การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด
19 ไม่เพียงเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้อุตสาหกรรมต่างๆ
แต่ยังทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใส่ใจกับการเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น
จากเดิมที่เทรนด์การบริโภคยุคใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติไปเน้นอาหารที่ผลิตจากกระบวนการที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม
ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลก ก็เป็นเทรนด์ที่มาแรงและได้รับความนิยมอยู่แล้ว
แต่ยิ่งมีโควิดยิ่งเป็นตัวเร่งให้ตลาดสินค้ากลุ่มนี้เติบโตมากขึ้น
โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง “แคนาดา” ซึ่งผู้บริโภคมีความใส่ใจต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก นั่นจึงทำให้ตลาดสินค้าอาหารมังสวิรัติอย่าง Vegan และอาหารที่ผลิตจากพืช หรือ Plant Based เติบโตมาก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ข้อมูลจาก Nielsen IQ ระบุว่า ตลาดสินค้าอาหารกลุ่มนี้ โดยเฉพาะ
Plant Based เติบโตขึ้นถึง 16% ต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่า
12,500 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากโควิด ทำให้ผู้บริโภคต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพที่มีความหลากหลาย
ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลว่า จำนวนผู้บริโภคแคนาดาที่เป็นกลุ่มที่รับประทานมังสวิรัติ มีประมาณ 10% ของประชากร หรือราว 3 ล้านคน และมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นถึง 45% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 35 ปี ซึ่งเชื่อว่าการบริโภคอาหารตามกระแส Vegan ไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะห่วงโซ่การผลิตเนื้อสัตว์ เป็นแหล่งสำคัญที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลกปริมาณมาก นี่นำมาสู่กระแสการรักษ์โลกที่มุ่งเน้นการใช้สินค้าที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable) โดยบางประเทศในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อังกฤษ มีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Zero Emission ให้ได้ภายใน 29 ปีข้างหน้าหรือราวปี พ.ศ. 2593
ล่าสุดสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโทรอนโต เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคแคนาดา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยนิตยสาร Grocery Business พบว่า ชาวแคนาดาเน้นการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยมีถึง 46% ที่ได้ทดลองรับประทานอาหารที่ทำจาก Plant Based
และที่สำคัญยังมีข้อมูลคาดการณ์ว่าร้านค้าต้องปรับเปลี่ยนการขายสินค้าให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค เพราะมีแนวโน้มว่าแม้จะผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโควิด 19 ไปแล้ว ผู้บริโภคก็จะยังคงเน้นเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อ คือราคาและรสชาติ รวมถึงสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมในการผลิตด้วย
ตัวอย่างสำคัญในปี 2563 มีร้านอาหารมังสวิรัติในฝรั่งเศส ชื่อ Ona
เป็นร้านที่ได้รับรางวัล Michelin Star เป็นครั้งแรก
ทั้งที่เมนูอาหารฝรั่งเศสเดิมแล้วส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเนื้อสัตว์ เช่น สเต็ก ตับห่าน
แต่ร้านนี้เป็นร้านที่ได้ฉีกรูปแบบโดยการทำเมนูอาหารมังสวิรัติ ซึ่งเป็นการปรับตัวรับเทรนด์อาหารกลุ่มนี้
ขณะที่ในแคนาดาก็มีร้านอาหารไทยที่เป็นมังสวิรัติชื่อดัง คือร้านชูชัย ที่เมืองมอนทรีออล
ที่เพิ่มเมนูอาหารตามกระแสผู้บริโภคยุคใหม่เช่นกัน
ทั้งหมดนี้จะเห็นชัดว่ากลุ่มสินค้าอาหารโปรตีนจากพืช Plant Based ได้กลายเป็นสินค้าเซกเม้นท์ใหม่ที่อัตราการเติบโตต่อเนื่องเป็นที่น่าจับตามอง เมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ที่มีการพัฒนารสชาติ คุณภาพที่ดีขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นเทรนด์ที่ทำให้ตลาดนี้เปิดกว้าง และน่าจะเป็นโอกาสของสินค้าไทย ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ และยังมีนโยบายส่งเสริมการเป็นครัวไทยสู่ครัวโลกด้วย