่ใช่สำหรับอนาคตที่เราอยากมี หรืออยากเป็น
สำหรับวิธีคิด (mindset) นี่คือ 5 มายด์เซ็ตที่ช่วยทำให้ฝันของใครหลายๆ
คนเป็นจริงมาแล้ว
•Growth
Mindset – คือความเชื่อที่ว่า
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่สามารถพัฒนาได้ตลอดชีวิต เป็นอะไรก็ได้ตามที่ใจอยาก
มีศักยภาพด้านใดก็ได้ถ้ามีความทุ่มเทและความพยายามมากพอ
•Outward
Mindset – คือวิธีคิดที่ช่วยให้เราเปิดกว้างในเรื่องการเรียนรู้จากคนหลากหลายแบบบนโลกใบนี้
ที่อาจไม่ได้ถูกจริต ต้องชะตากันเสมอไป ไม่ได้เห็นด้วยกับเรา 100%
ในทุกเรื่องเพราะแต่ละคนมีโจทย์ชีวิตที่แตกต่างกัน
แต่การมีวิธีคิดเช่นนี้จะทำให้เราเห็นความสำคัญของทุกคน
เห็นผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้จากคนมากหน้าหลายตา
ทำให้เราเรียนรู้ได้ในทุกบริบท
•Learning
Mindset – เป็นรูปแบบวิธีคิดที่เชื่อว่ามีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะสร้างแรงผลัก
ลุกขึ้นมาท้าทายตัวเองเพื่อให้พัฒนาและเกิดการเรียนรู้
จนสามารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่สูงและดีกว่าเดิม
•Agile
Mindset – ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค
แต่กลับมองเรื่องอุปสรรคความท้าทายต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
เชื่อว่าการทำงานและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ความพยายามในการปรับแก้ พร้อมหาแนวทางใหม่ๆ
จะนำไปสู่ทางออก และคำตอบใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
•Curious
Mindset – คือวิธีคิดแบบที่ต้องเอาตัวเองไปสู่โลกภายนอกที่เราไม่คุ้นเคย
เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
เพิ่มนิสัยอยากรู้อยากเห็นและกล้าเผชิญความท้าทาย
เมื่อเห็นแล้วว่า 5 วิธีคิดนี้จะช่วยสร้างความสำเร็จและทำให้ฝันใกล้เป็นจริงขึ้นได้อย่างไร
ต้องอย่าลืมหันกลับมามองเรื่องของทักษะที่จำเป็นต้องมีด้วย หากแต่เรื่องของทักษะจะแตกต่างกับเรื่องของวิธีคิดตรงที่ไม่มีใครตอบได้ว่าทักษะใดสำคัญที่สุดตอนนี้
เพราะเรื่องทักษะเป็นสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยน เติมเต็มและพัฒนา (Evolving) อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านความรู้
เทคนิค วิชาการ (Hard Skills) หรือทักษะทางสังคมหรือด้านอารมณ์
(Soft Skills)
เคล็ดลับที่ 3 – เทคนิคปรับวิธีคิด
เปลี่ยนทักษะ
ทุกวันนี้หลายๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วว่ามายด์เซ็ตกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในเรื่องการพัฒนาคน
เพราะคือสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมทั้งหมดของมนุษย์
ซึ่งแปลว่าการพัฒนามายด์เซ็ตก็เท่ากับเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
แต่เรื่องการปรับมายด์เซ็ตก็ไม่ได้ง่าย หากแต่ต้องใช้เวลาฝึกฝน
สร้างให้เกิดเป็นนิสัย
เช่นเดียวกันในมุมของการพัฒนาเรื่องทักษะความสามารถที่ต้องอาศัยการฝึกปฏิบัติ
การลงมือใช้งานเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ประกอบกับต้อง Reskill คือการมองหาและสร้างทักษะใหม่ๆ ที่ตอบรับกับเทรนด์โลกในปัจจุบัน และการ Upskill คือมุ่งเสริมและพัฒนาทักษะเดิมที่มีอยู่ให้ทักษะนั้นยังสามารถใช้กับโลกปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ