พิษเทรดวอร์! Google-Microsoft เตรียมหนีจีนมาเวียดนามและไทย

SME Update
15/09/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 3084 คน
พิษเทรดวอร์! Google-Microsoft เตรียมหนีจีนมาเวียดนามและไทย
banner

ผมพวงจากความขัดแย้งที่ต่อเนื่องและรุนแรงระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่าน โดยเฉพาะกรณีการจุดชนวนสงครามการค้าโดยใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของทั้งสองประเทศ ตลอดจนมาตรการในการคุกคามบริษัทเอกชนของทั้งสองชาติ นับเป็นชนวนสำคัญในการที่ทั้งบริษัทจีนและสหรัฐฯ ต่างหมายตาพื้นที่ลงทุนใหม่ หรือหลุมหลบภัยสงครามการค้า ที่แม้มีความเป็นไปได้ว่าในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 นี้ ซึ่งมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การเมืองมีโอกาสเปลี่ยนขั้ว แต่เรื่องนี้นักวิเคราะห์มองว่า แม้การเมืองเปลี่ยนแต่ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจไม่เปลี่ยน

ด้วยเหตุนี้ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาปรากฏข่าวเกี่ยวกับการย้ายฐานผลิตของบริษัทด้านเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา เช่น Google และ Microsoft ออกจากจีนมายังเวียดนามและประเทศไทย โดย Google และ Microsoft มีแผนจะย้ายฐานการผลิตโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอื่นๆ รวมถึงห่วงโซ่การผลิตจากจีนมายังภูมิภาคอาเซียน เนื่องด้วยสถานการณ์สงครามการค้าจีน–สหรัฐอเมริกา และการแพร่ระบาดของ COVID-19

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

โดยคาดว่าไทยและเวียดนามจะเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด ซึ่ง Microsoft และ Google คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตคอมพิวเตอร์พกพารุ่น Surface และโทรศัพท์รุ่น Pixel 4/5 ในจังหวัดทางภาคเหนือของเวียดนามได้เร็วที่สุด ภายในไตรมาสที่ 2 และครึ่งหลังของปี 2563 ตามลําดับ

ด้าน Google ได้เริ่มแผนย้ายฐานการผลิตออกจากจีนตั้งแต่ปี 2562 โดยสั่งการให้บริษัทคู่ค้าในเวียดนามปรับรูปแบบโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือเดิมของ Nokia ในจังหวัดบักนิงห์ และโรงงานผลิตมือถือในจังหวัดหวิงฟุก ทางภาคเหนือของเวียดนาม เพื่อเตรียมผลิตโทรศัพท์มือถือรุ่น Pixel ดังกล่าว

รวมทั้ง Intel Products Vietnam (IPv) ภายใต้บริษัท Intel ได้ประกาศระหว่างการประชุม HCMC-U.S.Business Summit (ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐอเมริกา) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ว่ามีแผนจะขยายกําลังการผลิตชิปในนครโฮจิมินห์ ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุนตั้งสายการผลิตชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ใน SHTP นครโฮจิมินห์ ตั้งแต่ปี 2553 มูลค่าการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการจ้างงานคนท้องถิ่นกว่า 5,000 คน และมีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์กว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีโดยเฉลี่ย

ทั้งนี้ บริษัท Microsoft ได้จัดตั้ง Microsoft Innovation Center (SMIC) บริเวณ Saigon High-Tech Park (SHTP) นครโฮจิมินห์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 มีบทบาทในการสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงทําการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและวางยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการจัดการอบรมแก่คนในท้องถิ่น และเป็นที่ปรึกษาสําหรับโครงการด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนานครด้วย อนึ่งก่อนหน้านี้ บริษัท Foxconn ผู้ผลิตหูฟังไร้สาย AirPods ให้กับบริษัท Apple ก็ได้ย้ายฐานผลิตออกจากจีนมายังเวียดนาม (จังหวัดบิ๊กซาง) เช่นกัน โดยตั้งเป้าผลิตหูฟัง AirPods 4 ล้านชิ้น คิดเป็นร้อยละ 30 ของการผลิตหูฟังดังกล่าวของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เวียดนามจะเป็นหนึ่งในประเทศที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการย้ายถิ่นการผลิตออกจากจีน แต่ยังประสบความท้าทายสําคัญหลายประการ อาทิ อุตสาหกรรมสนับสนุนและทรัพยากรบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีไม่เพียงพอ ทําให้เวียดนามต้องพึ่งพาการนําเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลางน้ำจากต่างประเทศโดยเฉพาะจีน และโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่พร้อม เป็นต้น จึงทําให้หลายฝ่ายกังวลว่าในระยะยาวเวียดนามจะติด FDI Trap ที่ดึงดูดได้เพียงอุตสาหกรรมการผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำหรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นกลางเท่านั้น

ขณะที่ในปี 2563 รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติแผนการพัฒนาของนครโฮจิมินห์ในการจัดตั้งเมืองนวัตกรรมด้านตะวันออกของนคร (The Duc City) ซึ่งรวมพื้นที่สามเขตหลักกว่า 211 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 1.1 ล้านคน โดยตั้งเป้าเป็นเมืองอัจฉริยะ ศูนย์กลางทางการเงิน การวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงศูนย์กลางการบ่มเพาะธุรกิจ Startups ของภูมิภาคในลักษณะเดียวกับ Silicon Valley ของสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายยังมองว่าหนึ่งในความท้าทายสําคัญ เนื่องจากนครโฮจิมินห์ยังขาดความพร้อมในการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง (home grown) แต่เป็นลักษณะการดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากกว่า ซึ่งแตกต่างจากจุดเริ่มของ Silicon Valley

สำหรับบริบทด้านการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันกำหนดให้โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือโครงการ EEC คือเป้าหมายพื้นที่ลงทุนหลักจากต่างชาติ ซึ่งครอบคลุมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่สำคัญมีความเพียบพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ดังนั้นโอกาสที่ทุนต่างชาติจะมุ่งมาปักธงมาลงทุนใน EEC ของไทยจึงมีมากเช่นกัน ไม่เพียงเฉพาะแค่บริษัทจีนและสหรัฐฯ อีกทั้งไทยตั้งเป้าเป็นฐานการลงทุนที่ให้ความสำคัญด้านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้บริบทการลงทุนของไทยและเวียดนามแม้จะดูเหมือนกันแต่จริงๆ แตกต่างกัน

 

แหล่งอ้างอิง

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์

https://globthailand.com/ 



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่ไทยอาจได้ประโยชน์

EEC ไปต่ออย่างไรเมื่อลงทุนทั่วโลกเจอพิษโควิด-19


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1058 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1402 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1678 | 25/01/2024
พิษเทรดวอร์! Google-Microsoft เตรียมหนีจีนมาเวียดนามและไทย