Travel bubble และการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยก่อนเริ่มจริง ต.ค. นี้

SME in Focus
06/09/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 5351 คน
Travel bubble และการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยก่อนเริ่มจริง ต.ค. นี้
banner

หวั่นแรงงานในภาคการท่องเที่ยวการบริการโรงแรมกว่า 11 ล้านคนกำลังจะตกงาน และธุรกิจ SME ที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวจะล้มหายไปจากระบบ จากการปิดประเทศไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ช่วงโควิด 19 นานเกินไป รัฐบาลไทยจึงเร่งเดินหน้าหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โดยโฟกัสไปที่เศรษฐกิจการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ท่ามกลางกระแสไม่เห็นด้วยทางการแพทย์ที่รัฐบาลจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงเดือนกันยายน ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดหลังทุ่มงบประมาณ 22,400 ล้านบาท ในการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ภายใต้ชื่อ "เราไปเที่ยวกัน" และ "เที่ยวปันสุข" แล้วไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามคาดหมาย การฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศจำเป็นต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เพื่อกระตุ้นเติมรายได้ที่หายไปกว่า 2 ล้านล้านบาทจากการท่องเที่ยว

ล่าสุดที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด 19 (ศบค.) ชุดใหญ่ เห็นชอบให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทย ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, ผู้ถือบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด และต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยได้ โดยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะพิจารณาในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเรื่องการท่องเที่ยวมากที่สุด และเปิดรับนักท่องเที่ยวในจำนวนจำกัด ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องผ่านการคัดกรองตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และให้อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวเท่านั้น เบื้องต้นจะนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตเป็นโมเดล ภายหลังมีการเปิดประชาพิจารณ์ในพื้นที่ว่า ประชาชนในพื้นที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวหรือไม่ หากมีการยินยอม จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ตั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

มาตรการการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble

Travel bubble เกิดขึ้นหลังการคลายล็อกมาตรการระยะที่ 6 ของรัฐบาลไทย ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติ จาก 4 กลุ่ม เดินทางเข้าไทยได้ ใน 4 กลุ่มได้แก่ กลุ่มที่เข้ามาจัดแสดงสินค้าในไทย, กลุ่มที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์, การเดินทางมาด้านเมดิคัลและเวลเนส (รักษาสุขภาพในไทย) และสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด

โดยการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศใน 4 กลุ่มหลักดังกล่าว จัดเป็นสเต็ปแรกของการเริ่มเปิดให้ต่างชาติเดินทางเข้าไทย ซึ่งเป็นการเปิดแบบมีเงื่อนไข โดยให้ความสำคัญในเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นหลัก จากศักยภาพทางการแพทย์ของไทยในความรู้ความสามารถในการควบคุมโรคได้ ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มที่อนุญาตให้เข้าไทยได้ นั้นเป็นโครงการนำร่องจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่มีการเสนอตัวเข้ามาอยู่แล้ว ภายใต้ข้อกำหนดดังนี้

 

1. กลุ่มที่เข้ามาจัดแสดงสินค้าในไทย (ไม่ต้องกักตัว 14 วัน)

   - ต้องตรวจสุขภาพหาเชื้อโควิด 19 ไม่เกิน 3 วัน ก่อนเดินทาง

   - ทำประกันโควิด 19 ตามข้อกำหนดของรัฐบาล 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ

   - มีหนังสือยืนยันการปฏิบัติตามระเบียบที่รัฐบาลไทยและที่ผู้จัดงานกำหนด

   - มีตั๋วเครื่องบินทั้งขามาและขากลับ

   - ต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่สนามบินของไทย

   - ระหว่างการอยู่ในไทยช่วงการจัดงานต้องเช็คอินผ่านแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ”

   - เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็จะเข้าสู่กระบวนการดูแลของบริษัทรับจัดการเดินทางที่ตกลงไว้

   - ต้องอยู่ในโรงแรม Alternative State Quarantine ตามที่ผู้จัดงานกำหนดให้เท่านั้น

   - มีการรับรองของ ศบค. และจะมีเจ้าหน้าที่กำกับดูแลเจ้าหน้าที่ 1 คน/ต่างชาติ 10 คน เดินทางสู่ที่พัก หรือสถานที่จัดงานเท่านั้น

   - ระหว่างอยู่ในไทยจะเดินทางไปไหน ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุขและสามารถติดตามตัวได้ตลอดเวลา

แนวทางปฏิบัติระหว่างจัดแสดงสินค้าก็จะต้องทำตามเงื่อนไข เพื่อควบคุมพื้นที่คูหาและการเจรจาธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นจัดให้มีฉากกั้นบนโต๊ะเจรจาภายในคูหา, จัดให้มีฉากระหว่างโต๊ะเจรจาในพื้นที่เจรจา, จัดให้มีการทำออนไลน์การเจรจาธุรกิจร่วมไปกับส่วนกายภาพเป็น Hybrid Discussion และจัดให้มีพื้นที่การเจรจาสำหรับชาวต่างชาติ (ผู้แสดงงาน) ออกจากพิ้นที่เจรจาของชาวไทย (ผู้แสดงงาน)

ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ แจ้งว่ามีกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติมีความต้องการจะเข้ามาจัดแสดงสินค้าในไทย (Exhibition MICE) ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงสิ้นปีนี้ร่วมหมื่นคน บางเดือนอาจมียอดสูงสุดกว่า 4 พันคน อาทิ ในเดือนกันยายน 2563 มีราว 680 คน, เดือนพฤศจิกายน 4 งาน ราว 4,000 คน และเดือนธันวาคมอีกราว 1,000 คน

 

2. กลุ่มคณะถ่ายทำภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศทุกประเภทที่เดินทางเข้ามาถ่ายทำในไทย มีแจ้งเรื่องที่จะขอเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ในไทยแล้ว 7 เรื่องจากต่างประเทศ ในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ถึงเดือนเมษายนปีหน้า ได้แก่ A Summer Odyssey จากจีน, Dream จากเกาหลีใต้, Wu Assassins-Reckoning จากสหรัฐอเมริกา, The Great Beer Run Ever จากสหรัฐอเมริกา, Inversion จากอังกฤษ, 47 Ronin 2 จากสหรัฐอเมริกา และ Mrs.CHURCHILLS WAR จากอังกฤษ ซึ่งจะมีต่างชาติรวม 154 คน ทีมงานไทย 1,100 คน ใช้งบประมาณราว 1,696 ล้านบาท กลุ่มนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดกฏเกณฑ์ของรัฐ ที่ว่าก่อนเดินทางเข้าไทยต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารตามที่ ศคบ.กำหนด มาถึงเมืองไทยต้องกักตัว 14 วัน และทีมงานทุกคนทั้งไทยและต่างชาติ ต้องมีประกันคุ้มครองค่ารักษาโรคโควิด 19 ต้องแจ้งการใช้พื้นที่ถ่ายทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทราบล่วงหน้า เพื่อสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ และจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามตลอดระยะเวลาที่อยู่ในไทย

3. กลุ่มที่เดินทางมารักษาสุขภาพในไทย จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติในรูปแบบแพ็คเกจทัวร์ที่เชื่อมโยงกับ Medical and Wellness โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เสนอให้นำร่องใน 8 แพ็คเกจทัวร์ก่อน เพื่อแจ้งผ่านสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศและเอเย่นต์ของต่างประเทศ ได้แก่

1. แพ็คเกจลักชัวรี จังหวัดเชียงใหม่ (7 วัน 6 คืน)

2. จังหวัดภูเก็ต (6 วัน 5 คืน)

3. จังหวัดภูเก็ต (8 วัน7คืน)

4. ล่องเรือยอร์ช จังหวัดกระบี่ (5 วัน 4 คืน)

5. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี (7 วัน 6 คืน)

6. เกาะสมุย (5 วัน 4คืน)

7. พัทยา (6 วัน 5 คืน)

8. พัทยา (11 วัน 10 คืน) 

ซึ่งคนที่เดินทางมาด้านเมคิคัลและเวลเนสในไทยหลังการกักตัว 14 วัน และรักษาสุขภาพตามโปรแกรมเสร็จ ก็จะเดินทางท่องเที่ยวไทยต่อในโปรแกรมนำร่องดังกล่าวต่อไป

 

4. สมาชิกไทยแลนด์อีลิทการ์ด จะนำร่องให้เดินทางเข้ามาในไทยอยู่ที่ 200 รายก่อน จากจำนวนสมาชิกในปัจจุบัน 10,363 ราย ซึ่งอยู่ในไทย 3,108 รายและอยู่นอกราชอาณาจัก 7,255 ราย ซึ่งสมาชิกที่เดินทางเข้าไทยต้องกักตัว 14 วันอยู่ในโรงแรม Alternative State Quarantine โดยมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 1 แสนบาท ต้องตรวจเชื้อโควิด 19 จากต้นทางภายใน 72 ชั่วโมง ต้องมีประกันสุขภาพวงเงินคุ้มครองมากกว่า 1 แสนดอลล่าร์สหรัฐ

ทั้งนี้รัฐบาลได้อนุญาตให้ต่างชาติเข้าไทยใน 4 กลุ่มดังกล่าว จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายในไทยสูง ซึ่งได้ผ่อนคลายเพื่ออย่างน้อยก็ให้เกิดการเคลื่อนไหวในการเดินทางเข้าไทย กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเดินทางท่องเที่ยวแบบเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่อรองรับการเดินทางของต่างชาติใน 4 กลุ่มดังกล่าว และปูทางเผื่อไว้ถึงการเปิดการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble จับคู่ประเทศที่มีการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ได้ดีอีกด้วย

สำหรับมาตรการรองรับการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble จะดำเนินการผ่านมาตรการนำร่องการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัด รวม 6 เกาะ ได้แก่

1. จังหวัดภูเก็ตทั้งเกาะ

2. จังหวัดกระบี่ เฉพาะพื้นที่เกาะพีพี

3. จังหวัดสุราษฏร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน) กับประเทศที่มีการคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดได้ดีมีมาตรฐาน ภายใต้ข้อกำหนดที่ว่า

- นักท่องเที่ยวที่มีวัตถุประสงค์จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จะต้องเดินทางเข้ามาจังหวัดนั้นๆ โดยตรง

- จะต้องเดินทางผ่านการบินแบบเที่ยวบินเช่าเหมาลำ

- ต้องประสานกับสถานทูตไทยในต่างประเทศเพื่อขอวีซ่า เพราะประเทศไทยไม่มีการทำ VISA ON ARRIVAL ให้

- ต้องมีการตรวจเชื้อว่าไม่เป็นโควิด 19 ก่อนทำการบิน 3 วัน

- มีการตรวจเชื้อซ้ำทันที่ที่เข้ามาถึงประเทศไทย

- ต้องกักตัวอยู่ในพื้นที่นำร่องดังกล่าว 14 วัน ห้ามเดินทางข้ามจังหวัดหรือข้ามพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อ จึงสามารถเดินทางข้ามไปเที่ยวยังจังหวัดอื่นๆ ของไทยได้

- จำกัดจำนวนนักท่องเทียวต่อวันในแต่ละพื้นที่เที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ตรับได้ 1 พันคนต่อวัน

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.thairath.co.th/ 



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


ความน่าจะเป็น! การฟื้นตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวไทย

ความคาดหวังและปัจจัยที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวช่วงโควิด 19


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม (Telco) ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่ารูปแบบของการดำเนินงาน มีภาพรวมของรายละเอียดอย่างไร…
pin
174 | 17/04/2024
‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี AI ยกระดับภาคการเกษตรไทย พร้อมดันประเทศสู่สังคม Net Zero

‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี AI ยกระดับภาคการเกษตรไทย พร้อมดันประเทศสู่สังคม Net Zero

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกมีความตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยดูแลและช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ปัจจุบันทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย…
pin
390 | 10/04/2024
‘เอเชี่ยนแอสฟัลท์’ ผู้เชี่ยวชาญด้านยางมะตอย ขยายไลน์สู่ผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง เจาะตลาด Home Use ครบวงจรด้วยเทคโนโลยี

‘เอเชี่ยนแอสฟัลท์’ ผู้เชี่ยวชาญด้านยางมะตอย ขยายไลน์สู่ผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง เจาะตลาด Home Use ครบวงจรด้วยเทคโนโลยี

ถนนลาดยาง คืออะไร?ยางมะตอย By-Product จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ ลักษณะสีดำ ข้น หนืด ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ทนน้ำ ยึดเกาะกับวัสดุหินได้ดี…
pin
1315 | 01/04/2024
Travel bubble และการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยก่อนเริ่มจริง ต.ค. นี้