Wearable Tech 2.0: เจาะลึกเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต [2025]

SME Series
23/09/2025
รับชมแล้วทั้งหมด 1 คน
Wearable Tech 2.0: เจาะลึกเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต [2025]
banner

จากนาฬิกาวัดก้าวเดิน สู่เซ็นเซอร์ติดผิวหนังที่วิเคราะห์ระดับน้ำตาลได้แบบ Real-time ยินดีต้อนรับสู่ยุค ‘Wearable Tech 2.0’ ที่ข้อมูลสุขภาพเชิงลึกไม่ได้มีไว้สำหรับโรงพยาบาลอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจสุขภาพในอนาคต เนื่องจากตลาด Wearable Tech เป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล โดยข้อมูลจาก Grand View Research ระบุว่าตลาด Wearable Technology ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 84,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 186.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 13.6% ตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2030

 ในบทความนี้เราจะไปสำรวจตลาด Wearable Technology และวิเคราะห์โมเดลธุรกิจที่กำลังมาแรง รวมทั้งถอดรหัสความสำเร็จจากกรณีศึกษาเพื่อค้นหาโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของ SME ไทยกัน


นิยามของ Wearable Tech 2.0: เมื่อข้อมูลสุขภาพทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

Wearable Technology คือเทคโนโลยีสวมใส่ได้ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่ออกแบบมาเพื่อสวมใส่บนร่างกายของผู้ใช้ มีหลากหลายรูปแบบ เช่น แว่นตา นาฬิกาข้อมือ แหวน  อุปกรณ์การแพทย์ หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่เราสวมใส่


Wearable Tech 2.0 คือ ยุคใหม่ของอุปกรณ์สวมใส่ที่ก้าวข้ามจาก การเป็นเพียงเทคโนโลยีรวบรวมข้อมูลดิบในยุค 1.0 ซึ่งมีฟังก์ชันพื้นฐานอย่าง การนับจำนวนก้าว หรือวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และให้ผู้ใช้นำข้อมูลไปตีความเอง ไปสู่การวิเคราะห์และให้คำแนะนำเชิงรุก (Real-time Analysis & Proactive Intervention) โดยมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นหัวใจสำคัญสำหรับการติดตามสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง


Wearable Technology มีอะไรบ้าง? ที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น


Continuous Glucose Monitoring (CGM)


เครื่องติดตามระดับน้ำตาลกลูโคสแบบต่อเนื่อง (CGM) เป็น Wearable Technology ที่ใช้เซ็นเซอร์เพื่อวัดระดับน้ำตาลตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลที่ได้จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจว่าการกินอาหาร การออกกำลังกาย และการนอนหลับ ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในร่างกายอย่างไร ไม่ได้จำกัดอยู่ในผู้ป่วยเบาหวานเท่านั้น คนทั่วไปที่ใช้เครื่องมือนี้ ก็สามารถนำข้อมูลไปปรับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้ เช่น การลดภาวะน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงหรือลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลดีต่อระดับพลังงาน อารมณ์ และการควบคุมน้ำหนัก


Advanced Sleep Tracking: การวิเคราะห์คุณภาพการนอนเชิงลึก


Wearable Technology เพื่อติดตามการนอนหลับ ที่ไม่ได้บอกเพียงว่าเราหลับไปกี่ชั่วโมง แต่ยังพยายามระบุช่วงการนอนหลับ (Sleep Stages) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจรูปแบบการนอนของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และเป็นแรงจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น 


Real-time Stress & Recovery Monitoring: การวัดระดับความเครียดและการฟื้นตัว


เมื่อเราสวมใส่ Wearable Tech ที่สามารถวัดระดับความเครียดและการฟื้นตัวแบบ Real-time ได้ เบื้องหลังตัวเลขที่ได้ คือ การทำงานของ AI และ Machine Learning ที่ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อให้เราเข้าใจร่างกายตัวเองได้ดีขึ้น เทคโนโลยีนี้ช่วยเปลี่ยนจากการรู้สึกเครียด ไปสู่การได้รับข้อมูลที่แม่นยำและคำแนะนำเชิงรุก เช่น คำแนะนำให้หายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อจัดการกับความเครียดได้โดยตรง



3 โมเดลธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนตลาด Wearable Tech 2.0

1. โมเดลสมัครสมาชิก (Subscription Model)


โมเดลนี้ผู้ใช้จะจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปีเพื่อเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์พฤติกรรม และคำแนะนำส่วนบุคคลจาก AI ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ ทำให้รายได้ไม่ได้มาจากการขายอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แต่มาจากการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ใช้งาน ผ่านบริการที่มีคุณค่าอย่างต่อเนื่อง เช่น  Oura Ring เป็นแหวนอัจฉริยะ (Smart Ring) หรือ Whoop สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่เน้นการติดตามคุณภาพการนอนหลับและการฟื้นตัวของร่างกายเป็นหลัก

2. โมเดลเชื่อมต่อกับบริการ (Service Integration Model): 


โมเดลธุรกิจ Wearable Technology ที่ใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เป็นสะพานเชื่อมผู้ใช้เข้ากับบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ทำให้เกิดรายได้จากความร่วมมือทางธุรกิจ โดยเฉพาะในวงการแพทย์และสุขภาพ โดยมีจุดเด่นคือการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจร ทำให้ข้อมูลมีประโยชน์มากกว่าการที่ผู้ใช้ต้องประเมินข้อมูลนั้นเอง ตัวอย่างเช่น

  • การแพทย์ทางไกล (Telemedicine): ข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์ถูกส่งให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อใช้ในการปรึกษาและวินิจฉัยทางไกล

  • ผู้ฝึกสอนส่วนตัว (Personal Trainer): โดยใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เพื่อออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายและโภชนาการที่เฉพาะเจาะจงแม่นยำยิ่งขึ้น

3. โมเดลพันธมิตรกับองค์กร (B2B Partnership Model): การร่วมมือของ Wearable Tech กับบริษัทประกันหรือองค์กรต่าง ๆ 


โมเดลธุรกิจที่ใช้ Wearable Technology เพื่อส่งเสริมสุขภาพและสร้างแรงจูงใจทางการเงินให้กับผู้ใช้งาน เช่น ความร่วมมือระหว่างธุรกิจ Wearable Technology อย่าง Fitbit, Apple Watch และ Garmin ร่วมกับ UnitedHealthcare ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐฯ  โดยมุ่งเน้นที่โปรแกรมหลักชื่อว่า “UnitedHealthcare Reward” ที่มีรางวัลสูงสุดถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับสมาชิกในรูปแบบของบัตรของขวัญหรือเงินสะสมในบัญชีสุขภาพ เพื่อจูงใจให้สมาชิกหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น




Case Study: ถอดรหัสความสำเร็จของ AIA Vitality กับ Wearable Tech 

AIA Vitality ใช้เทคโนโลยี Wearable Tech เป็นเครื่องมือหลักในการจูงใจให้ลูกค้าดูแลสุขภาพผ่านการสะสมคะแนน ซึ่งคะแนนที่ได้จะเปลี่ยนเป็นส่วนลดเบี้ยประกันและสิทธิประโยชน์ต่างๆ กลยุทธ์ของ AIA Vitality ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธุรกิจประกัน แต่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจอื่น ๆ ได้อย่างกว้างขวาง โดยใช้เทคโนโลยี Wearable Tech เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคุณค่าและโอกาสทางธุรกิจใน 3 มิติหลัก ได้แก่

1. การตลาดและการขาย: เปลี่ยนจากการขายผลิตภัณฑ์เป็นการขายพฤติกรรม

ธุรกิจที่ใช้แนวทางนี้จะไม่ได้เน้นแค่การขายสินค้าหรือบริการ แต่จะเน้นการขายพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า โดยใช้ Wearable Tech เป็นตัวกลางในการสื่อสารและสร้างแรงจูงใจ

  • สร้างแบรนด์ที่ใส่ใจลูกค้า: ธุรกิจสามารถวางตำแหน่งทางการตลาดของตัวเองเป็นแบรนด์ที่ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือและลูกค้าเกิดความผูกพัน

  • ใช้ข้อมูลเพื่อการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing): ข้อมูลจาก Wearable Tech ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ลึกซึ้งขึ้น ธุรกิจสามารถนำข้อมูลนี้ไปออกแบบแคมเปญการตลาดที่ตรงจุดมากขึ้น เช่น ส่งข้อเสนอส่วนลดสำหรับอุปกรณ์ออกกำลังกายให้ลูกค้าที่เพิ่งเริ่มเดิน หรือมอบส่วนลดอาหารเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้าที่สะสมคะแนนได้ตามเป้า

2. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management): จากการตั้งรับเป็นการป้องกันเชิงรุก

Wearable Tech ช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนจากการประเมินความเสี่ยงแบบเดิม ๆ มาเป็นการจัดการความเสี่ยงเชิงรุก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือความปลอดภัย

  • ลดความเสี่ยงโดยรวม: ในธุรกิจประกันสุขภาพ การที่ลูกค้ามีสุขภาพดีขึ้นย่อมส่งผลให้บริษัทมีความเสี่ยงในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนลดลง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจมีกำไรและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

  • ข้อมูลเพื่อการประเมินที่แม่นยำ: ข้อมูลสุขภาพที่ได้จากอุปกรณ์ช่วยให้การประเมินความเสี่ยงแม่นยำยิ่งขึ้น บริษัทสามารถเสนอเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคนได้

3. การสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจ: ขยายโอกาสจากความร่วมมือ

การใช้ Wearable Tech ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธุรกิจหลัก แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถต่อยอดและสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ ๆ ได้ ดังนี้

  • สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ: ธุรกิจสามารถร่วมมือกับแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์สุขภาพ เช่น ฟิตเนส ร้านอาหารสุขภาพ หรือแบรนด์เสื้อผ้ากีฬา เพื่อมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับลูกค้า เป็นการสร้างความผูกพันกับลูกค้าไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่: ข้อมูลจาก Wearable Tech สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก (Insight) ใหม่ ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต เช่น ประกันที่ครอบคลุมการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายโดยเฉพาะ หรือโปรแกรมสุขภาพส่วนบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ

ต่อยอดธุรกิจจาก Wearable Tech 2.0: 4 โอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย

1. ธุรกิจแพลตฟอร์มวิเคราะห์และให้คำปรึกษา (Data Analysis & Coaching Platform)

เป็นโอกาสในการสร้างแพลตฟอร์มที่ใช้ข้อมูลจาก Wearable Tech มาวิเคราะห์ด้วย AI เพื่อให้คำปรึกษาด้านสุขภาพส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น การนำข้อมูลการนอนหลับมาใช้ในการให้คำแนะนำในการปรับพฤติกรรม หรือการใช้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจมาออกแบบตารางการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน


2. ธุรกิจอาหารและอาหารเสริมเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition & Supplements)


ธุรกิจสามารถต่อยอดจากการใช้ข้อมูลจาก Wearable Technology ที่บันทึกการเผาผลาญแคลอรี่และกิจกรรมในแต่ละวัน จากนั้นจึงแนะนำแผนโภชนาการหรืออาหารเสริมที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น การแนะนำวิตามินที่จำเป็นตามข้อมูลคุณภาพการนอนหลับ


3. ธุรกิจโปรแกรมดูแลสุขภาพสำหรับองค์กร (Corporate Wellness Program)


อีกหนึ่งธุรกิจ Wearable Technology ที่น่าสนใจคือการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันสุขภาพครบวงจรแก่องค์กรต่าง ๆ แทนที่จะขายแค่อุปกรณ์ โดยสามารถใช้ข้อมูลจาก Wearable Tech มาออกแบบโปรแกรมสุขภาพที่ตรงจุด เช่น การแข่งขันออกกำลังกายเพื่อสร้างแรงจูงใจและลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของพนักงาน ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว


4. ธุรกิจพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่เฉพาะกลุ่ม (Niche Wearable) 


ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาอุปกรณ์ให้มีความแตกต่างที่สร้างมาเพื่อผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มได้ เช่น การพัฒนา Wearable Tech หรือเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุ เป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น นาฬิกาอัจฉริยะหรือแหวนที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจและแจ้งเตือนความผิดปกติ หรือแจ้งเตือนการลื่นล้มสำหรับผู้สูงอายุ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสุขภาพ (Data Privacy) น่ากังวลแค่ไหน?

ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสุขภาพใน Wearable Tech ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เนื่องจากบริษัทเทคฯ มีการลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างระบบที่ปลอดภัยและให้ผู้ใช้ควบคุมการแบ่งปันข้อมูลได้เต็มที่ นอกจากนี้ ข้อมูลยังถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีขึ้น เช่น การสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้ใช้


เทคโนโลยีเหล่านี้มีความแม่นยำทางการแพทย์หรือไม่?

Wearable Tech ส่วนใหญ่ในตลาดมีความแม่นยำสูงในระดับที่สามารถใช้ติดตามสุขภาพในชีวิตประจำวันได้ แต่ยังไม่สามารถทดแทนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในโรงพยาบาลได้โดยสมบูรณ์ ข้อมูลเหล่านี้ควรเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นที่กระตุ้นให้คุณต้องไปพบแพทย์ และไม่ควรนำมาใช้ในการวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง 


ธุรกิจ SME จะนำเทคโนโลยีนี้มาปรับใช้ได้อย่างไร?

SME สามารถเริ่มต้นได้จากการใช้ Corporate Wellness Program โดยไม่ต้องลงทุนสูง เช่น การชวนพนักงานที่มี Wearable Tech อยู่แล้วมาเข้าร่วมแข่งขันกันเพื่อสร้างแรงจูงใจ และใช้ข้อมูลรวมเพื่อดูแนวโน้มสุขภาพของพนักงาน ซึ่งจะช่วยป้องกันภาวะหมดไฟและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

บทสรุป: อนาคตของธุรกิจสุขภาพคือข้อมูลที่สวมใส่ได้

Wearable Technology ถือเป็นโอกาสทองสำหรับ SME ไทยในการต่อยอดธุรกิจสุขภาพ โดยเฉพาะยุค Wearable Tech 2.0 ซึ่งเป็นยุคใหม่ของอุปกรณ์สวมใส่ ที่ก้าวข้ามจากการรวบรวมข้อมูล ไปสู่การวิเคราะห์และให้คำแนะนำเชิงรุก ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลสุขภาพพื้นฐานมาสร้างเป็นธุรกิจใหม่ ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มให้คำปรึกษา ธุรกิจอาหารเฉพาะบุคคล โปรแกรมสุขภาพสำหรับองค์กร หรือการพัฒนา Wearable Tech สำหรับกลุ่มเฉพาะทาง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพต่อไปในอนาคต


ข้อมูลอ้างอิง

  1. Pioneering the next generation of soft wearable technology สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จากhttps://www.sydney.edu.au/engineering/news-and-events/news/2024/05/31/pioneering-the-next-generation-of-soft-wearable-technology.html

  2. What is wearable technology? Definition, uses and examples สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จาก https://www.techtarget.com/searchmobilecomputing/definition/wearable-technology

  3. Continuous Glucose Monitoring (CGM) สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จาก https://my.clevelandclinic.org/health/articles/continuous-glucose-monitoring-cgm

  4. Why Non-Diabetics Are Using Continuous Glucose Monitors? สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จาก https://www.news-medical.net/health/Why-Non-Diabetics-Are-Using-Continuous-Glucose-Monitors.aspx

  5. Wearable Tech Innovations for Health Monitoring สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จาก https://uppcsmagazine.com/wearable-tech-innovations-for-health-monitoring/

  6. Popular types of wearable technology in healthcare สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จาก https://www.techtarget.com/virtualhealthcare/feature/Popular-types-of-wearable-technology-in-healthcare

  7. State of the science and recommendations for using wearable technology in sleep and circadian research สืบค้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2025 จาก https://academic.oup.com/sleep/article/47/4/zsad325/7501518

  8. From lab to real-life: A three-stage validation of wearable technology for stress monitoring สืบค้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2025 จาก https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2215016125000536

  9. ก้าวสู่เส้นทางสุขภาพดีกับเอไอเอ ไวทัลลิตี้ พร้อมสะสมคะแนน สืบค้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2025 จาก https://www.aia.co.th/th/health-wellness/vitality/earn-points

  10. Wearable Tech and Mobile Apps: Opportunities in 2025 สืบค้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2025 จาก https://theonetechnologies.com/blog/post/wearable-tech-mobile-apps-opportunities

  11. Privacy Data Ethics of Wearable Digital Health Technologyสืบค้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2025 จาก https://cdh.brown.edu/news/2023-05-04/ethics-wearables


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

Wearable Tech 2.0: เจาะลึกเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต [2025]

Wearable Tech 2.0: เจาะลึกเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต [2025]

จากนาฬิกาวัดก้าวเดิน สู่เซ็นเซอร์ติดผิวหนังที่วิเคราะห์ระดับน้ำตาลได้แบบ Real-time ยินดีต้อนรับสู่ยุค ‘Wearable Tech 2.0’ ที่ข้อมูลสุขภาพเชิงลึกไม่ได้มีไว้สำหรับโรงพยาบาลอีกต่อไป…
pin
1 | 23/09/2025
E-Waste คืออะไร? จากปัญหาสู่โอกาสทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืน [2025]

E-Waste คืออะไร? จากปัญหาสู่โอกาสทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืน [2025]

เมื่อแผงโซลาร์เซลล์หมดอายุขัย หรือเซิร์ฟเวอร์ทั้งศูนย์ข้อมูล ต้องถูกปลดระวาง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ชิ้นยักษ์เหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน? นี่คือความท้าทายด้านปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์…
pin
3 | 16/09/2025
คู่มือปฏิรูปกงสีโครงสร้างธุรกิจครอบครัวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน [2568]

คู่มือปฏิรูปกงสีโครงสร้างธุรกิจครอบครัวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน [2568]

ถอดสูตรธุรกิจแบบกงสี โครงสร้างบริหารธุรกิจแบบครอบครัวที่หลายคนต้องเผชิญปัญหาในการส่งต่อการบริหารจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ พร้อมความท้าทายที่จะทำอย่างไรในการรักษาธุรกิจครอบครัวให้คงอยู่…
pin
4 | 15/09/2025
Wearable Tech 2.0: เจาะลึกเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต [2025]