ส่องช่องทางการลงทุนแฟรนไชส์ สวนกระแสเศรษฐกิจ

ธุรกิจแฟรนไชส์กลายเป็นตัวเลือกของนักลงทุนรุ่นใหม่ในหลายปีที่ผ่านมา ด้วยมีจุดเริ่มต้นในการ Start Up ไม่ยาก ตราหรือแบรนด์ถูกสร้างไว้แล้ว เป็นธุรกิจสำเร็จรูปที่ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ลงทุนน้อย ต่อยอดกู้ธนาคารได้ง่ายกว่าหากแฟรนไชส์แบรนด์นั้นติดตลาดหรือมีอนาคตสดใส อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่เจ้าของไม่ต้องลงมาคลุกคลีด้วยเต็มเวลา สามารถวางรูปแบบการทำงานโดยการจัดจ้างทีมเข้ามาทำงาน ตามระบบที่ถูกเซ็ทไว้แล้วก็ขับเคลื่อนธุรกิจได้ทันที กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์จึงกลายเป็นที่หมายตาของนักลงทุนรุ่นใหม่ จนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

จากสถานการณ์ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยปี 2562 ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์เปิดดำเนินกิจการทั้งสิ้น 548 กิจการ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2561 มีจำนวน 536 กิจการ โดยภาพรวมธุรกิจแฟรนไชส์เกิดใหม่เฉลี่ยประมาณ 19%

ข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์ไทยปี 2562 แหล่งอ้างอิง : http://www.thaifranchisecenter.com/stats/franchise_stats.php?year=2019

ส่องช่องทางการทำแฟรนไชส์ปี 2563

ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2563 มีแนวโน้มจะถดถอยจากสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่ามาต่อเนื่องยาวนานจนหลายธุรกิจปิดตัว ปล่อยลอยแพคนงานเป็นระลอกคลื่น ผนวกกับมาเจอพิษเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาระบาดหนักในจีน จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ไทยอิงประเทศจีนเป็นหลัก ยิ่งมีการคาดการณ์กันว่าจะมีคนงานถูกลอยแพอีกเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางวิกฤติลอยแพคนงานเหล่านี้กลับกลายเป็นโอกาสที่แฟรนไชส์จะขยายเติบโตได้ จากการที่มีจำนวนคนเดินออกนอกระบบงานประจำมาสู่การทำธุรกิจส่วนตัว โดยเฉพาะการลงทุนที่มีความเสี่ยงไม่มาก มีลู่ทางต่อยอดสู่ธุรกิจส่วนตัวที่ดีในธุรกิจแฟรนไชส์ ที่เราจะพาไปส่องกันว่า ช่องทางการลงทุนแฟรนไชส์แบบไหนน่าจับตาในปี พ.ศ.นี้ จะได้มีลู่ทางต่อยอดการเงินต่อไป คือ

1. แฟรนไชส์กลุ่มธุรกิจ บริการแนวใหม่และเก่า ผ่านช่องทางออนไลน์  ด้วยไลฟสไตล์คนเมืองที่เปลี่ยนไป ไม่ค่อยมีเวลาให้กับการดูแลบ้านเรือนหรือแม้แต่ผู้สูงวัยในบ้าน จึงทำให้ธุรกิจดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ บริการทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้าน บริการนวดแผนไทย บริการด้านสปาและความงาม ธุรกิจบริการให้คำปรึกษา บริการด้านการศึกษาทางออนไลน์ บริการเครือข่าย ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มจะขยายเติบโตขึ้นอีกจากตลาดที่ยังมีอยู่น้อย

2. แฟรนไชส์กลุ่มธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม  ยังคงมาแรงต่อเนื่องจากปี 2562 หลังมีแพลตฟอร์มให้บริการวิ่งรับส่งซื้อแทน อย่าง Line man, Grab Food, Food panda, Get เข้ามากระตุ้นให้ยอดขายออนไลน์โต สนองสังคมคนขี้เกียจ ลดปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด อากาศร้อน หาที่จอดรถยาก ภายใต้ความต้องการบริโภคพื้นฐานของมนุษย์ จึงทำให้ธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มยังเดินได้ต่อไปเมื่อพ่วงไว้กับระบบออนไลน์

3. แฟรนไชส์ราคาหลักแสนไปจนถึงหลักไม่เกิน 3 ล้านบาท  จะได้รับการตอบรับดีจากสภาพเศรษฐกิจขาลง ที่ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเสี่ยงเล่นแฟรนไชส์ที่ต้องใช้เงินลงทุนมากเกินกว่า 3 ล้านบาท หากต้องลงทุนเกินกว่านี้จะมีระยะเวลาคืนทุนนาน ดังนั้นแฟรนไชน์ที่อยู่ในเกณฑ์นี้จะได้รับความนิยม เพราะไปต่อได้ไม่ยากในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้

4. แฟรนไชส์แบรนด์ไทยในตลาดเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา ลาว  จากวิถีชีวิตที่มีความเป็นอยู่ใกล้เคียงกัน ทำให้เพื่อนบ้านให้การตอบรับกับแฟรนไชส์แบรนด์ไทย เช่น แฟรนไชส์พิซซ่า, สเต็ก, ขนมปัง, บะหมี่ จากสถิติข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 2562 พบว่ามีแบรนด์แฟรนไชส์ที่ไปต่างประเทศแล้วจำนวน 49 แบรนด์ โดยมูลค่าตลาดของแบรนด์แฟรนไชส์ไทยที่ขยายไปต่างประเทศประมาณ 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วย แฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่ม 33 แบรนด์ แฟรนไชส์ การศึกษา 7 แบรนด์ คาร์แคร์ 2 แบรนด์ ความงามและสปา 4 แบรนด์ และอื่นๆ 3 แบรนด์

ทั้งนี้ในปี 2562 มีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 20%  คิดเป็นมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ประมาณกว่า 2.5 แสนล้านบาท โดยแฟรนไชส์ธุรกิจอาหารทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ มีสัดส่วนการลงทุนหรือเปิดกิจการมากที่สุด รองลงมาเป็นแฟรนไชส์ด้านธุรกิจบริการ ธุรกิจด้านการศึกษา ธุรกิจเบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตสูงเช่นกัน ซึ่งทิศทางความเคลื่อนไหวของแฟรนไชส์ในตลาดบนที่ผ่านมา มีความพยายามในการนำแบรนด์ออกสู่ตลาดต่างประเทศกันมากขึ้น สำหรับแฟรนไชส์ขนาดกลางที่ยังมีสาขาเพียง 20-30 สาขา เน้นการขยสยสาขาทำตลาดในประเทศมากกว่าในต่างประเทศ ส่วนแฟรนไชส์ขนาดเล็กมีเม็ดเงินลงทุนในหลักพันถึงหลักหมื่น เกิดการเปลี่ยนแปลงหมุนเวียนเข้าออกจากระบบมากที่สุด.

อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดแฟรนไชส์ไทยที่ไปเปิดตลาดในต่างประเทศ ในปี 2562 ถือว่าเป็นปีหนึ่งที่แฟรนไชส์ไทยได้เปิดตลาดในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า กัมพูชา ลาว หรือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เพราะอย่างประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา หรือ ลาว มีลักษณะความเป็นอยู่ การกิน การใช้ชีวิต คล้ายกับ ภาคอีสานของไทย ก็จะชื่นชอบที่จะซื้อแฟรนไชส์จากประเทศไทยไปเปิดเป็นจำนวนมาก เช่น แฟรนไชส์พิซซ่า ร้านสเต็ก ร้านบะหมี่ อย่างแบรนด์ชายสี่หมี่เกี้ยว มีสาขาในต่างประเทศจำนวนมาก ร้านขนมปังจ้าวดังแถวเยาวราชก็ได้เปิดแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน และมีอีกหลายแบรนด์ที่ได้ขยายสาขาแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน

"ง่าย-เร็ว-ไม่แพง" ไทยแลนด์ "ดีที่สุดของโลก" เอื้อเริ่มต้นธุรกิจ 2020

สำหรับกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมโครงการจะมีผู้เชี่ยวชาญประเมิน วิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละธุรกิจ ที่สำคัญยังมีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก ณ สถานประกอบการ เป็นรายธุรกิจ และเสริมในเรื่องการศึกษาดูงานธุรกิจที่เป็นต้นแบบที่ดี ส่วนการผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์เพื่อขยายไปยังต่างประเทศ ได้มอบกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดำเนินการ เช่น การนำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมงาน Top Thai Brands หรือ Mini Thailand Week ในต่างประเทศ

ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 2,734 ราย โดยมีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ (Franchise Standard) จำนวน 273 ราย แบ่งตามประเภทธุรกิจ ดังนี้ ธุรกิจอาหารจำนวน 118 ราย ธุรกิจเครื่องดื่มจำนวน 58 ราย ธุรกิจการศึกษาจำนวน 39 ราย ธุรกิจบริการจำนวน 30 ราย ธุรกิจความงามและสปาจำนวน 14 ราย และธุรกิจค้าปลีกจำนวน 14 ราย

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 20% ในปี 2562 มีมูลค่าตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณกว่า 2.5 แสนล้านบาท โดยแฟรนไชส์ธุรกิจอาหารมีสัดส่วนการลงทุนหรือเปิดกิจการมากที่สุด ทั้งแบรนด์แฟรนไชส์ไทยและต่างชาติ และยังมีแฟรนไชส์ธุรกิจบริการ ธุรกิจด้านการศึกษา ธุรกิจเบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตสูงเช่นกัน

ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2562 ผู้ประกอบการแบรนด์แฟรนไชส์ตลาดบน มีความพยายามนำธุรกิจแฟรนไชส์ไปเปิดตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ขณะที่แบรนด์แฟรนไชส์ขนาดกลาง ที่มีจำนวนสาขา 20-30 สาขา จะให้ความสำคัญกับการมองหาทำเล และให้ความสำคัญกับการพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่าการมองตลาดต่างประเทศ ส่วนแบรนด์แฟรนไชส์รายเล็ก ที่มีการลงทุนต่ำตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ในปี 2562 เห็นการเปลี่ยนแปลงของแฟรนไชส์ในกลุ่มนี้ค่อนข้างเยอะ โดยจะเห็นการเข้าและออกจากระบบมากเป็นพิเศษ เพราะผู้ประกอบการบางรายเห็นคนอื่นทำแฟรนไชส์แล้วประสบความสำเร็จ เกิดการลอกเลียนแบบ แต่พอเข้ามาทำจริงๆ กลับไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องออกจากระบบ

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ธุรกิจแฟรนไชส์จะยังคงเติบโตได้ในปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 10% ไม่ว่าเศรษฐกิจเป็นเช่นไร เพราะจำนวนคนที่ต้องการออกมาเป็นนายของตัวเอง หรือเป็นเจ้าของกิจการเล็กมีมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่หรือคนที่ต้องเผชิญภาวะตกงาน การเลือกทำธุรกิจแฟรนไชส์จะเป็นทางเลือก เพราะเชื่อว่าการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์มีประโยชน์ เพราะไม่ต้องเสียเวลาสร้างธุรกิจขึ้นมาเอง

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

โจทย์ใหม่ ! “ไกด์ไลน์ แฟรนไชส์”

5 กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ดาวรุ่งไทยโกอินเตอร์