10 วิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ที่ผลิตสินค้า ‘คอลลาเจน’ ออกมาทำตลาดได้อย่างน่าสนใจ และมีจุดขายที่แตกต่างกันไป แต่การที่ผู้บริโภคจะเลือกอาหารเสริมมารับประทานนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างในการตัดสินใจ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องรับประทานเข้าสู่ร่างกาย ด้วยเหตุนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องคัดเลือกจากสารอาหารที่ร่างกายควรจะได้รับ และความปลอดภัยในตัวสินค้า หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วร่างกายของเรา โดยเฉพาะในกระดูก เอ็นกล้ามเนื้อ ขน เส้นผม และเนื้อเยื่อ มีหน้าที่เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิว แต่คอลลาเจนจะเสื่อมสลายไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น รังสียูวี ความเครียด การพักผ่อน การสูบบุหรี่ ไปจนถึงการรับประทานอาหาร ก็ล้วนส่งผลทำให้คอลลาเจนลดน้อยลงได้ทั้งสิ้น จะเห็นว่าเมื่อร่างกายมีคอลลาเจนน้อยลง สิ่งที่ตามมาก็คือ ผิว ผม กระดูก ข้อต่อ รวมไปถึงเล็บ จะไม่แข็งแรง ผิวหนังจะเริ่มเหี่ยว มีริ้วรอย แห้งกร้าน แลดูขาดน้ำ การรับประทานคอลลาเจนญี่ปุ่นเสริม ก็เลยเป็นทางช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนให้เพียงพอต่อการเสริมสร้างส่วนต่างๆ

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ปัจจุบันไม่เพียงแต่ตลาดคอลลาเจนกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้บริโภคไทยแล้ว ในตลาดญี่ปุ่นเองก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเพียวคอลลาเจนที่มีส่วนผสม Vitamin C ที่เป็นตัวช่วยนำพาคอลลาเจนให้ดูดซึมและทำงานได้ดียิ่งขึ้น หากเน้นการบำรุงผิวพรรณ การรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับการทานวิตามินซี ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้คอลลาเจนดูดซึมและทำงานได้ดีที่สุด อีกทั้งยังมี Rice Ceramide สารสกัดจากข้าว ที่จะเข้าไปช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น จึงถือว่าเป็นคอลลาเจนญี่ปุ่นที่รับประทานแล้วได้คุณประโยชน์เต็มๆ

สำหรับวิธีการรับประทานแนะนำว่าควรทานขณะท้องว่าง ในช่วงเวลาเช้า และก่อนนอน โดยสามารถที่จะใช้ชงกับเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นก็ได้ และยังสามารถผสมในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวาน โดยที่ไม่ทำให้อาหารเสียรสชาติ เพราะตัวคอลลาเจน ไม่มีสี และไม่มีรสคาว ไม่มีการผสมแป้ง ที่สำคัญสามารถละลายได้ง่าย และไม่จับตัวเป็นก้อน เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นสูตร 0% Fat ไม่มีน้ำตาล และไขมัน ทำให้สุขภาพผู้บริโภคสดชื่นตลอดเวลา

10 วิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเพื่อสุขภาพที่ปลอดภัย

คำแนะนำสำหรับผู้บริโภคในการเลือกผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่มีมากมายในปัจจุบัน โดยในที่นี้เราได้สรุปข้อมูลที่ท่านควรทราบก่อนตัดสินใจว่าจะต้องดูอะไรบ้าง และเลือกอย่างไร

1. เลือกยี่ห้อที่ใช้ทั้งคอลลาเจนไบโอแอคทีพเปปไทด์และไตรเปปไทด์

ทั้งสองอย่างดังกล่าวจะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า และไม่ให้รสชาติที่ขมเกินไป เนื่องจากคอลลาเจนมีให้เลือกหลากหลายสูตร วิธีง่ายๆ ในการเลือกใช้คือการดูส่วนผสมหลักว่ามีการใช้คอลลาเจนชนิดใดบ้าง ความรู้ง่ายๆ ที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ คือชนิดของคอลลาเจนที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

2. เลือกยี่ห้อที่ผลการวิจัยรับรองชัดเจน

ศาสตร์การแพทย์ชะลอวัยเป็นที่ยอมรับและแพร่หลายกว้างขวาง จึงสามารถตรวจสอบหลักฐานการวิจัยได้ในสารหลากหลายชนิด การมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรองนั้นจะเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกได้ดีอย่างหนึ่ง หากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีผลวิจัยรับรองถึงผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวยิ่งขึ้น คนส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้ตามไปด้วย แต่ต้องตรวจสอบการอ้างอิงถึงผลวิจัยเหล่านั้นเสียก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่

3. เลือกยี่ห้อที่เป็นที่ยอมรับหรือมีการยืนยันผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์จากผู้ใช้จริง

ผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายในระยะหนึ่งแล้วจะมีผลตอบรับจากผู้ใช้ ว่ากินแล้วได้รับผลลัพธ์อย่างไร ควรศึกษาผลตอบรับจากผู้ใช้เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นทางช่องทางออนไลน์ จากรีวิว จากคนรอบข้างที่กินจริง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจซื้อ ซึ่งการศึกษาจากผู้ใช้จริงนั้นจะเป็นตัวที่การันตีความดีของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นได้ดีที่สุดนั่นเอง

4. อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่กล่าวเกินจริง

คอลลาเจนวางขายตามตลาดมีทั้งคุณภาพดีจริงและปลอมแปลงมากมาย รวมถึงคำโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณหรือส่วมผสมเกินจริง เช่น คอลลาเจนนำเข้าจาก USA เกรดพรีเมี่ยมที่นี่ที่เดียว ประโยคเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้หรือมีเครื่องยืนยันหรือไม่? ก็ไม่ควรใช้คำโฆษณาที่เกินจริงจนเกินไป ผู้ใช้ควรตรวจสอบส่วนผสมและรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อยืนยันความชัดเจน

5. ได้รับมาตรฐาน GMP HACCP และ อย.

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนควรมี อย. ที่ถูกต้องสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงได้รับมาตรฐานอื่นๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์ให้แก่ลูกค้าที่ต้องการมองหาคอลลาเจนที่ดีสำหรับตัวเอง การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนควรตรวจสอบฉลาก อย. และมาตรฐานที่มีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

6. รสชาติ ความยากง่ายในการกินคอลลาเจน

คอลลาเจนมีให้เลือกกินหลากหลายรูปแบบและรสชาติ ส่วนใหญ่รสชาติของคอลลาเจนจะออกกลิ่นและรสชาติคาว บางคนกินไม่ได้ จึงมีการออกสูตรรสชาติความหอมที่กลบกลิ่นคาวมากมาย เช่น กลิ่นรสสตรอเบอร์รี่ องุ่น กุหลาบ ผู้ใช้สามารถเลือกตามความชอบได้เช่นกัน

7. วัน ปีผลิตและวันหมดอายุ

โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์กำหนดวันหมดอายุระบุไว้ ก็คือวันสุดท้ายที่วิตามินหรืออาหารเสริมนั้นจะมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง หากต้องการดูแลปัญหาสุขภาพและต้องการได้รับประสิทธิภาพเต็มที่ ก็แนะนำให้ทิ้งวิตามินหมดอายุและซื้อกระปุกใหม่ที่มีประสิทธิภาพเต็มที่มาทานแทน

8. ตรวจสอบแพคเกจภายนอกและการวางในร้านค้า

การเก็บรักษาคอลลาเจนไม่ถูกวิธีมีผลให้คอลลาเจนเสื่อมคุณภาพได้ เช่น ควรหลีกเลี่ยงการวางโดนแสง แสงแดด อุณหภูมิ ที่จะก่อให้คุณภาพของอาหารเสริมคอลลาเจนเสื่อมลงและไม่มีคุณภาพ หรือหากพบว่ากล่องบุบ แพคเกจซีดจางก็ไม่ควรเลือก รวมถึงหากเปิดกล่องแล้วพบว่าอาหารเสริมหรือวิตามินมีความผิดปกติ รูป สี กลิ่น ขนาด แนะนำให้เปลี่ยนทันที

9. อย่าหลงเชื่อโปรโมชั่น ราคาที่ถูกเกินความเป็นจริง

ส่วนใหญ่อาหารเสริมคอลลาเจนจะมีราคาตลาดที่ทางยี่ห้อออกมากำหนดไว้ และได้แจ้งว่าหากพบราคาที่ถูกกว่านี้อาจเป็นของลอกเลียนแบบได้ ดังนั้นควรเลือกซื้อในราคาตลาด อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาและโปรโมชั่นที่ถูกกว่าปกติ และถูกเกินไป เพราะอาจเป็นของลอกเลียนแบบหรือของหมดคุณภาพก็เป็นได้

10. ดูยี่ห้อคอลลาเจน ร้านที่ซื้อก็ต้องมีความน่าเชื่อถือ

ร้านค้าที่เป็นตัวแทนมากมายให้เลือกอาจมีร้านที่ขายคอลลาเจนปลอมแปลงในราคาถูก และเสนอขายของปลอมได้ง่าย บางครั้งตัวคอลลาเจนเองแพคเกจของแท้ก็จะมีสัญลักษณ์ที่ปลอมแปลงยาก หรือโค้ดที่สามารถเอาไปตรวจสอบได้ สามารถเช็คก่อนซื้อได้

คอลลาเจนเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญต่อแคลอรี่แล้ว ยังพบว่ามันช่วยสร้างกล้ามเนื้อควบคู่กับการออกกำลังกายทำให้สุขภาพแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย

คอกาแฟควรรู้ ‘คาเฟอีน’ ระดับไหนจึงเหมาะสมต่อวัน

5 เมนูอาหารคลีนทำง่ายประหยัดด้วย