เปิดบทเรียนแห่งการปรับจาก Shopee กับ 4 Keys E-commerce Trend จุดเปลี่ยนด้านการตลาด จากผลกระทบยุค Covid-19 สู่พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
.
เมื่อปัจจุบันโลกและพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านการตัดสินใจที่เร็วขึ้น และไลฟ์สไตล์ที่ปรับเปลี่ยนเร็วกว่าเดิม ธุรกิจเองก็ต้องหันมาให้ความสำคัญกับการปรับตัว และเรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ ให้สามารถเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงได้ทันทุกช่วงเวลา
—------------------------------------
4 Keys E-commerce Trend กับการจับจุดพฤติกรรมของผู้บริโภคให้อยู่หมัด!
—-----------------------------------
1. Q-Commerce หรือ Quick Commerce จุดเปลี่ยนตั้งแต่คนชินกับการซื้อของออนไลน์
เป็นยุคที่กลุ่มลูกค้าเปลี่ยนมาเคยชินกับการสั่งของออนไลน์หลังจากยุค Covid-19 โดยเน้นการตอบโจทย์เรื่องของการสั่งไว ส่งไว ได้รับของทันใจ ซึ่งปัจจัยสุดตอบโจทย์ในการตลาดยุค Q-Commerce คือ การค้าขายที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ครบ จบ ในที่เดียว
โดยทาง Shopee เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ E-Commerce ที่หันมาจับตลาดด้านนี้ โดยการเริ่มทำ Express Delivery ที่สามารถจัดส่งสินค้าได้แบบรายวัน ทั้งในรูปแบบของการจัดส่งผ่านรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาไปสู่การจัดส่งสินค้าในรูปแบบ Instant Delivery ที่สามารถจัดส่งสินค้าให้ถึงมือได้ภายใน 4 ชั่วโมง สำหรับจุดจัดส่งที่ห่างกันไม่เกิน 30 กม. ซึ่งจเปิดโอกาสให้มีการขนส่งสินค้าได้หลากหลายประเภทมากยิ่งขึ้น จากที่เคยมีข้อจำกัดในเวลาที่ใช้ในการขนส่ง
บอกเลยว่ามุมมองการจัดทำ Q-Commerce ครั้งนี้ สำคัญกับธุรกิจและยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้อย่างตรงจุด ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
- ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พร้อมสร้างความพึงพอใจให้กับตัวแบรนด์ในเวลาเดียวกัน
- เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
- เน้นส่งไวเพิ่มความเป็นไปได้ให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำ
- เชื่อมรอยต่อระหว่างตลาดออนไลน์และออฟไลน์ จากการขนส่งสินค้าที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2. Affiliate and Live Commerce การสั่งซื้อสินค้าแบบไม่ต้องเสียเวลาเสิร์ชหา
บอกเลยว่าการกดสั่งซื้อทั้ง 2 รูปแบบนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่เข้ามาตอบโจทย์พฤติกรรมการช้อปออนไลน์ของกลุ่มลูกค้าหลักในยุคนี้ได้จริง!
- Affiliate Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดแบบ “จ่ายตามผลลัพธ์” (performance-based) โดยแบรนด์ (merchant/advertiser) ร่วมมือกับผู้สนับสนุน หรือ “พันธมิตร” (affiliate/publisher) ให้ช่วยโปรโมตสินค้าหรือบริการ เมื่อมีผู้ซื้อผ่านลิงก์หรือรหัสของพันธมิตร หลังจากนั้นจะมีค่าคอมมิชชั่นหรือค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ โดยไม่จำเป็นให้แบรนด์จ่ายล่วงหน้าสำหรับการโฆษณาที่อาจไม่เกิดผล
- Live Commerce คือ รูปแบบอีคอมเมิร์ซที่ผสมผสาน “การไลฟ์วิดีโอ” กับ “การสั่งซื้อแบบทันที” เข้าด้วยกัน ซึ่งผู้ขายหรือกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์จะทำการขายและพาผู้ชมชมสินค้าแบบ Real Time พร้อมทั้งตอบคำถาม โต้ตอบ และสามารถกดซื้อได้ทันทีภายในไลฟ์ ไม่ต้องเสียเวลาไปเสิร์ชหาสินค้าอีกต่อไป
3. Artificial Intelligence & Augmented Reality (AI/AR)
ใช้ในการทำ Personalization สำหรับการค้นหาสินค้า แล้วทำการยิง Ads ต่อไปสำหรับลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ ได้อย่างตรงจุด
- AI (Artificial Intelligence) คือ ระบบหรือซอฟต์แวร์ที่สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ และตัดสินใจได้โดยอัตโนมัติจากข้อมูลจำนวนมากที่ได้รับมา เช่น ระบบแนะนำสินค้า (recommendation engine), โมเดลทำนายพฤติกรรมลูกค้า, หรือบอทสนทนา (chatbot)
- AR (Augmented Reality) คือ เทคโนโลยีที่นำภาพ เสียง หรือข้อมูลเสมือนมา “ซ้อน” ทับกับโลกจริง ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเห็นสินค้าในบริบทจริงได้มากขึ้น เช่น ลองเสื้อผ้าผ่านมือถือ หรือทดลองวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องจริงผ่านกล้อง เป็นต้น
4. Cross-border e-commerce คือ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ
ซึ่งยุคนี้เรามักจะเห็นกันได้ทั่วไปในมุมของการช้อปออนไลน์ เช่น ผู้บริโภคในไทยสั่งสินค้าจากจีน ญี่ปุ่น หรือยุโรป ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Shopee, Lazada, Amazon หรือ Temu ธุรกิจที่เจาะกลุ่มในด้านนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะผู้บริโภคทั่วโลกคุ้นเคยกับการสั่งของจากต่างประเทศมากขึ้น และช่องทางออนไลน์ทำให้เข้าถึงแบรนด์ต่างประเทศได้ง่ายกว่าเดิม
เป็นอีกมุมที่แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค Cross-border e-commerce กำลังเปลี่ยนจาก “ซื้อในประเทศ” ไปสู่ “ซื้อจากทั่วโลก” เพราะเทคโนโลยีช่วยให้เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังต้องการความน่าเชื่อถือ ความรวดเร็ว และบริการที่เป็นมิตรเหมือนเดิม
แม้ Cross-border e-commerce จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าต่างประเทศได้ง่ายและราคาถูกลง แต่แบรนด์ในประเทศไทยยังมีโอกาสสำคัญหลายด้าน ที่ต่างชาติยังทำได้ไม่ดีเท่าแบรนด์ท้องถิ่น หากรู้จักใช้จุดแข็งให้ถูกทาง ได้แก่ บริการที่เร็วกว่า, ความเข้าใจผู้บริโภคไทยที่ลึกกว่า, สร้างความเชื่อใจได้ง่ายมากกว่า, ทำแคมเปญและคอนเทนท์เข้าถึงคนไทยได้ลึกกว่า, และสามารถปรับตัวได้เร็วกว่า
ซึ่งถ้าแบรนด์ไทยใช้จุดแข็งเหล่านี้ควบคู่กับเทคโนโลยีและการทำการตลาดเชิงประสบการณ์ ก็ยังสามารถเติบโตได้แม้มีคู่แข่งจากทั่วโลกเข้ามาในตลาดไทย ดังนั้นตัวแบรนด์เองก็ควรจะต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้ และเตรียมพร้อมรับมือไม่ว่าจะเป็นในด้านของระบบการชำระเงินที่ครอบคลุม ภาษาที่สื่อสารได้แบบ Global และระบบการจัดสั่งที่ครบ จบ เชื่อถือได้
#QuickCommerce #Affiliate #LiveCommerce #AI #Artificial Intelligence #AugmentedReality #Crossborder #Ecommerce #BBO #thebigblueocean #digitaltransformation #transformationbuddy
สุดารัตน์ เรืองวิเศษ
พนักงานวิเคราะห์ 9
ที่มาข้อมูล
- เนื้อหาจาก ดร.ศรุต วานิชพันธ์
- https://blog.ourgreenfish.com/quick-commerce-2025
- https://www.brandbuffet.in.th/2025/08/future-trending-media-2025/
- https://www.shopify.com
- https://neilpatel.com/blog/livestream-shopping
- https://globalresearchandinnovationpublications.com
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32799542/
- https://www.global-e.com
- https://www.iastatedigitalpress.com/itaa/article/id/13427/

