มีผลสำรวจพฤติกรรมผู้คนช่วงกักตัวในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากกรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย (GroupM) ในเครือ WPP ร่วมกับเอเยนซี่ในเครือ มายด์แชร์
มีเดียคอม เวฟเมคเกอร์ และพันธมิตรคันทาร์ ผู้นำด้านการวิจัยและไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย)
ได้ทำการสำรวจวิจัยภาพรวมของผลกระทบที่เกิดขึ้นระดับประเทศและระดับธุรกิจสินค้าบริการแต่ละหมวดหมู่
ในหัวข้อ Coronavirus in Thailand - Trends & Implications for Bramds
and marketers พบว่า
คนไทยมีการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความงามและแฟชั่นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน ในช่วงเวลาของการกักตัวป้องกันการติดเชื้อ นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคนใช้เวลาว่างในช่วงนี้ดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งหมายถึงมีความต้องการอุปโภค บริโภคสินค้าประเภทความสวยความงามและแฟชั่นสูงด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาดทำการตลาดออนไลน์ทดแทนออฟไลน์ที่ไปต่อไม่ได้ จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกในปัจจุบัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ทำไมสินค้าแฟชั่นความงามถึงมาแรงในช่วงนี้
ในสถานการณ์แบบ Work
Form Home และการกักตัวอยู่บ้าน ทำให้คนเรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น
จึงคิดอยากจะใช้ช่วงเวลานี้มาปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดูดี ดึงดูด ด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงามตามความเป็นจริง
โดยไม่อิงแอพพลิเคชั่น สินค้าเครื่องสำอางและแฟชั่นนั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย จึงกลายเป็นสิ่งที่คนเราต้องการ ด้วยธรรมชาติของมนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีการรวมกลุ่มกันอยู่ แบบอาศัยพึ่งพากัน
จึงกลายเป็นความซับซ้อนในการดำเนินชีวิตและกิจกรรม
ตามธรรมชาติความเป็นมนุษย์ นั่นคือการแสวงหาการยอมรับจากผู้คนในสังคม
โดยการแสดงออกมาทางกิริยา มารยาท การพูดจา การสร้างภาพลักษณ์ รูปร่างให้ดูดี ดึงดูดทั้งในส่วนของเพศตรงข้ามและผู้คมที่ต้องสังคมกันในกลุ่มสังคม
ยิ่งค่านิยมการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป มีการบ่งบอกฐานะทางสังคมผ่านเครื่องแต่งกาย การดูแลตัวเอง
ไปจนถึงแฟชั่นการแต่งหน้าตา ทำสีผม ทรงผมให้ดูดีด้วยแล้ว
ดังนั้นเทรนด์ธุรกิจสินค้าประเภทเครื่องสำอาง
แฟชั่น และความงาม ยังคงทำตลาดไปได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ
เพราะมีอีกหนึ่งงานวิจัยช่วยสนับสนุนว่า มนุษย์เรามักใช้เงินตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล
ซึ่งการกระตุ้นให้มนุษย์เกิดการตอบสนองทางอารมณ์ก่อนจะนำไปสู่การใช้จ่ายเงิน
จึงทำได้ไม่ยาก หากเร่งทำการตลาดให้สอดคล้องไปกับพฤติกรรมผู้บริโภค
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้ทันท่วงที
เสื้อผ้าแฟชั่นยังขายดีต่อเนื่อง
จากการสำรวจของ ไพรซ์ซ่า
ที่ทำการสำรวจสินค้าออนไลน์ขายดีปี 2562 ปรากฏว่า อันดับ 1 คือ
กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น ทำยอดขายสูงสุดหรือคิดเป็น 24% ของประเภทสินค้าทั้งหมด
ขณะที่สินค้าที่เกี่ยวเนื่องในกลุ่มที่ขายดีมาก ได้แก่ กระเป๋า ชุดชั้นในผู้หญิง
และเสื้อผ้าผู้หญิง แม้แต่ในช่วงกักตัวและทำงานอยู่บ้านคนก็ยังกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตัวเอง
เมื่อต้องประชุมผ่าน vdo call ก็ยังกลัวเสียภาพลักษณ์
ดังนั้นเครื่องแต่งกายแฟชั่นจึงไม่เคยตกหล่นไปจากกระแส ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนๆ
ก็ตาม
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม จึงมีกลุ่มเป้าหมายที่ขยายตัวขึ้นทั้งในส่วนของผู้ชายและผู้หญิง
โดยในส่วนของผู้ชายมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 8%
การดูแลตัวเองนั้นหมายรวมถึงเรื่องของเครื่องสำอางประเภทดูแลผิวพรรณ ตกแต่ง ปกปิด
ให้ดูหล่อสวยเพิ่มเติมจากธรรมชาติเดิมที่มี
นอกจากนี้ยังมีสถิติที่ Ecommerce IQ ไปสำรวจเมื่อปี 2018 พบว่า 1 ใน 4 ของคนที่ทำการสำรวจทั้งหมด 1,874 คนมีพฤติกรรมการซื้อเครื่องสำอางออนไลน์เพิ่มขึ้นบอกว่า
เห็นได้ชัดว่าการขายเครื่องสำอางออนไลน์ก็เป็นสิ่งที่น่าลุ้น
เพราะตราบใดที่คนไทยในปัจจุบันยังนิยมอวดตัวตนผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เครื่องสำอางปรุงแต่งร่างกายย่อมมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตขอผู้คนต่อไป
เพราะต่อให้มีแอพพลิเคชั่นที่สามารถปั้นแต่งหน้าตาให้สวยงามดุจนางฟ้าราวเนรมิตได้มาเป็นตัวเลือกในการสร้างภาพลักษณ์
แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่คนจะนำมาใช้ทดแทนกันได้
เพราะคงไม่มีใครอยากให้รูปสวยกว่าตัวจริงแน่นอน
จะคว้าโอกาสทองที่กำลังมาได้อย่างไร
โอกาสในการปรับแผนธุรกิจหรือเริ่มต้น Startup สู่ธุรกิจแฟชั่นและความงามในสถานการณ์นี้ควรเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่โหมฮือ สามารถปรับเปลี่ยนและทดลองทำตลาดไปจนกว่าจะได้แนวทาง ตามเทคนิคดังต่อไปนี้
1. นำสินค้าเสนอขาย ลุยผ่านตลาดออนไลน์ทุกช่องทาง
: หากจับธุรกิจด้านเครื่องสำอางและแฟชั่นในระบบออฟไลน์อยู่แล้ว
การเริ่มต้น Startup สู่ออฟไลน์ก็เป็นสิ่งที่ต้องเร่งลงมือทำในช่วงนี้
ไม่ว่าจะนำเสนอผ่านสื่อๆ โซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์
ล้วนทำแล้วเห็นผลทั้งนั้น เพราะอยู่ในช่วงที่โทรศัพท์และโลกออนไลน์กลายเป็นเครื่องมือคลายความเบื่อเหงาของผู้คนในช่วงกักตัว
2. สร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ผ่านทางออนไลน์
: เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
มีการสืบค้นข้อมูลมากขึ้น การทำ Content ดีๆ ขึ้นเสิร์ฟบนแพลตฟอร์มร้านค้าที่มี วาง SEO ให้คนเข้าถึงได้ง่าย
ไปจนถึงงัดกลยุทธ์ทางการตลาด และโปรโมชั่นต่างๆ
เข้ามาร่วมกระตุ้นการรับรู้ตัวตนของแบรนด์ ก็เป็นสิ่งที่ต้องลุยทำ
เพราะโอกาสที่จะได้ฐานลูกค้า เดินหน้าธุรกิจแบบออนไลน์เต็มรูปแบบกำลังมา
3. ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ KOL (Key Opinion Leader) หรือ Influencer
Marketing เข้าช่วย : เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ยังไปได้ ผ่านช่องทางการสื่อสารที่ได้รับความนิยมจากฐานความน่าเชื่อถือ
การติดตามบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดบนโลกออนไลน์ ที่มีบทบาทชี้นำการตัดสินใจต่อผู้ติดตามในเรื่องเดียวกันได้เป็นอย่างดี
จึงมีอิทธิพลต่อความคิดของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้
บุคคลเหล่านี้มักมีความถนัดหรือเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
จึงทำให้มีผู้สนใจและติดตามเรื่องราวที่เขาสร้างขึ้น ดังนั้นคอนเทนต์ที่ Influencer เหล่านั้นสร้างขึ้น จึงเป็นส่วนสำคัญในการที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้
การเลือกเฟ้นจึงต้องดูความเหมาะสมว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการสื่อสารออกไปหรือไม่
4. เชื่อมั่นว่าทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ : เติมพลังบวกให้ตัวเองในช่วงที่ชีวิตเจอวิกฤติ เพราะถ้าชีวิตนี้ไม่ได้ถูกกำหนดมาให้ตายภายในวันนี้ นั่นก็หมายความว่าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเป็นเดือน ปี หรือหลายสิบปี ดังนั้นการฝึกคิดบวกจะเป็นการช่วยเพิ่มแรงใจ ให้กล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสและนำมาพาชีวิตผ่านไปได้ทุกช่วงเวลา
เพราะต่อให้คนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านไปอีกยาวนานหลายเดือน
ก็คงไม่มีใครอยากดูทรุดโทรมเกินอายุในวันที่ต้องเปิดบ้านออกมาสู่สังคมภายนอก เนื่องจากการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี
นั้นเป็นวิถีหนึ่งที่คนทั่วโลกใช้ในการเข้าสังคมเพื่อดำเนินชีวิตมาหลายทศวรรษแล้วนั่นเอง.
แหล่งอ้างอิง :
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/875149
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/859930