สินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศอย่างกว้างขวาง
ด้วยมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
บนคุณภาพแบรนด์ไทยและความหลากหลายของสินค้ากลุ่มนี้ อาทิเช่น เครื่องใช้ภายในบ้าน
ของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอ ได้สร้างมูลค่าให้แก่ประเทศไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะได้อัพเดทเทรนด์ตลาดและความนิยม เพื่อวางแผนในการพัฒนาสินค้าส่งตีตลาดเกาหลีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับตามกระแสนิยมของผู้บริโภคเกาหลีใต้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ กรุงโซลให้คำแนะนำว่า สินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านของไทย
มีศักยภาพในตลาดเกาหลี เพราะสินค้าไทยมีดีไซน์สวยงาม คุณภาพดี
มีโอกาสในการเจาะตลาดเกาหลีได้อีกมาก
โดยจะต้องมีการประชาสัมพันธ์และนำเสนอแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยให้เป็นที่รู้จักในเกาหลีให้มากขึ้น
ทั้งนี้ตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเกาหลี
มีขนาดประมาณ 11,522 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561 และมีอัตราการเติบโตขึ้นทุกปี
มีการคาดว่าในปี 2567 จะมีขนาดของตลาดประมาณ 12,234 ล้านเหรียญสหรัฐ
เนื่องจากเกาหลีมีการย้ายบ้านใหม่ทุก 2 ปี ตามระบบการทำสัญญาเช่าบ้าน ซึ่งสังเกตได้จากการเติบโตทางธุรกิจของ
IKEA ในเกาหลี มีการขยายสาขาจำนวน 5 สาขาภายใน 3 ปี
และนับว่ายอดจำหน่ายของสาขา IKEA ในเกาหลีทำยอดขายได้ดีที่สุดในโลก
ประกอบกับสถานการณการแพร่ระบาดของโควิด
19 ในปัจจุบัน ทำให้คนอยู่บ้านและทำงาน Work from Home มากขึ้น จึงมีความต้องการสินค้าดังกล่าว ส่งผลให้สินค้าเฟอร์นิเจอร์
ประเภทเฟอร์นิเจอร์สำหรับสำนักงานฯ และของตกแต่งบ้าน
ที่จำหน่ายทางออนไลน์เติบโตตามไปด้วย (สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ
กรุงโซล,2563)
เทรนด์การแต่งบ้านที่นิยมในเกาหลีใต้
ปี 2563
1. มีความคลาสสิกใหม่ (New Classic) หมายถึง
มีความทันสมัยผสมผสานเข้ามา นิยมใช้ในพื้นที่การค้า โรงแรม คาเฟ่
ให้ภาพลักษณ์ที่สวยหรูดูมีระดับ ทันสมัย
และเข้าได้ง่ายกับเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับตกแต่งอื่นๆ สามารถนำมาปรับใช้ในพื้นที่อยู่อาศัยได้ง่ายอีกด้วย
2. โทนสีน้ำเงินคลาสสิก (Classic Blue)
มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นสีที่เหมาะสำหรับการใช้ทาผนัง
เข้าได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง
ที่เป็นวัสดุสีทองหรือสีทองแดงและเป็นสีที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์โดดเด่นขึ้น
นอกจากที่ยังเป็นโทนสีที่ช่วยทำให้บ้านเย็นหรือส่งผลให้อารมณ์ผู้อยู่อาศัยเย็นไปด้วย
3. ตกแต่งด้วยธรรมชาติและต้นไม้ (Planterior) เป็นเทรนด์ที่คงความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี
2561 โดยเน้นใช้ธรรมชาติเป็นตัวช่วยตกแต่งทำให้เกิดความสดชื่น ผ่อนคลาย
ให้แก่ผู้อยู่อาศัย ต้นไม้จะช่วยเยียวยาและผ่อนคลาย การจัดฝุ่น
ต้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และรักษาความชุ่มชื้น
4. กระแสนิยมงานหวาย (Rattan & Cane) ให้ความสวยโดดเด่น
สวยหวาน งดงามเป็นธรรมชาติ ผู้บริโภคชาวเกาหลีกำลังให้ความสนใจ
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกระแสการตกแต่งบ้านบนสื่อโซเชียลมีเดีย
เทรนด์การแต่งบ้านในปัจจุบันของคนเกาหลี
1. การแต่งบ้านให้เหมือนออกไปท่องเที่ยว
(Homecance) เป็นเทรนด์นิยมที่ต่อเนื่องมาจากการกักตัวช่วงโควิด
ซึ่งมีคำย่อมาจาก Home (บ้าน) + Vacance
(หยุดพักผ่อน)
ภายใต้คำจำกัดนิยามให้ชีวิตได้เพลิดเพลินกับวันหยุดที่บ้าน ภายหลังการกักตัวคนเกาหลีหันมาให้ความสนใจกับการใช้วันหยุดพักร้อนที่บ้านกันมากขึ้น
จึงเป็นที่มาของการสร้างบรรยากาศวันหยุดที่บ้าน และสนุกเพลิดเพลินไปกับวันหยุด แบบ
Homecan นีรูปแบบต่างๆ
ได้แก่
- Homecance แนว Bali
Style Café : Café มีการตกแต่งบ้านหรือร้านให้เหมือนคาเฟ่ หรือรีสอร์ทแบบบาหลี มีร่มกันแดด, เก้าอี้ beanbag, เก้าอี้หวาย, ไฟตกแต่ง
ให้บรรยากาศเหมือนอยู่กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จนกลายเป็นที่นิยมสำหรับการถ่ายรูป ทั้งในแบบคาเฟ่ที่ตกแต่งแนวนี้และบ้านพักที่
- Homecance แบบ
Home Café : โฮมคาเฟ่เป็นที่นิยมมากขึ้นหลังจากสถานการณ์ติดเชื้อโควิด
19 เป็นการปรับส่วนของบ้านพักแบบคาเฟ่
สามารถใช้เพียงเฟอร์นิเจอร์และของประดับเล็กน้อย
โดยไม่ต้องเปลี่ยนการตกแต่งภายในบ้านมากนัก
นิยมแต่งบ้านด้วยกรอบรูปหรือรูปภาพบนผนัง ปูผ้าปูโต๊ะ
และตกแต่งให้เหมือนห้องครัวยุโรป หรือตกแต่งให้เหมือนคาเฟ่นั่งชิวเล็กๆ ด้วย
- Homecance แบบ Home Camping : เป็นการเพลิดเพลินการตั้งแคมป์ที่บ้านตัวเอง จากเทรนด์การตั้งแคมป์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงทำให้ไม่สามารถออกไปตั้งแคมป์นอกบ้านได้สะดวก
การตกแต่งบ้านแนวนี้จึงเป็นการเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศตั้งแคมป์โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก
มีของประดับตกแต่งที่สำคัญ คือ ตะกร้าหวาย หมอน โต๊ะพับได้ และไฟตกแต่ง
มาตกแต่งในห้องนั่งเล่น เสมือนเป็นจุดตั้งแคมป์
2. การตกแต่งระเบียง (Veranda variation) ได้รับความนิยมควบคู่กับเทรนด์ Home camping และ Home Cafe จากอุปนิสัยของคนเกาหลีที่ชอบใช้ห้องนั่งเล่นเป็นหลัก
ในอดีตจึงนิยมเอาระเบียงออก แล้วขยายห้องนั่งเล่นให้กว้างขึ้น
แต่หลังจากมีการติดเชื้อไวรัสโควิด 19
จึงเกิดการห้ามจัดกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยว ดังนั้นผู้คนจึงต้องการใช้พื้นที่ในบ้านได้หลากหลายจุดประสงค์
ล่าสุดจึงเกิดเทรนด์การใช้ระเบียงจัดกิจกรรมต่างๆ เช่นพื้นที่อ่านหนังสือ โฮมคาเฟ่
และสวนเล็กๆ โดยมีเฟอร์นิเจอร์สำคัญคือไฟตกแต่งต่างๆ และต้นไม้ มุมสวนเล็กๆ
นี่จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยสินค้าไลฟสไตล์
ควรนำไปพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ เพื่อให้โดนใจผู้บริโภคชาวเกาหลี
โดยมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นแบบ B To B เช่น โรงแรม คาเฟ่ หรือร้านอาหาร
- แนวคลาสสิกใหม่ (โรงแรม, ร้านกาแฟ, ออกแบบภายในของบ้าน)
สินค้าแนวตกแต่งภายในพื้นที่ เฟอร์นิเจอร์ผ้าและของประดับตกแต่งเป็นที่ต้องการ
- การออกแบบแนวอุตสาหกรรมนำเสนอผ่าน (ร้านกาแฟ, ร้านค้า) สินค้าแนวเฟอร์นิเจอร์, เก้าอี้, โคมไฟ เป็นที่ต้องการ
- งานหวาย (เฟอร์นิเจอร์
และของประดับตกแต่ง) จะต้องมีรายละเอียดที่สวยงามและเรียบหรู ผลิตภัณฑ์แบบ mass
แบบ B To C ขายให้ลูกค้าโดยตรง
ผ่านร้านค้าหรือร้านค้าออนไลน์ และนักออกแบบ
- รูปแบบสแกนดิเนเวีย/ทันสมัย (เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่ง)
เป็นที่ต้องการ
- การออกแบบแนวอุตสาหกรรม สินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์, เก้าอี้, โคมไฟ เป็นที่ต้องการ
- งานหวาย (เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่ง)
เน้นการให้ความรู้สึกสะอาดและละเอียดซับซ้อน
จะตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวเกาหลี
ทั้งนี้คนไทยมีฝีมือด้านหัตถกรรมที่ประณีต
เช่น งานหวาย งานจักสาน งานเย็บหนัง งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ ของประดับ ซึ่งมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
แต่มีผ่านมามีรูปแบบการผลิตที่ยังขาดความเข้าใจในตลาด ด้วยเหตุนี้
จึงหยิบยกเทรนด์การแต่งบ้านในเกาหลีใต้มาเป็นเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภค
ซึ่งปัจจุบันการค้าข้ามประเทศมีช่องทางที่หลากหลาย และสะดวกง่ายดายมากขึ้น
ดังนั้นอาจใช้โอกาสนี้ผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์กระแสนิยมในเกาหลีใต้ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเฟ้นหาช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ
แถมยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อีกด้วย
แหล่งอ้างอิง