Agentic AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ กับโอกาสใหม่ในการปรับตัวของ SME

SME Series
14/06/2025
รับชมแล้วทั้งหมด 1 คน
Agentic AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ กับโอกาสใหม่ในการปรับตัวของ SME
banner

Topic Summary: Agentic AI คือเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ SME ทำงานอัตโนมัติ ตัดสินใจและเรียนรู้ได้เอง พร้อมยกตัวอย่างการใช้งานจริงและวิธีเริ่มต้นอย่างเป็นระบบ

Content Summary:

  • Agentic AI คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวางแผน ตัดสินใจ และปรับตัวตามสถานการณ์ได้เอง ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานอย่างอัตโนมัติและแม่นยำมากขึ้น

  • ธุรกิจ SME สามารถนำ Agentic AI ไปใช้ได้หลายด้าน เช่น การบริหารลูกค้า การจัดซื้อ การเงิน และทรัพยากรบุคคล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรองรับการเติบโต

  • การเริ่มต้นใช้ Agentic AI ควรทำอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากปัญหาที่ชัดเจน เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม เชื่อมข้อมูล และวางแนวทางกำกับดูแลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบ

นับตั้งแต่ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์เริ่มกลายเป็นกระแสหลักในโลกธุรกิจ เทคโนโลยีนี้ก็ได้เปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานในแทบทุกอุตสาหกรรม โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก AI เชิงกฎเกณฑ์ (Rule-based AI) ที่ทำงานตามแบบแผนที่มนุษย์ป้อนคำสั่งเอาไว้ล่วงหน้า จนกระทั่งพัฒนามาสู่ Machine Learning ที่ให้ AI เรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาล และล่าสุดคือ Generative AI ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้เอง เช่น ChatGPT หรือ Claude ซึ่งกำลังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

เมื่อโลกเริ่มคุ้นชินกับการใช้ AI เพื่อช่วยตอบคำถามและผลิตงาน คำถามต่อไปที่คนจำนวนมากมักสงสัย คือ แล้ว AI จะสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้มากแค่ไหน? ที่ไม่ใช่แค่การให้คำแนะนำหรือประมวลผลข้อมูล แต่หมายถึงการเป็น “ผู้ลงมือทำ” ที่สามารถวางแผน จัดการ ตัดสินใจ และประเมินผลด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง

และนั่นคือจุดกำเนิดของเทคโนโลยีที่เรียกว่า Agentic AI เทคโนโลยีปี 2025 ที่กำลังกลายเป็นกระแสใหม่ของการทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวช่วยอัจฉริยะที่สามารถนำพาองค์กรให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Agentic AI คืออะไร?

Agentic AI คือ ระบบ AI ที่สามารถดำเนินการเชิงรุกได้ ไม่ใช่เพียงแค่ตอบสนองคำสั่ง แต่ยังสามารถตั้งเป้าหมาย วางแผน ตัดสินใจ และเรียนรู้เพื่อปรับปรุงตนเองได้อย่างต่อเนื่อง คล้ายกับการมี “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้จริงในระดับหนึ่ง และนี่คือคุณสมบัติที่ทำให้ Agentic AI คือเทคโนโลยีที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ SME ซึ่งต้องการทั้งความยืดหยุ่น ความเร็ว และต้นทุนที่คุ้มค่า

จุดเด่นของ Agentic AI ที่เหมาะสำหรับธุรกิจ SME

การทำงานอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ (End-to-End Automation)

หนึ่งในอุปสรรคที่ SME มักประสบ คือ เรื่องทรัพยากรที่จำกัด ทั้งในด้านบุคลากร งบประมาณ และเวลา ซึ่งการนำ Agentic AI เข้ามาช่วยจัดการงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจะช่วยปลดล็อกภาระที่เดิมต้องใช้คนจำนวนมากดูแล เนื่องจาก Agentic AI สามารถเชื่อมโยงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ตั้งแต่รับคำสั่งซื้อ ตรวจสอบสต๊อกสินค้า ประมวลผลคำสั่งซื้อ ออกเอกสารการเงิน จัดการขนส่ง และติดตามผลการจัดส่งได้ภายในระบบเดียว โดยที่แทบไม่ต้องพึ่งพาการป้อนข้อมูลจากมนุษย์ในแต่ละขั้นตอนเลย

การตัดสินใจอย่างมีเหตุผลตามเป้าหมายที่กำหนด (Goal-Oriented Decision Making)

สำหรับธุรกิจ SME แล้ว การตัดสินใจในแต่ละวันย่อมมีผลต่อผลกำไรอย่างมีนัยสำคัญ แต่การตัดสินใจหลายอย่างกลับอาศัยประสบการณ์ส่วนบุคคลมากกว่าข้อมูลจริง ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญไปได้

Agentic AI เข้ามาช่วยแก้จุดนี้ โดยระบบสามารถรับโจทย์ เช่น “เพิ่มยอดขายสินค้า A” หรือ “ลดสต๊อกคงเหลือในไตรมาสหน้า” แล้วนำข้อมูลที่มีอยู่ เช่น ประวัติการขาย พฤติกรรมลูกค้า แนวโน้มตลาด และต้นทุนการจัดซื้อ มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนและดำเนินการได้ทันที

การเรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง (Self-Improving Agents)

คุณสมบัติที่ทำให้ Agentic AI 2025 โดดเด่นกว่า AI ทั่วไป คือ การเรียนรู้จากประสบการณ์โดยไม่ต้องมีการป้อนคำสั่งใหม่ตลอดเวลา โดยระบบจะสังเกตผลลัพธ์ของการกระทำในอดีต วิเคราะห์ข้อผิดพลาด และนำมาใช้ปรับปรุงการทำงานในอนาคต คล้ายกับการมีพนักงานคนหนึ่งที่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง และทำให้ไม่เกิดซ้ำอีก เช่น หากระบบเคยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแล้วแนะนำสินค้าไม่ตรงใจ ระบบจะจดจำและปรับรูปแบบการวิเคราะห์ในครั้งถัดไปให้แม่นยำยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Agentic AI ยังสามารถนำข้อมูลภายนอกมาใช้ประกอบการเรียนรู้ เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม หรือกระแสผู้บริโภค ซึ่งทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง




Agentic AI ใช้ยังไง? รวมตัวอย่างการนำ Agentic AI ไปปรับใช้ในธุรกิจ SME

การใช้งาน Agentic AI สำหรับ SME ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการลงทุนขนาดใหญ่ แต่สามารถเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่มีผลกระทบชัดเจน โดยเน้นการแก้ปัญหาที่เคยต้องใช้แรงงานมนุษย์จำนวนมาก หรือมีข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง เช่น

การบริหารจัดการลูกค้า (Customer Relationship Management - CRM)

ในอดีต การติดตามลูกค้าแต่ละรายจำเป็นต้องใช้พนักงานขายที่มีประสบการณ์ และต้องมีการจดจำพฤติกรรมลูกค้าเป็นรายบุคคล แต่เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น ความสามารถในการดูแลอย่างใกล้ชิดก็ลดลง

Agentic AI สามารถเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ ทั้งจากประวัติการซื้อ การเปิดอีเมล การตอบแบบสอบถาม หรือการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ระบบสามารถประมวลผลเพื่อระบุลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อซ้ำ แจ้งเตือนให้พนักงานขายติดต่อลูกค้าในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือแม้แต่เสนอแคมเปญส่วนลดเฉพาะบุคคลโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มยอดซื้อซ้ำ สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า และลดการสูญเสียลูกค้าประจำ 

การจัดซื้อและบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Procurement & Supply Chain)

การบริหารสินค้าคงคลังและซัปพลายเชน คือหนึ่งในกระบวนการที่ใช้ทรัพยากรมากที่สุดใน SME โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการมีสินค้าเพียงพอกับการไม่ให้เกิดสต๊อกค้าง

Agentic AI สามารถวิเคราะห์ยอดขายย้อนหลัง คำนวณความต้องการล่วงหน้า และสร้างคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติเมื่อสินค้าต่ำกว่าระดับที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบยังสามารถค้นหาและเปรียบเทียบราคาจากผู้จัดจำหน่ายหลายราย พร้อมทั้งเสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดให้ผู้บริหารอนุมัติได้ทันที โดยประโยชน์ที่เห็นได้ชัดคือการลดต้นทุน เพิ่มความเร็วในการจัดซื้อ และลดความเสี่ยงของการขาดแคลนหรือสต๊อกเกินที่ส่งผลต่อกระแสเงินสด

การเงินและบัญชี (Finance & Accounting)

การตรวจสอบรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องที่ใช้เวลานานและเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย แต่ Agentic AI คือตัวช่วยที่สามารถจัดการใบแจ้งหนี้ ติดตามสถานะการชำระเงินจากลูกค้า แจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดชำระ ไปจนถึงจัดทำรายงานกระแสเงินสดประจำวันแบบอัตโนมัติ และที่สำคัญ ระบบยังสามารถวิเคราะห์ความผิดปกติ เช่น รายการใช้จ่ายที่ไม่สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจ หรือการลดลงของรายได้ในบางช่วงเวลา ซึ่งจะนำไปสู่การปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที

การสรรหาและบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Recruitment & Human Resource Management)

ด้วย Agentic AI ธุรกิจจะสามารถคัดกรองใบสมัคร วิเคราะห์ทักษะ และจัดอันดับผู้สมัครโดยอิงจากคุณสมบัติที่ตั้งไว้ล่วงหน้าได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ระบบยังสามารถติดตามพัฒนาการของพนักงานในองค์กร เช่น การอบรม ทักษะที่มี และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพื่อช่วยวางแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างมีทิศทาง

การใช้ Agentic AI ในด้านนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังลดความลำเอียงที่อาจเกิดขึ้นจากการพิจารณาแบบอัตวิสัย และทำให้กระบวนการบริหารคนเป็นระบบมากยิ่งขึ้น แม้จะมีทีมขนาดเล็ก



วิธีการเริ่มต้นใช้ Agentic AI ในธุรกิจ SME

กำหนดปัญหาและเป้าหมายที่ชัดเจน

ก่อนจะเลือกใช้เทคโนโลยีใด ๆ สิ่งแรกที่ต้องเริ่มต้นคือ รู้ให้ชัดว่าธุรกิจกำลังมีปัญหาอะไร และอยากได้ผลลัพธ์แบบไหนจาก Agentic AI เช่น ต้องการลดระยะเวลาในการตอบแชตลูกค้า เพิ่มยอดขายซ้ำจากฐานลูกค้าเดิม หรือลดต้นทุนในกระบวนการจัดซื้อ

เลือกใช้ระบบหรือโซลูชันที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ

ปัจจุบัน มีเครื่องมือ Agentic AI ให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งแบบ SaaS (Software as a Service) ที่สามารถสมัครใช้งานผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ต้องติดตั้ง ไปจนถึงระบบแบบ In-house สำหรับองค์กรที่มีทีมไอทีดูแลเอง

สำหรับ SME ที่เริ่มต้น ควรมองหาโซลูชันที่ใช้งานง่าย มีอินเทอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อน และมีทีม Support คอยช่วยเหลือ โดยเน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ปัญหาเร่งด่วนของธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องเลือกระบบที่ครอบจักรวาลในช่วงแรก

เชื่อมต่อระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

เพราะหัวใจของ Agentic AI คือ “ข้อมูล” ดังนั้น ระบบจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลภายในที่สำคัญอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบบัญชี ระบบออกใบแจ้งหนี้

  • ระบบสต๊อกสินค้า

  • ระบบ CRM หรือฐานข้อมูลลูกค้า

  • ข้อมูลจากเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มขายของ

การจัดระเบียบข้อมูลให้เป็นระบบเดียวกัน (Data Integration) จะช่วยให้ AI วิเคราะห์และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น ลดปัญหาจากข้อมูลซ้ำซ้อน หรือข้อมูลขาดหายที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด

วางแผนด้านความปลอดภัยและการควบคุม

แม้ว่า Agentic AI จะสามารถทำงานแทนมนุษย์ในหลายมิติ แต่ธุรกิจยังคงต้องมีบทบาทในการควบคุม ดูแล และกำกับทิศทาง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการตัดสินใจผิด หรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยแนวทางที่แนะนำ เช่น

  • กำหนดวงเงินหรือขอบเขตอำนาจการอนุมัติของระบบ (เช่น คำสั่งซื้อที่เกิน 50,000 บาทต้องมีการแจ้งเตือนผู้บริหาร)

  • สร้างระบบ Audit Trail เพื่อตรวจสอบว่า AI ตัดสินใจจากข้อมูลใด

  • วางแผนการตรวจสอบผลลัพธ์เป็นระยะ เช่น รายสัปดาห์ หรือรายเดือน เพื่อปรับปรุงหรือหยุดใช้หากระบบให้ผลลัพธ์ผิดพลาด

บทสรุปและแนวทางสู่ความสำเร็จ

Agentic AI คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่สามารถช่วยธุรกิจ SME ปรับตัวได้อย่างชาญฉลาดในยุคที่การแข่งขันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสามารถในการทำงานอัตโนมัติแบบ End-to-End การตัดสินใจตามเป้าหมาย และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจสามารถประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

สำหรับ SME ที่ต้องการเริ่มต้นใช้ Agentic AI ควรเริ่มจากปัญหาที่จับต้องได้ วางระบบเชื่อมต่อให้รัดกุม และค่อย ๆ ขยายขอบเขตการใช้งานตามความพร้อม เพราะเทคโนโลยี Agentic AI 2025 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หากเข้าใจและใช้เป็น คุณจะมีโอกาสเติบโตมากกว่าใครในอุตสาหกรรมแน่นอน


ข้อมูลอ้างอิง

  1. Agentic AI: What it is and how it’s changing small businesses. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 จาก https://www.vcita.com/blog/small-business-tips/agentic-ai-for-smbs

  2. How Is Agentic AI Empowering Small and Medium Enterprises (SMEs)? [2025]. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มินายน 2568 จาก https://digitaldefynd.com/IQ/agentic-ai-empowering-sme/

  3. Top 8 Agentic AI Use Cases In E-Commerce’. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 จาก https://insights.daffodilsw.com/blog/top-8-agentic-ai-use-cases-in-e-commerce


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

Agentic AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ กับโอกาสใหม่ในการปรับตัวของ SME

Agentic AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ กับโอกาสใหม่ในการปรับตัวของ SME

Topic Summary: Agentic AI คือเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ SME ทำงานอัตโนมัติ ตัดสินใจและเรียนรู้ได้เอง พร้อมยกตัวอย่างการใช้งานจริงและวิธีเริ่มต้นอย่างเป็นระบบContent…
pin
2 | 14/06/2025
วางแผน ESG สำหรับธุรกิจ SME ฉบับเริ่มต้น ทำอย่างไรให้ได้ผลจริง

วางแผน ESG สำหรับธุรกิจ SME ฉบับเริ่มต้น ทำอย่างไรให้ได้ผลจริง

การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และแผน ESG กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกธุรกิจควรพิจารณา เพราะในปัจจุบันธุรกิจไม่สามารถมุ่งเน้นเพียงแค่ผลกำไรเท่านั้น…
pin
3 | 12/06/2025
Holding Company โครงสร้างใหม่เพื่อปกป้องธุรกิจครอบครัวในระยะยาว

Holding Company โครงสร้างใหม่เพื่อปกป้องธุรกิจครอบครัวในระยะยาว

ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างรุ่นของธุรกิจครอบครัวถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การมีโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคงและยืดหยุ่นจึงกลายเป็นหัวใจหลักของความอยู่รอดและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง…
pin
5 | 10/06/2025
Agentic AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ กับโอกาสใหม่ในการปรับตัวของ SME