ปัจจุบันธุรกิจจำหน่ายเสื้อผ้าเป็นธุรกิจที่พบเห็นมากขึ้นโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์
เพราะสามารถเข้าถึงมีกลุ่มลูกค้ามากมาย
จึงทำให้มีผู้ที่สนใจลงทุนกับธุรกิจนี้จำนวนมาก บางรายก็สามารถสร้างรายได้อย่างดี หรือบางรายดำเนินการได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องปิดกิจการลงไป
ซึ่งคนที่อยากเข้ามาทำธุรกิจนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า ธุรกิจจำหน่ายเสื้อผ้าเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ถือกันว่าเป็น ‘ธุรกิจปราบเซียน’ เพราะมีการแข่งขันกันที่รุนแรง สงครามราคา และแรงกดดันด้านต้นทุนการผลิต เทรนด์เสื้อผ้าแต่ละช่วงเวลา และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไป แม้ว่าธุรกิจเสื้อผ้าจะเป็นสินค้าที่มีตลาดขนาดใหญ่และความต้องการสินค้าของผู้บริโภคตลอดเวลา แต่การที่ธุรกิจเสื้อผ้ารายใดจะประสบความสำเร็จได้ดีนั้น ต้องอาศัยความใส่ใจรายละเอียดที่เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย นอกเหนือจากการที่ผู้ประกอบการศึกษาตลาดแฟชั่นหรือกลยุทธ์การตลาดมาเป็นอย่างดีก็ตาม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
นอกเหนือจากงานดีไซน์และวัตถุดิบที่ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าจะนำเสนอมาแล้วนั้น
สิ่งสำคัญที่ผู้ผลิตหรือร้านค้า ปลีกเสื้อผ้าต้องให้ความสำคัญมากขึ้น คือ ‘ขนาด’ ที่มั่นใจได้ว่าผู้สวมใส่ซื้อใส่ได้พอดีกับขนาดที่สั่งซื้อไป
ซึ่งปัจจุบันห้างจำหน่ายเสื้อผ้าปลีกขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ราคาถูกหรือแพง
ต่างหาวิธีการที่จะให้เสื้อผ้าแบรนด์ของตนมีขนาดพอดีกับผู้ซื้อให้มากที่สุด เพื่อปิดการขายให้เร็วที่สุด
สำคัญไปกว่านั้นคือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า และต้องการลดจำนวนการคืนสินค้า
อาทิ บริการตัดขอบ ตัดขากางเกง ปรับแก้ทรง
หรือแม้แต่คำแนะนำในการเลือกเสื้อผ้าที่พอดีตัว ซึ่งเป็นการบริการในแบบออฟไลน์
ขณะที่ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ซกลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนยุคนี้
เสื้อผ้าหลายแบรนด์จำเป็นต้องทำตลาดออนไลน์ให้สอดคล้องกัน
แต่อุปสรรคที่สำคัญของการเลือกซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ คือการใส่ไม่พอดีของเสื้อผ้าที่สั่ง
มาแล้วต้องมีการส่งคืน ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนทั้งเรื่องค่าขนส่ง
ดังนั้นผู้จำหน่ายเสื้อผ้าออนไลน์หลายรายจึงต้องมีการพัฒนาระบบหรือใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลูกค้า
ในการตัดสินใจเลือกขนาดเสื้อผ้าที่ใกล้เคียงกับตัวเองมากที่สุด
ตัวอย่างเช่น ‘True Fit’ แพลตฟอร์มการวัดสัดส่วนและขนาดของรูปร่างสำหรับเสื้อผ้าและรองเท้า ที่ร้านค้าปลีกจำนวนมากนำมาใช้มากสุด
โดยลูกค้าสามารถใส่สัดส่วนตัวเอง หรือใส่ข้อมูลขนาดเสื้อผ้าแบรนด์อื่นๆ
ที่เคยสวมใส่ จากนั้นระบบของ True Fit จะประมวลผลเทียบกัน
จากนั้นจะแนะนำขนาดเสื้อผ้าที่เหมาะสมของแบรนด์ที่ลูกค้ากำลังเลือกซื้อให้ใกล้เคียงที่สุด
นาย Romney Evans หัวหน้าฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์บริษัท
True Fit กล่าวว่า อุปสรรคของการเลือกขนาดเสื้อผ้าในขณะนี้ คือการที่ร้านค้าปลีกแต่ละรายจะผลิตเสื้อผ้าในขนาดที่ไม่เท่ากัน
แม้จะระบุว่าเป็นไซส์เดียวกันก็ตาม ซึ่งได้สร้างความสับสนให้ความลูกค้าเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคในเลือกซื้อเสื้อผ้าร้อยละ
81 จะกลับมาซื้อเสื้อผ้าร้านเดิมหากเจอขนาดที่เหมาะสมกับตัวผู้ซื้อ
โดย True Fit เองได้สร้างระบบออกมาเพื่อที่จะหาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพกับการซื้อสินค้าให้ได้มากที่สุด
เพราะต้องการให้ผู้จำหน่ายลดความเสี่ยงและต้นทุนของการส่งคืนที่ต้องสูญไปอย่างน่าเสียดาย
สอดคล้องกับ นาย David Sobie ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ
บริษัท Happy Returns ผู้ให้บริการการรับส่งคืนสินค้า ให้กับห้างหรือร้านค้าปลีกต่างๆ
กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาสัดส่วนของสินค้าที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์และคืนกลับไป
(Return) อยู่ที่ร้อยละ 15-40 หากมองเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ
คิดเป็นมูลค่าราว 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่สูญเสียไปกับค่าขนส่ง บรรจุภัณฑ์ และสินค้าคงคลัง
นอกเหนือจากที่ผู้บริโภคต้องการให้เสื้อผ้าที่ซื้อมานั้นแลดูดีกับรูปร่างแล้ว
ทางเลือกของเสื้อผ้าที่หลากหลาย หรือแนวความคิดด้านเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไป
อาทิการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เลือกสรรเนื้อผ้าที่ดีขึ้น ไม่ต้องเป็น fast fashion ก็เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตต้องนำมาคิดในการผลิตสินค้า
อาทิ แบรนด์รองเท้าอย่าง Nike ที่ให้ลูกค้าปรับแต่งสี และสไตล์รองเท้าที่อยากได้
หรือร้าน Take Indochino ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าบุรุษในนครแวนคูเวอร์ประเทศแคนาดาที่ประสบความสำเร็จมาก
ซึ่งทางร้านจะเน้นจำหน่ายเสื้อผ้าสูทสุภาพบุรุษแบบ custom made โดยลูกค้าสามารถเข้าไปดำเนินการสั่งซื้อในเว็บไชต์ของทางร้าน
เลือกแบบ/สี/วัตถุดิบ และรายละเอียดต่างๆ ของเสื้อผ้าที่ต้องการ
พร้อมทั้งใส่ขนาดของผู้สวมใส่ได้เอง
เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้อาจมีเทคโนโลยีกล้องสแกนรูปร่างของลูกค้า
เพื่อที่สามารถเลือกขนาดเสื้อผ้าที่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ว่าแบรนด์เสื้อผ้าใดจะวางกำหนดขนาด
อย่างไรก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าอีกต่อไป
ขณะที่ปัจจุบันการขายออนไลน์ยังคงประสบปัญหาเรื่องขนาดเสื้อผ้าที่ไม่พอดีตัวอยู่มาก
ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความไม่พอใจของลูกค้าและหนีหายไม่กลับมาซื้ออีกเลย
ดังนั้นเจ้าของธุรกิจเองก็ต้องให้ความสำคัญเรื่อง ‘ขนาด’ ให้มาก ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีที่อาจช่วยได้
ยังมีเรื่องของการสื่อสารกับลูกค้า ให้ความสำคัญถามไถ่ขนาดที่น่าจะพอดีที่สุด
ก็ยังสามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้
อ้างอิง : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์
ประเทศแคนาดา
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
: https://www.theglobeandmail.com/