หากพูดถึงตลาดเครื่องสำอาง
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้มีการเติบโตและมีการแข่งขันสูงติดอันดับต้นๆ ฉะนั้นการจะทำแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
แต่สำหรับ “ศรีจันทร์” ที่มีประวัติมายาวนานถึง 70 ปีก็สร้างความฮือฮา ด้วยการ Rebranding ปรับโฉมและภาพลักษณ์ใหม่
เหนือสิ่งใดเมื่อ Rebranding แล้วนอกจากจะได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคแล้วยังทำให้ผลิตภัณฑ์ยืนอยู่แถวหน้าเคียงคู่ผลิตภัณฑ์ชั้นนำจากต่างประเทศได้อย่างไม่เคอะเขินแล้วยังส่งผลสะเทือนให้ยอดขายพุ่งกระฉูดชนิดที่ฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ศึกษาตลาด ก่อน Rebranding
หากย้อนอดีต “ผลิตภัณฑ์ศรีจันทร์” ตอนนั้นมีเพียง
‘ผงหอมศรีจันทร์’ ที่เป็นสินค้าหลักและสินค้าเดียว แถมระบบการจัดการที่เกือบเรียกว่าใช้ระบบทำมือทั้งหมด
ตั้งแต่การผลิตสินค้า การสั่งสินค้าจนถึงส่งออกยังเป็นรูปแบบเดิมๆ ขณะที่โลกภายนอกเริ่มมีการจัดการธุรกิจสมัยใหม่
แต่ธุรกิจของศรีจันทร์ในยุคนั้น ยังขายเฉพาะร้านเล็กๆ ลูกค้าก็อยู่ในวงแคบๆคนส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก
ลูกค้าหลักกลับอยู่ที่ภาคใต้ เนื่องจากผงหอมศรีจันทร์เป็นแป้งที่ผสมน้ำ ทาตัว
ทาหน้า เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของภาคใต้
ต่อมาจึงเริ่มขยายฐานลูกค้าด้วยการเปลี่ยนแพ็กเกจสินค้า
เริ่มมีโฆษณาทางวิทยุ และนิตยสาร แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จกระทั่งมีการ Rebranding ครั้งใหญ่เมื่อ 3-4 ปีก่อน นั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเพราะเท่ากับการเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์
และวิธีคิดเกี่ยวกับแบรนด์ใหม่ทั้งหมด ทำให้ศรีจันทร์เริ่มก้าวเข้าสู่รูปแบบการขายทันสมัย
มีพื้นที่ขายใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางโมเดิร์นเทรด
หรือพื้นที่ขายที่ไม่เคยขายมาก่อน อย่างบนเครื่องบินในดิวตี้ฟรี หรือกับลูกค้าต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามกว่าจะประสบความสำเร็จได้
ต้องบอกว่าเครือศรีจันทร์ต้องทุ่มเทสรรพกำลังและเวลาในการลงไปทำวิจัยกับลูกค้า ไปพูดคุยไปสอบถามลูกค้าหลายสิบราย
ว่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ศรีจันทร์และเรื่องความงามอย่างไร สอบถามแม้กระทั่งลูกค้าใช้ชีวิตยังไง
อยู่ในสภาวะแวดล้อมแบบไหน
ในที่สุดก็หาจนเจอคำตอบว่าลูกค้าอยากจะเห็นอะไรในแบรนด์ศรีจันทร์
คำตอบที่ได้ทั้งหมดกลายมาเป็นแก่นในการทำงาน นอกจากนี้สิ่งทีได้รับในระหว่างการสำรวจคือได้เรียนรู้
สภาพตลาด สภาพความคิด ความต้องการของลูกค้า
ที่สำคัญที่สุดได้เรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าชัดขึ้น แต่ก่อนจะใช้วิธีคาดการณ์เมื่อรู้ข้อมูลในเชิงลึกยิ่งทำให้เข้าใจถึงแง่มุมที่ลูกค้าต้องการ สามารถผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
พัฒนาคุณภาพสินค้าให้ตลาดยอมรับ
ในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเครือศรีจันทร์นั้น
จะเป็นการค่อยๆ ขยับขยายไปทีละนิดทีละหน่อย แต่สิ่งสำคัญที่สุดและถือเป็นไฉไลต์ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ
ผู้บริหารและพนักงาน ได้ใส่ใจทุกรายละเอียด โดยเฉพาะคุณภาพของสินค้าที่จะต้องมาก่อนในทุกสิ่ง
ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เครื่องสำอางศรีจันทร์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น
เหนือสิ่งใดบทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่าการจะทำอะไรก็ตามต้องเริ่มต้นทำสิ่งที่ถนัดก่อน
สำหรับเครือศรีจันทร์คือ เริ่มจากพวกแป้งทั้งหลาย แล้วขยับไปทำผลิตภัณฑ์อื่นๆที่มีขั้นตอนมาขึ้น
อาทิ พวกรองพื้น และกันแดด ซึ่งมันก็อยู่ในหมวดเดียวกับแป้ง ต่อไปก็จะค่อยๆ
ทำกลุ่มอื่นๆที่ซับซ้อนขึ้น เช่น พวกคัลเลอร์ หรือ สกินแคร์ เป็นต้น
ปรัชญาในการทำงานของเครือศรีจันทร์ คือต้องตั้งใจทำของให้มันดีสุดๆ คือคุณภาพต้องมาก่อนส่วนเรื่องทุนไว้ทีหลัง เพราะการที่มีของคุณภาพดีมากๆ ลูกค้าจะบอกต่อเอง ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดในการทำการตลาดในยุคนี้ คือการที่ลูกค้าใช้แล้วบอกต่อ
เปิดตลาดต่างประเทศ
จากการเริ่มเป็นที่ยอมรับในประเทศแล้ว
เครือศรีจันทร์ก็เริ่มมองการณ์ไกลไปเปิดตลาดต่างประเทศ
เพื่อเป็นรากฐานให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก นับเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งและเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของเครือศรีจันทร์กับขวบวัยที่
70 ที่พร้อมเข้าสู่โลกอันกว้างใหญ่
ส่วนประเทศที่เครือศรีจันทร์จะไปบุกไปเปิดตลาดนั้น
ได้วางกลยุทธ์ว่าจะต้องรู้จักและชอบสินค้าจากเมืองไทย ถ้าไม่รู้จักประเทศไทยเลยก็ไม่ควรที่จะไป
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เศรษฐกิจกำลังโต ถ้าเป็นในลักษณะนี้ธุรกิจกลุ่มสุขภาพและความงาม
มักจะโตตามค่อนข้างเร็ว
สำคัญที่สุดพาร์ตเนอร์ของเราที่อยู่ในท้องถิ่น
ต้องรู้จักผลิตภัณฑ์ ต้องเข้าใจตลาดจริงๆ ดังนั้นการได้พาร์ตเนอร์ดี จึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
สำคัญกว่าผลิตภัณฑ์เสียอีก อย่างตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่เครือศรีจันทร์เน้นมากๆ
ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี
อาจจะกล่าวได้ว่าเครือศรีจันทร์ได้ขยายธุรกิจและออกสินค้าค่อนข้างมาก
นับว่าเป็นบริษัทที่เปลี่ยนตัวเองแบบ360
องศา ท่ามกลางคลื่นกระแสธุรกิจเครื่องสำอาง
และสุขภาพและความงามที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “ศรีจันทร์”จึง
ได้รับการกล่าวถึงมาก และกำลังบึ่งหน้าสู่ตลาดสากล
ซึ่งนับว่าเป็นก้าวย่างสำคัญบนเส้นทางที่มีมากว่า 70 ปี
ภาพ facebook Srichand ศรีจันทร์
"Biotic Coffee" นวัตกรรมกาแฟขี้ชะมด
เคล็ดลับความสำเร็จ “บ้านไร่ไออรุณ”