งานทำงานรวมกับคนจะมาก-น้อย ก็มีให้เกิดความขัดใจกันทั้งในทางตรง และทางอ้อม ยิ่งถ้ามีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แสดงความเป็นขั้วตรงข้ามกันชัดเจน ทั้งแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าราวอยู่ยุคสามก๊กแล้วละก็ สนุกละงานนี้ บรรยากาศในออฟฟิศก็เหมือนสมรภูมิรบย่อมๆ ถ้าวันหนึ่งออฟฟิศของคุณเป็นแบบนั้น เราอยากแนะนำว่ามันยังมีข้อดีนะ เฉพาะในมุมของนายจ้าง มีอะไรดีบ้างมาดูกัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
น้ำใส ไม่มีปลา
สำนวนจีนนี้ใช้ได้ทุกยุคสมัย โบราณว่าน้ำใส
จะไร้มิตร(เปรียบดังปลา) น้ำขุ่นๆอาจแวดล้อมไปด้วยหมู่มิตรที่แสวงหาประโยชน์ ในหลักการปกครองนั้นกลับมองว่าเป็นเรื่องดี
เพราะตามทฤษฎี ‘น้ำใส
ไม่มีปลา’
หมายความว่าอาจทุกคนร่วมแรงร่วมใจ รักสามัคคีกัน บางครั้งก็ปกป้อง ปกปิดความผิดกันเอง
ภาพที่เจ้านายเห็น(ต่อหน้า)ก็เหมือนน้ำใส่ไม่มีความผิดปกติใดๆ
แต่ถ้าหากน้ำให้ขุ่น มีการแบ่งแยก แบ่งฝ่าย ปลาเล็กปลาน้อยต่างแสดงพฤติกรรมทั่วไปอย่างไม่กลัวใครพบเห็น
อาจทำอะไรหลายอย่างโดยคิดว่าไม่มีใครรู้ ทีนี้แหละจับจับได้ทั้งปลาใหญ่ปลาเล็ก
ซึ่งอาจทำให้คุณเห็นภาพที่เป็นจริงภายในออฟฟิศ หรือลูกน้องของชัดเจนขึ้น นี่ไม่ใช่การจงใจจับผิด
แต่บางครั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ภายในที่ลูกน้องปกปิดก็อาจเป็นเรื่องใหญ่
ดังนั้นรู้ไว้บ้างก็ดี
แบ่งแยก และปกครอง
การที่คุณมีลูกน้องในที่ทำงานที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
มุ่งโจมตีซึ่งกันและกันกลับมีมุมที่ดี คือการมีลูกน้องแต่ละคนคอยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูว่าภายในออฟฟิศเกิดอะไรขึ้นบ้าง
มีคนก่อปัญหาอะไรหรือไม่ และแน่นอนว่าในการที่มีการแบ่งฝ่ายกันภายใน ย่อมมี ‘ผลัดกันฟ้อง’สำคัญ
คือฟังต้องรับฟังแต่อย่าอคติ และรีบตัดสิน
มองให้ออกว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อองค์กรหรือไม่ หรือร้ายแรงแต่ไหน
ชั่งน้ำหนักดูและให้ความเสมอภาคและยุติธรรม ควบคุมทุกอย่างได้ก็พอ
และเมื่อจะตัดสินใจให้รางวัล
หรือลงโทษใครต้องยึดกฎระเบียบของบริษัท และกฎหมายแรงงานฉบับปัจจุบันเป็นที่ตั้ง
นอกจากนี้ต้องวางตัวเป็นกลาง มีความยุติธรรม
โดยไม่ควรทำให้พนักงานรู้สึกว่าเราลำเอียง ไม่ใช้อารมณ์นำการตัดสินใจ
ที่สำคัญอย่างหลงคำเยินยอ เพราะ
“ปราศจากการตักเตือนชี้นำห้ามปรามกัน การปูนบำเหน็จลงอาญาย่อมบิดเบี้ยว
ไพร่พลจะขาดความเชื่อมั่นศรัทธา ปราชญ์ผู้ทรงสติปัญญาหลบเร้น
พวกด้อยปัญญาแต่ประจบสอพลอ จะได้เป็นใหญ่เป็นโต
เช่นนี้รบเมื่อใดก็แตกพ่ายเมื่อนั้น” ขงเบ้งฉบับหลอก้วนจงกล่าวไว้
ไม่รักไม่เป็นไร ทำตามที่สั่งก็พอ
เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ลูกน้องในออฟฟิศรักคุณทุกคน
ในเมื่อเราเริ่มจากการเป็นหัวหน้า หรือเจ้านายสายดาร์ก
ก็เป็นไปได้น้อยมากที่ลูกน้องทุกคนจะจงรักภักดีหรือให้ความเคารพคุณทั้งต่อหน้าและลับหลัง
แต่ไม่เป็นไร ไม่รักไม่ว่าขอแค่ทำตามที่สั่งอย่าให้เกิดข้อผิดพลาดก็พอ
หลายคนอาจมองว่าปฏิบัติแบบนี้อาจไม่เวิร์ค ทำได้ยาก และลูกน้องอาจทำงานเช้าชาม
เย็นชามพอ หวานเย็นทำตามนายสั่งไปวันๆ ก็จริงถ้าไม่หนักแน่พอ
วิธีคือ
การจัดระบบคำสั่งจากบนลงล่างอย่างมีแบบแผน มีแผนการทำงาน ความรับผิดชอบ หน้าที่
ใครทำอะไร อย่างชัดเจน ติดตามผลเป็นรายสัปดาห์ วัดผลกันเป็นรายเดือน
รายงานประสิทธิภาพการทำงานต้องวางที่โต๊ะอย่าให้ขาด นี่คือการเร่ง Productivity ในการทำงาน
ใครเป็นจุดแข็ง จุดอ่อน จะทราบกันโดยทันที ขึ้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง ตามผลงาน
ส่วนคนที่ทำงานด้อยประสิทธิภาพ ก็อย่าใจอ่อน รีบให้ชี้แจงและหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข และอย่างที่บอก เจ้านายแบบนี้ลูกน้องไม่ชอบ แต่ช่างเถอะ ผลลัพธ์ตรงตามเป้าหมายก็พอ หัวใจการทำธุรกิจความมั่นคงและกำไรคือเป้าหมาย เราจ่ายรอยยิ้มอันสดใสให้เป็นเดือนเดือนหรือโบนัสแก่พนักงานไม่ได้ ดังนั้นเชื่อว่าทุกคนเข้าใจ แม้จากไปก็ยังนับถือกันในงาน ในความสามารถมากกว่าการเป็นเจ้านายที่ยิ้มเก่ง
ที่สำคัญเรื่องคนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนเป็นเจ้าของกิจการ หรือหัวหน้าต้องมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง ไม่ใช่คนหัวร้อนง่าย หรือใจอ่อน คำแนะนำในข้างต้นอาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกองค์กร ลองหาจุดที่เหมาะสม และปรับใช้ให้เหมาะสม และบางครั้งทีมเวิร์ค ไม่ได้หมายถึงคนที่รักสามัคคีกัน แต่หมายถึงคนที่พยายาม ทุ่มเทเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
สานสัมพันธ์ สร้างพันธมิตรธุรกิจ
โอกาสทองสร้างทีม “ทริปท่องเที่ยวประจำปี”