เคล็ดลับ Podcast การตลาดออนไลน์ด้วยการเล่าอย่างมี Storytelling
“เมื่อคุณพูดสิ่งเดียวกัน
เสียงอาจจะช่วยสื่อความหมายได้ดีกว่าตัวอักษรก็เป็นได้”
ในปัจจุบันที่การทำการตลาดออนไลน์ ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงในรูปแบบของตัวอักษรหรือภาพเพียงอย่างเดียว แต่เรายังสามารถส่งเสียงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวหรือสิ่งที่คุณต้องการจะฟังไปให้อีกฝ่ายเข้าใจ รับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกผ่านน้ำเสียง และสามารถเปิดฟังสบายได้ระหว่างที่คุณกำลังทำงาน เดินทาง หรือกิจกรรมอื่นๆ ได้โดยไม่รบกวน คล้ายการฟังวิทยุออนไลน์ในสมัยก่อน จึงกลายมาเป็นอีกช่องทางที่สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้ เพียงแต่ต้องใช้วิธีการเล่าอย่างมี Storytelling
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
การตลาดออนไลน์กับพอดแคสต์
ก่อนที่เราจะพาไปรับชมเทคนิค Podcast ทำการตลาดออนไลน์ด้วยการเล่าอย่างมี Storytelling
ควรทราบก่อนว่า ตลาดพอดแคสต์เป็นเช่นไร ซึ่งข้อมูลจาก MediaDonuts
และ Adobe Analytics กล่าวว่ากลุ่มที่ฟังส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม
Gen Z และ Millennials
ในระหว่างประมาณปี 2017–2020 โดยมีอัตราผู้ฟังเสียง (ทุกกลุ่ม)
ผ่านทางออนไลน์เติบโตขึ้น 35% ขณะทำกิจกรรมอื่น เช่น เดินทาง
หรือทำงาน ฯลฯ
ส่วนเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials
เติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 11% ซึ่งกลุ่มรายการ Podcast ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ เรื่องตลก 46% การศึกษา
28% ประวัติศาสตร์ 27% และบทวิเคราะห์ข่าวอาชญากรรม
26% มากกว่า 5 รายการต่อสัปดาห์
และต้องมีความยาวไม่เกิน 1 ชั่วโมง (โดยเฉลี่ยแล้วเวลาที่คนสนใจฟังมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ
20-30 นาที)
การเล่าอย่างมี Storytelling ผ่าน Podcast
การทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Podcast แม้จะใช้งบประมาณไม่แพง
และพอทราบกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้สามารถกำหนดเรื่องที่จะเล่าได้ไม่ยาก
แต่วิธีที่เราจะสามารถทำการตลาดหรือขายสินค้า-บริการให้คนฟังสนใจที่จะฟังคุณจนจบ
20-30 นาทีขึ้นไป ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงต้องใช้วิธีการเล่าแบบ Storytelling ดังนี้
1. tie-in สินค้าหรือบริการอย่างแนบเนียน
ลองนึกภาพว่า
หากวันนึงคุณเปิดประตูเข้าบ้านของเพื่อนที่ปกติเล่นมุกตลก
แต่เขาเปลี่ยนไปพูดแต่เรื่องขายของทุกวินาทีที่อยู่กับคุณ คุณก็คงจะรู้สึกแปลกๆ
และไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไหร่ใช่ไหม การเล่าเรื่องแบรนด์ก็เช่นกัน เราไม่ควรพูดไปแบบตรงๆ
แต่ควรใช้วิธี Tie-in หรือรีวิวอย่างแนบเนียนตามสไตล์ที่ผู้จัดรายการถนัด
ซึ่งก่อนที่จะเริ่มทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Podcast เราขอแนะนำให้ลองฟังรายการจนเจอช่องที่ฟังแล้วถูกจริต
มีแนวโน้มที่ผู้ฟังช่องนั้นจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณเช่นกัน
ส่วนหากแบรนด์ต้องการลงมือทำพอดแคสต์เอง
คุณควรทำให้ลูกค้าหรือผู้ฟังเกิดความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง ด้วยการบอกต่อเคล็ดลับดีๆ
ที่น่าสนใจ ฟังแล้วได้ประโยชน์ เกี่ยวข้องกับสินค้า-บริการของคุณ
2. คำนึงถึง 3 องค์ประกอบ
3 องค์ประกอบที่สำคัญต่อการเล่า Storytelling ที่ควรคำนึงถึงอยู่เสมอ ได้แก่ ผู้เล่า
เลือกใช้วิธีการได้เหมาะกับการสื่อสารไปยังผู้ฟังได้หรือไม่, เนื้อเรื่อง มีเป้าหมายในการพูดชัดเจน
เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย กระชับ เข้าใจง่าย ฟังแล้วคล้อยตาม และรู้ว่า ผู้ฟังเป็นใคร
เพื่อเรียงร้อยเรื่องราวได้เข้าถึงผู้ฟังได้ดีที่สุด ซึ่งถ้าเป็นไปได้
เราอยากให้คุณพยายามสร้างเนื้อหาที่ทุกเพศทุกวัยสามารถฟังได้ และน่าสนใจมากพอ
เพราะคุณอาจกระจายอัปโหลดหลากหลายช่องทางเพื่อให้เข้าถึงผู้ฟังได้ง่ายมากที่สุด
เช่น Joox, Spotify, Google Podcasts
หรือใส่ปกแล้วอัปโหลดลงบน Youtube/Facebook ฯลฯ
3. ใช้เทคนิคพิเศษสำหรับการทำ
Podcast
นอกจาก 2 ข้อข้างต้นแล้ว
ขอแนะนำให้ลองใช้เทคนิคพิเศษสำหรับการทำ Podcast ด้วยการ
- คิดสคริปต์ไว้คร่าวๆ สรุปไว้เป็นข้อ
เพื่อจัดระบบความคิดและแผนในการพูด ไม่ให้ออกนอกทะเลจนจับประเด็นไม่ได้
แต่ไม่จำเป็นต้องคิดไว้เป็นบทพูดแบบละเอียด เพราะอาจจะทำให้เกิดความเกร็ง
หรือฟังแล้วดูแข็งไม่ไหลลื่นได้ นอกจากนี้ระหว่างพูดอาจมีดินสอหรือปากกา
และกระดาษอีกซักแผ่นไว้คอยจดประเด็นที่เราพูดถึงไปแล้วก็ได้
เพื่อไม่ให้เกิดการพูดเนื้อหาซ้ำซ้อน
- มีการรีแคป ประเด็นสำคัญและคำถามที่น่าสนใจ
เพื่อให้ผู้ฟัง หรือคู่สนทนาจับประเด็นได้เป็นระบบมากขึ้น
เหมือนเป็นการสรุปทิ้งท้ายหลังฟังจบครบถ้วน
- วางแผนการทำช่องพอดแคสต์คร่าวๆ เช่น
มีความถี่ในการลงแต่ละสัปดาห์มากน้อยแค่ไหน, ลงช่วงวัน-เวลาใด, ควรอัปโหลดและโปรโมตทางไหนบ้าง
เพื่อให้สารถูกสื่อไปถึงคนฟังได้มากที่สุด
ทุกคนอาจจะสามารถพูดได้ ทำ Podcast ได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Podcast ได้ ดังนั้นคุณควรที่จะวางแผน คิด-หาข้อมูล และฝึกซ้อมการพูดให้ตรงใจผู้ฟังอยู่เสมอ แล้ววันหนึ่งคุณจะสามารถขายได้ โดยที่คนฟังไม่รู้สึกว่าขาย ผู้ฟังยินดีจ่ายโดยที่ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกยัดเยียดเลย