ปัจจุบันร้านจำหน่ายเครื่องกาแฟ
ชานมไข่มุกค่าเฟ่เติบโตอย่างต่อเนื่องในอาเซียน ไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้น แต่
"กัมพูชา" ยังเป็นตลาดสำหรับเครื่องดื่มกาแฟ
และชาไข่มุกที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยไลฟ์สไตล์ของนักดื่มชาวกัมพูชารุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น
จึงไม่แปลกที่ธุรกิจนนี้กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้เปิดเผยผลสำรวจร้านกาแฟและชานมไข่มุกอัพเดทปี 2020 ได้อย่างน่าสนใจว่า เฉพาะในกรุงพนมเปญมีเปิดให้บริการกว่า 300 แห่ง และหากนับรวมทั่วประเทศมีมากถึง 500 แห่ง โดยร้านกาแฟและชานมไข่มุกนี้เป็นร้านที่มีทั้งแบรนด์ดังจากต่างประเทศที่มีการซื้อแฟรนไชส์มาเปิด หรือร้านที่เป็นการสร้างแบรนด์ท้องถิ่น เนื่องจากชาวกัมพูชาวัยทำงาน นิยมใช้เวลาว่างด้วยการไปนั่งจิบกาแฟ สังสรรค์ หรือนัดทำธุรกิจตามร้านที่มีบรรยากาศดีๆ มีพื้นที่ให้นั่งไม่ต่างจากประเทศไทย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สำหรับกาแฟแบรนด์ไทยที่รุกเข้าไปทำการตลาดขยายสาขาในกัมพูชามีมากนับ
10 แบรนด์ อาทิ Amazon แบล็คแคนยอน ทรูคอฟฟี่ อินทนิล
ดอยช้าง ดอยหล่อ และชาวดอย เป็นต้น ทั้งนี้กาแฟสัญชาติไทยถือว่ามีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ
1 คิดเป็นร้อยละ 45 โดยร้านกาแฟ Amazon
มีจำนวนสาขามากที่สุดถึง 140 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่กาแฟต่างประเทศแบรนด์อื่นก็รุกเข้าไปยังตลาดกัมพูชาเช่นกัน
ทั้งกาแฟสัญชาติอเมริกันอย่างสตาร์บัคส์ ซึ่งเข้าไปทำการตลาดมานานกว่า 6 ปี
สามารถขยายสาขาในเมืองเศรษฐกิจที่มีนักท่องเที่ยวคับคั่งสำคัญอย่างพนมเปญ
และเสียมราฐแล้ว ประมาณ 20 สาขา และล่าสุดยังมีกาแฟสัญชาติญี่ปุ่นชื่อดัง
แบรนด์ Arabica ซึ่งได้เข้าไปเปิดบริการสาขาแรกที่ตึกหรู Vattanac
ที่กรุงพนมเปญ เป็นสาขาแรกเมื่อเดือนมกราคม 2563 ก่อนที่จะมาเปิดสาขาแรกในไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 เสียอีก
ส่วนแบรนด์กาแฟท้องถิ่นที่น่าจับตามองคือ Brown
Coffee ซึ่งเปิดดำเนินการมาประมาณ 10 ปี
นับจากปี 2553
มุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงานในกัมพูชา
แต่ภายหลังก็ได้รับความนิยมในหมู่คนวัยทำงานด้วย
ด้วยจำนวนและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ละแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามาแข่งขันให้บริการ เช่น สตาร์บัคส์
มีการจัดทำโปรโมชั่นและคิดค้นเมนูใหม่ รวมถึงการตกแต่งร้านเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ขณะที่บางแบรนด์ก็มีการทำตลาดลักษณะแฟรนไชส์ก็มี
ขณะที่ธุรกิจร้านชานมไข่มุก
เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมสำหรับวัยรุ่นกัมพูชาไม่แพ้กัน
โดยร้านชานมไข่มุกที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์พรีเมียมจากไต้หวัน เช่น Tiger
Sugar, The Alley, Dakasi, KOI, Xing Fu Tang และ Chatime เป็นต้น ขณะที่ร้านชาแบรนด์ไทยที่เข้าไปทำการตลาดในกัมพูชาแล้ว อาทิ Kamu,
Fire Tiger, Crown, Mama's Buble, Nobicha และชาตรามือ เป็นต้น
โอกาสการลงทุนธุรกิจนี้ในกัมพูชายังมีแนวโน้มที่เติบโตได้อีกไม่ใช่กระแสชั่วคราว
แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ทำให้ประชาชนลดการเดินทางออกจากบ้าน แต่ก็ยังไม่กระทบต่อตลาดนี้
โดยหลายแบรนด์ได้มีการปรับกลยุทธ์ใช้การขายผ่านช่องทางออนไลน์ และบริการเดลิเวอรี่
ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ
สำหรับนักธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องการขยายธุรกิจกลุ่มนี้ยังไปกัมพูชาควรศึกษาตลาดให้ดี และควรเดินทางเข้าไปสำรวจตลาดเพื่อประเมินโอกาสและอุปสรรคเสียก่อน ส่วนรูปแบบการลงทุนสามารถดำเนินกิจการด้วยการถือหุ้น 100% ก็สามารถทำได้ แต่วิธีนี้อาจจะต้องใช้เงินลงทุนและระยะเวลานานพอสมควร หรือจะร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่นตามสัดส่วนที่ตกลงกันก็ได้ หรืออาจจะขยายโดยการขายแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยประหยัดต้นทุนและระยะเวลาได้ดีเช่นกัน