สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (sweetener) เป็นสารเคมีที่ใช้กันมากอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งให้รสหวานแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
และไม่ให้พลังงาน ใช้แทนที่น้ำตาลซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานใช้ไม่ได้
จึงเป็นสารที่มีคุณค่าทางการแพทย์
นอกจากนั้นยังใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหารสำหรับผู้เป็นโรคอ้วน และใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร
เพื่อลดต้นทุนการผลิต
ยกตัวอย่างเช่น แอสปาร์แตม สตีเวีย หรือไซลิทอล ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่ใช้อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบัน จะกลายเป็นสารให้ความหวานที่ถูกทดแทนด้วยสารให้ความหวานใหม่ๆ ที่บริษัทสตาร์ทอัพกำลังคิดค้นขึ้นเพื่อมาแทนที่น้ำตาล ด้วยการใช้เทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมเข้าช่วย โดยมีตัวอย่างจากบริษัทสตาร์ทอัพ 3 บริษัทต่อไปนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
บริษัท DouxMatok
ด้วยการระดมทุนได้ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทสัญชาติอิสราเอลที่ก่อตั้งมาได้
5 ปี กำลังประสบความสำเร็จ
โดยบริษัทมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในด้านอุตสาหกรรมอาหาร ที่ต้องการลดน้ำตาลจากสินค้าของตน
บริษัทนำเสนอเทคโนโลยีที่จะช่วยปรับสูตรสินค้าอาหารที่มีอยู่ โดยตัดน้ำตาลออกและแทนที่ด้วยส่วนผสมที่บริษัทคิดค้นขึ้นใหม่
โดยเป็นผลึกให้ความหวานผลิตจากแร่ธาตุและไฟเบอร์ธรรมชาติเคลือบด้วยน้ำตาลบางๆ
ทั้งนี้เมื่อบริโภคน้ำตาลดังกล่าวเข้าไป ผู้บริโภคจะได้รับรสความหวานเท่าเดิมแต่จะได้พลังงานส่วนเกินลดลง
เนื่องจากปกติแล้วโมเลกุลน้ำตาลเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ผ่านการรับรู้รส ส่วนอีกร้อยละ 80 จะเข้าสู่ระบบย่อยอาหารโดยตรง
นอกจากนี้น้ำตาลที่ผลิตโดยบริษัท DouxMatok ยังเป็นน้ำตาลที่สามารถยึดเกาะกับน้ำลายในปากได้ดี
รสชาติของน้ำตาลจึงถูกส่งตรงไปยังต่อมรับรสและชุดระบบประสาทที่รับรู้รสหวานได้ดี
น้ำตาลของบริษัท DouxMatok ยังสามารถใช้ประกอบอาหารได้หลากหลาย
บริษัทได้รับรางวัล Prime Minister Award ของประเทศอิสราเอล และยังสามารถระดมทุนได้ถึง
22 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงกลางปีที่มา
พร้อมได้ลงนามตกลงความร่วมมือกับบริษัท Südzucker ผู้นำด้านการผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของยุโรปด้วย
บริษัท Amai Proteins
หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป
บริษัท Amai Proteins เป็นบริษัทที่มองว่าผู้บริโภคในปัจจุบันบริโภคน้ำตาลมากเกินไป
ได้พัฒนาโปรตีนสังเคราะห์ให้ความหวานเหมือนน้ำตาล
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้าง DNA ของโปรตีนธรรมชาติที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาลปกติ
ถึง 10,000 เท่า พบในผลไม้เมืองร้อนในบริเวณเส้นศูนย์สูตร
โดยบริษัท Amai Proteins ได้รับเงินสนับสนุนจากสหภาพยุโรปเป็นเงิน
1 ล้านยูโรเพื่อให้พัฒนาสินค้าและวางจำหน่ายในสหภาพยุโรป
โดยร่วมมือกับบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ เช่น PepsiCo และ Danone
บริษัท Miraculex
แนวคิดการพัฒนาน้ำตาลจากหัวผักสลัด บริษัท Miraculex พัฒนาน้ำตาลในปี 2557 โดยใช้หัวผักสลัด ซึ่งสินค้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเป็นน้ำตาลพัฒนาจาก Miracle fruit พบได้ในทางตะวันตกของแอฟริกา โดยเมื่อรับประทานผลไม้ดังกล่าวแล้ว และต้องรับประทานของที่มีรสเปรี้ยว ผู้บริโภคจะได้รับรสหวานแทน บริษัท Miraculex จึงตัดต่อ DNA จากผลไม้ดังกล่าวใส่ลงในหัวผักสลัด ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้เร็ว โดยใช้ระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ จากนั้นบริษัทจึงเก็บหัวผักสลัดดังกล่าวมาบด ก่อนจะนำไปเป็นส่วนผสม ประกอบอาหารแทนน้ำตาล
เทรนด์ความหวานไม่ให้พลังงาน
ปัจจุบันผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพพยายามลดการบริโภคน้ำตาลจากอาหารต่างๆ
ผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกจึงต่างพยายามเสาะแสวงหาวัตถุดิบใหม่
เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคลดการบริโภคน้ำตาลธรรมดาลดลง
แต่ยังคงได้รสชาติหวานไม่ต่างจากเดิม
อย่างไรก็ดีวัตถุดิบใหม่ๆ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นวัตถุดิบสังเคราะห์
หรือมีการดัดแปลง DNA ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ในทางที่ดีที่สุดผู้ผลิตควรค่อยๆ ปรับสูตรลดน้ำตาลลง เพื่อไม่ให้ผู้บริโภครู้สีกว่าสินค้ามีรสเปลี่ยนแปลงมาก
นอกจากนี้ยังควรใช้น้ำตาลธรรมที่ผ่านกระบวนการแปรรูปให้น้อยที่สุดเมื่อเป็นไปได้
แหล่งอ้างอิง :
Les Echos https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/pour-remplacer-le-sucre-vers-une-nouvellegeneration-dedulcorants-1172639