สหรัฐฯ ยุครุ่งเรืองด้านสิ่งแวดล้อม : โอกาสขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

SME Go Inter
26/11/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 1962 คน
สหรัฐฯ ยุครุ่งเรืองด้านสิ่งแวดล้อม : โอกาสขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
banner

เกือบจะสะเด็ดน้ำแล้วสำหรับ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่จับตาของทั้งโลกว่าผลจากชัยชนะการเลือกตั้งของ "โจ ไบเดน" ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่สามารถช่วงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่สองมาจาก "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันได้สำเร็จ จะนำมาสู่การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ของนโยบายสหรัฐอย่างไรบ้าง

โดยเฉพาะ "นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม" ที่ทั้งสองคนต่างนำเสนอในมุมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่นโยบายนี้ได้สร้างความหวั่นวิตกให้ประเทศอุตสาหกรรมทั่วโลก ไม่น้อยไปกว่านโยบายการเดินหน้าสงครามการค้าระลอกใหม่

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ข้อมูลจากนิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า ในส่วนของไบเดน ได้ชูนโยบายพลิกกลับไปให้ความสำคัญกับวาระด้านสิ่งแวดล้อม และความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมทั่วโลก ที่จะผลักดันให้สหรัฐฯ กลับไปเข้าร่วมในความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ “ความตกลงปารีส” หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามถอนตัวไปในปี 2019 ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแผนยุติการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมัน ในประเทศที่สร้างความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมากด้วย

เป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีการประกาศใช้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (a border carbon adjustment mechanism) ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกับของสหภาพยุโรปที่กำลังพิจารณาบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ เป้าหมายเพื่อผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมทั้งในสหรัฐฯ และประเทศผู้ส่งออกลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศ

ซึ่งนั่นหมายถึงว่า ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวดขึ้น และอาจจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย โดยจากข้อมูล Union of Concerned Scientists ระบุว่า จีนและอินเดีย ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนสูงมาก ในปี 2018 จีนปล่อยคาร์บอนกว่า 10,000 ล้านตัน ขณะที่อินเดียปล่อยเกือบ 3,000 ล้านตัน จึงเสี่ยงที่ต้องแบกรับต้นทุนจาก "ภาษีคาร์บอน"

ขณะที่ข้อมูลจาก “มอร์แกน สแตนลีย์” มองว่า อัตราภาษีคาร์บอน อาจจะขึ้นไปที่ 40 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตอะลูมิเนียมในจีน อินเดีย และออสเตรเลียเพิ่มขึ้นกว่า 20% และจะส่งผลให้ประเทศทีมีการควบคุมการปล่อยคาร์บอนได้ดีกว่า อย่างประเทศในยุโรปและสหราชอาณาจักรได้เปรียบ

แต่ในอีกด้านหนึ่งมีมุมมองว่า การมุ่งเน้นนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมของไบเดน อาจจะส่งผลดีกับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่จะทำให้ลดการสร้างมลพิษต่อโลกมากขึ้น 

ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำไมอามี สหรัฐฯ ระบุว่า เดิมรัฐบาลทรัมป์ไม่ได้มีนโยบายส่งเสริมหรือสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างชัดเจน แต่นายไบเดนมีนโยบายที่จะลงทุนเรื่องนี้กว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ และการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

โดยเฉพาะนโยบายการเพิ่มแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอีก 5 แสนแห่งทั่วสหรัฐในปี 2573 รวมถึงนโยบายลดหย่อนภาษีในการซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงสุดถึง 7,500 เหรียญสหรัฐต่อคน และนโยบายการลดภาษีสำหรับผู้ที่นำรถยนต์เก่ามาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าใหม่ หรือ Cash for Clunkers ที่เริ่มในสมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในช่วงที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี

ทิศทางการดำเนินโนบายของสหรัฐฯ ค่อนข้างสำคัญและมีผลต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจของประเทศคู่ค้าทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย ในฐานะที่สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 14.54% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย และในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้ากลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากไทยเป็นมูลค่า 707 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ อย่างไรก็ตามการปรับลดลงครั้งนี้ถือว่าเป็นการนำเข้าสอดรับกับภาพรวมของการนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้ที่สหรัฐนำเข้าลดลง 29.54%

อย่างไรก็ตามอีกประเด็นสำคัญที่เอกชนไทยต้องจับตามอง คือสินค้ากลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย เป็นกลุ่มสินค้าหนึ่งที่รวมอยู่ในลิสต์สินค้า 231 รายการที่สหรัฐฯ เพิ่งตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) จากไทยไปเมื่อ 30 ตุลาคม 2563 เนื่องจากการเจรจาเปิดตลาดนำเข้าหมูมายังประเทศไทยไม่คืบหน้า เท่ากับว่าแต้มต่อภาษีจะหายไป สินค้ากลุ่มนี้จะต้องกลับไปสู่อัตราภาษีปกติ 

ดังนั้นแนวทางปรับตัวที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ต้องเร่งหันมาพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับยายนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของไบเดน ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดสินค้ายานยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาสินค้าแบตเตอรี่รถยนต์ยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น แต่สินค้ายังค่อนข้างมีข้อจำกัดเรื่องอายุการใช้งานสั้น ในส่วนของภาครัฐก็ควรมุ่งส่งเสริมภาคเอกชในการปรับตัว เพื่อเยียวยาผลกระทบจากจีเอสพี และเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในอนาคต 


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อ Bualuang Green<<  


โอกาสการลงทุนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ออสเตรเลียพัฒนา "พลังงานแห่งอนาคต" รองรับยานยนต์สมัยใหม่



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

เทรนด์การรับประทานอาหารแบบเนื้อไร้เนื้อ ยังคงเป็นแนวโน้มการบริโภคที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  จากกระแสการหันมาดูแลสุขภาพ…
pin
7733 | 17/01/2023
ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ขณะนี้ โลกของเราได้เข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy : DE) ซึ่งหลอมรวมเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คน ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลได้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย…
pin
2483 | 21/12/2022
โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

อีกหนึ่งโอกาสเกษตรกรไทย! คาดการณ์ความต้องการมันสำปะหลังช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดทั้งปีไทยส่งออกกว่า 11 ล้านตัน…
pin
5708 | 23/10/2022
สหรัฐฯ ยุครุ่งเรืองด้านสิ่งแวดล้อม : โอกาสขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้า