นาทีนี้ไม่ว่าจะเป็นสายกิน ขาเที่ยว หรือกระทั่งคนทั่วๆไป คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักสตาร์ทอัพชื่อดังสัญชาติไทยที่ชื่อ ”Wongnai” ที่ปลุกกระแสให้บรรยากาศธุรกิจสตาร์ทอัพในไทยคึกคัก ด้วยการหยิบเรื่องราวใกล้ ตัวอย่างการค้นหาร้านอาหาร มาสร้างเป็นธุรกิจที่หลายล้านคนอยากเข้ามาใช้บริการและเต็มใจที่จะเข้ามารีวิว
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ใครจะคาดคิดว่าจากเว็บไซต์ที่ไว้หาพิกัดร้านอาหารและดูรีวิว
จะถูกพัฒนามาเป็นแอปพลิเคชันที่หลายคนต้องมีไว้ติดมือถือ
เพราะอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดของร้านอาหารที่มีอยู่ในประเทศไทย ทั้งตำแหน่งร้าน
อาหาร บรรยากาศ จะเติบโตแบบก้าวกระโดด
สำคัญที่สุดคือ มีการรีวิวอาหารและร้านอาหารจากลูกค้าที่ใช้บริการจริง
และด้วยจำนวนของร้านอาหารในระบบเกือบสองแสนร้าน รีวิวอาหารจำนวนหลายแสนวิว จากสมาชิกที่มีอยู่ประมาณเกือบสามล้านคนในปัจจุบัน
เส้นทางการเติบโตของ Wongnai คล้ายๆกับ Yelp ของอเมริกา
เนื่องจาก ”ยอด ชินสุภัคกุล” ผู้ก่อตั้งและปัจจุบันดำรงตำแหน่งซีอีโอ.มีโอกาสไปเรียนต่อ
MBA ที่อเมริกาและใช้บริการของ Yelp ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แนะนำร้านอาหารในย่านต่างๆ
อยู่เป็นประจำ
ครั้นเมื่อกลับมาอยู่ไทยยังติดที่จะใช้วิธีค้นหาร้านอาหารผ่านทางเว็บไซต์เนื่องจากสะดวกและรวดเร็ว
แต่กลับพบว่าเมืองไทยยังไม่มีเว็บไซต์ที่ช่วยในการค้นหาร้านอาหาร จึงปิ๊งไอเดียอยากจะทำเว็บไซต์ที่ตอบสนองกลุ่มคนที่ต้องการค้นหาพิกัดร้านอาหารในเวลาที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
ในไทย โดยมีเว็บไซต์ Yelp เป็นไอเดียต้นแบบ
ดังนั้นในปี 2553 ยอดได้ชักชวนเพื่อน ๆ อีก 3 คนมาฟอร์มทีมและวางแผนพัฒนาธุรกิจ
”Wongnai” โดยค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน www.wongnai.com ก็พร้อมเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน
เงินทุนก้อนแรก 5 ล้านบาท
ในช่วงเริ่มต้น
ด้วยความที่สตาร์ทอัพเป็นของใหม่สำหรับบ้านเรา จึงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเม็ดเงินด้านการโฆษณาที่จำกัด แต่ด้วยความมั่นใจว่าแผนธุรกิจ Wongnai ที่วางไว้จะเติบโตได้ในอนาคตก็ต้องกัดฟันสู้
จนผ่านไปได้ประมาณ 2 ปี Wongnai มีสมาชิกอยู่ประมาณ 30,000 คน จึงเริ่มมีรายได้ของโฆษณาที่เข้ามามากขึ้น
เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ธุรกิจสตาร์ทอัพ Wongnai ก็เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
จนเข้าตาแหล่งเงินทุนใหญ่ๆ และได้รับเงินทุนสนับสนุนธุรกิจ โดยนำเงินทุนเข้ามาช่วยพัฒนาข้อมูลร้านอาหารและเพิ่มความแม่นยำของตำแหน่งของร้านค้าให้ดียิ่งขึ้น
และเพิ่มเนื้อหาให้มีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ Wongnai
มีผู้ใช้งานเกิน 500,000 คนและมีข้อมูลร้านค้าไม่ต่ำกว่า 100,000
ร้านในประเทศไทย
จากเดิมจะรวบรวมข้อมูลร้านอาหารเพียงอย่างเดียวก็ได้ก้าวไปสู่ตลาดเพื่อความสวยความงาม
โดยมีข้อมูลร้านอาหาร ร้านสปา ร้านทำผม และอื่นๆ ในแวดวง Beauty ที่จะประกอบไปด้วยรายละเอียดของร้าน
และรีวิวของผู้ใช้จริงในฐานข้อมูลมากกว่า 200,000 ร้าน ทำให้ Wongnai มีผู้ใช้งานมากกว่า 2
ล้านรายในขณะนั้นและสร้างรายได้อย่างมากมายจากโฆษณาต่างๆ ที่วิ่งเข้ามา ทำให้ Wongnai
กลายเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่แข็งแรงและมาแรงแบบสุดๆ
ต่อยอด Co-Cooking Space
ปัจจุบัน Wongnai มีสมาชิก 3 ล้านคน มีผู้เข้าใช้งานประมาณ 8 ล้านครั้งในหนึ่งเดือน
แต่พวกเขาก็ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาแนวคิดและค้นหากลยุทธ์ใหม่ๆ
มาต่อยอดธุรกิจที่ทำอยู่ อย่างเช่นร่วมมือกับไลน์แมน โดยเอาฐานข้อมูลร้านอาหารจาก Wongnai แล้วเพิ่มบริการที่สามารถสั่งซื้อผ่านไลน์แมนได้ทันที กว่า 10,000
ร้านทั่วกรุงเทพ
ล่าสุดได้ต่อยอดธุรกิจ Wongnai Cooking ด้วยการเปิดตัว Co-Cooking Space หรือพื้นที่กลางสำหรับการทำอาหารเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาใช้งานเครื่องครัวต่างๆ เพื่อประกอบอาหาร รวมถึงนำสูตรอาหารกว่า 15,000 สูตรสอนโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญทุกวัน ถือเป็นการเชื่อมต่อเนื่องหาระหว่างโลก “ออนไลน์” กับ “ออฟไลน์”เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากการการอยู่แค่บนโลกออนไลน์อย่างเดียวอาจเติบโตได้ลำบาก ซึ่ง Wongnai ก็คือหนึ่งในองค์กรออนไลน์ที่ปรับตัวไปในทิศทางนี้
ทุกวันนี้ Wongnai มีผู้ใช้งานทั้งหมด 10 ล้านคน/เดือน เติบโต 50%
จากปีก่อน และนอกจากจะคงการเติบโตของผู้ใช้
เราก็จะเพิ่มอะไรให้พวกเขาใช้งานถี่ขึ้นกว่าเดิมด้วย ซึ่ง O2O
หรือการทำให้เกิด Transaction อะไรบางอย่างมันช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้มาก
และพิสูจน์แล้วว่ามันสำเร็จได้จริงจากบริษัทอื่นๆ ในระดับโลก
เคล็ดลับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จฉบับ Wongnai เรื่องที่สำคัญมี 3 เรื่อง คือ เรื่องไอเดีย เรื่องทีมและเรื่องแหล่งเงินทุน ซึ่งหากคุณมีครบโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ก็มีสูง
Startup ปรับตัวเมื่อธุรกิจขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่
กลยุทธ์ทำ Startup ให้ปังและดังเร็ว