การทำงานที่บ้านเป็นอีกหนึ่งมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
(social distancing) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19
เนื่องจากเป็นการจำกัดการติดต่อและการสัมผัสระหว่างคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
งดการเดินทาง งดกิจกรรมพบปะ ซึ่งช่วยลดอัตราการแพร่เชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงนำไปสู่รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป
ด้วยวิถีใหม่ รูปแบบการทำงานใหม่ ชีวิตสะดวกแต่ทำสุขภาพไม่สบาย กับพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ เป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น การอยู่กับหน้าจอคอมนานๆ อยู่แต่ในอิริยาบถเดิมๆ จนละเลยการดูแลสุขภาพ รวมไปถึงการเผชิญกับความเครียดเนื่องจากรายได้ที่ขาดหายไปในช่วงการแพร่ระบาด ขณะยังต้องรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่มากขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพภายในโดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามก็หลีกเลี่ยงไม่ได้กับปัญหาสุขภาพที่ตามมาหลังจากปรับวิธีการทำงานสู่รูปแบบ work from home
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
พญ.พรนภา ปวีณดำรง และศูนย์วิจัย RDI มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่าความเครียดส่งผลกระทบต่อตับ คือทำให้เลือดไปเลี้ยงตับได้น้อยลงและขาดอ๊อกซิเจนในระดับเซลล์ตับ
ก่อเกิดอนุมูลอิสระเป็นพิษทำลายเซลล์ตับ อาจทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น 4-7 เท่า
นอกจากนี้ความเครียดยังเพิ่มการรั่วซึมของสารพิษ
และสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารไหลเวียนเข้าสู่กระแสเลือด
ตับจึงต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดสารพิษ รวมถึงเกิดการหลั่งฮอร์โมนความเครียดมากเกินไป
ทำให้กดภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้เซลล์ตับอักเสบ
จากการสำรวจค่าตับของอาสาสมัครทั้ง 25
คน พบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น หลังจากทำงานที่บ้าน 4 สัปดาห์ ซึ่งค่าของ SGOT และ SGPT เป็นเอนไซม์ที่ใช้ช่วยตรวจวินิจฉัยภาวะโรคตับ
หากตรวจพบว่ามีค่าสูงกว่าปกติ อาจบ่งชี้สภาวะความเสียหายของตับ
ศูนย์วิจัย RDI จึงขอเสนอ 4 วิธีลดความเครียดขณะ Work From
home ได้แก่
- การทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ปลูกต้นไม้
คุยระบายปัญหากับเพื่อน พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- การฝึกสมาธิ คือ การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ เช่น ทำความสะอาดบ้าน จัดบ้าน
แต่งบ้าน วาดภาพ และทำงานศิลปะ เป็นต้น
- การเพิ่มทักษะให้ตัวเอง เช่น ฝึกทำอาหาร ฝึกสกิลแต่งหน้า เขียนนิยาย เป็นยูทูปเบอร์
เรียนออนไลน์ มี Weblog ของตัวเอง
ฝึกถ่ายรูป หรือแม้กระทั่งขายของออนไลน์เป็นต้น
- กิจกรรมพัฒนากิจวัตรประจำวัน ส่วนนี้จะทำให้เราจัดระเบียบชีวิตให้ไปในทางที่ดีขึ้น เช่น
นอนเร็วตื่นเช้า มีการวางแผนใช้เงิน ตั้งเป้าหมายอ่านหนังสือที่ชอบ
และเขียนบันทึกชีวิตประจำวัน
ฉะนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเครียดแล้ว ก็ควรหาเวลาผ่อนคลาย โดยการนำวิธีต่างๆ ที่แนะนำไปเลือกปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม หากรู้จักวิธีจัดการความเครียดแล้วจะช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเอง มีสุขภาพทั้งกายและจิตที่ดีได้