‘ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด’ Expert ด้านแพ็กกิ้งที่แบรนด์ระดับโลกเชื่อมั่น

SME in Focus
08/09/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 1829 คน
‘ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด’ Expert ด้านแพ็กกิ้งที่แบรนด์ระดับโลกเชื่อมั่น
banner
พฤติกรรมของผู้ประกอบการและ SME ส่วนใหญ่จะปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อถูกกำหนดให้เปลี่ยน หรืออาจกล่าวได้ว่าถูกกฎเกณฑ์บังคับให้ ‘จำเป็น’ ต้องเปลี่ยนตามสถานการณ์ สิ่งเหล่านี้คือสัญชาตญาณการอยู่รอดของธุรกิจ บางรายรู้ช้าจนบางขณะก็ปรับตัวไม่ทัน ขณะที่บางรายศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ และเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว หรือปรับตัวก่อนที่ความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

ด้วยเหตุนี้ ในขณะที่ธุรกิจ SME ส่วนใหญ่กำลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจากผลกระทบของความเปลี่ยนแปลง ในทางกลับกันธุรกิจที่เตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลากลับได้รับสิ่งที่เรียกว่า ‘โอกาส’

ดังกรณีศึกษาของบริษัท ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากไม้ และกระดาษ ธุรกิจครอบครัว (Family Business) ที่ก่อตั้งราวปี 2538 โดยคุณสาคร เจริญสันติสุข ที่ผันตัวจากธุรกิจรถเช่าในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรมการลงทุนต่างชาติ

โดยมีโรงงานผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลกมากมายเข้ามาลงทุนใช้เป็นฐานการผลิต ช่วงนั้นได้ทราบข้อมูลจาก Connection ของน้องชายที่ทำงานอยู่ในบริษัทญี่ปุ่นว่ากำลังหาซัพพลายเออร์ด้านบรรจุภัณฑ์ไม้ (แพ็กกิ้งไม้) ประกอบกับคุณสาครมีความรู้ด้านช่างก็คิดว่าน่าจะพอรับงานนี้ได้

ช่วงแรกเริ่มเลยไปประมูลเศษไม้เก่าจากโรงงานมาไสผิวให้เรียบแล้วตีลังประกอบขึ้นแบบง่ายๆ ตามออร์เออร์ของโรงงานผู้ว่าจ้าง พัฒนารายได้จากหลักหมื่นบาทต่อเดือนเป็นหลักแสนบาทช่วงต่อมา ไม่ได้มีการลงทุนเพิ่มมากนักใช้เครื่องมือขนาดเล็กเพียงไม่กี่ชิ้น ใช้แรงงานภายในครอบครัวและลูกจ้างไม่กี่ราย

ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรซับซ้อนคือรับแฟกซ์ออร์เดอร์จากลูกค้านำมากางดู ผลิต ส่งมอบสินค้าและวางบิล ก็ทำมาเรื่อยๆ จนกระทั่งผลัดเปลี่ยนมาสู่การเข้ามาดำเนินการอย่างเต็มตัวของทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 ในช่วงปี 2544



รับไม้ต่องานของคุณพ่อ 

คุณชลิสร์ เจริญสันติสุข กรรมการ บริษัท ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด จำกัด บอกว่า เขาคุ้นเคยกับงานของครอบครัวตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ที่พอจะเริ่มช่วยงานที่บ้านได้ ตั้งแต่การเปิด PO (ใบสั่งซื่อ) วางบิล ตลอดจนงานอื่นๆ ที่คนในครอบครัวช่วยกันทำ สมัยนั้นยังมีลูกจ้างไม่กี่คน ภายหลังเรียนจบด้านวิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering : IE) เดิมมีแผนไปเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา

แต่เนื่องจากช่วงนั้นเกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ครอบครัวกังวลเรื่องความปลอดภัย เลยปรับมาแผนสองคือช่วยพัฒนาธุรกิจแพ็กกิ้งไม้ที่เป็นธุรกิจครอบครัว (Family Business) สานต่องานของคุณพ่อที่มองว่าอยู่ยังในช่วงเริ่มต้นเป็นพาร์ทเล็กๆ ที่ซัพพลายบรรจุภัณฑ์จากไม้ให้กับโรงงานผู้ผลิต

เขามองว่าการปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นระบบจะทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัวขึ้น เลยนำความรู้ด้านวิศวกรรมอุตสาหการเข้ามาประยุกต์ใช้ รวมถึงการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมาช่วยในการจัดวางระบบ EDI (Electronic Data Interchange) ของบริษัทเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนเอกสารทางธุรกิจด้วยระบบคอมพิวเตอร์กับลูกค้า อาทิ ใบสั่งซื้อสินค้า ในวางบิล ใบส่งของ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

จากระบบเดิมคือรับแฟกซ์จากลูกค้าก็เปลี่ยนเป็นการรับส่งอีเมลรวมถึงข้อมูลคำสั่งซื้อต่างๆ จะมีการบันทึกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท และเพิ่มคนงานเพื่อให้สามารถผลิตได้มากขึ้น เร็วขึ้น สามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตรงเวลา ประกอบกับการพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังนำระบบ ISO 9001 เข้ามาสร้างมาตรฐานและเป็นจุดริเริ่มของการสร้างมาตรฐานที่สูงขึ้นอีกในเวลาต่อมา 


คุณชลิสร์ เจริญสันติสุข กรรมการ บริษัท ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด จำกัด

“ผลลัพธ์ในช่วงแรกคือ ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด จากการเป็นซัพพลายเออร์ที่อยู่ในลำดับท้ายๆ ของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ไม้และกระดาษ ก็ขยับมาเป็นซัพพลายเออร์ลำดับที่ 1 ผลิตสินค้าเพื่อจัดส่งให้โรงงานผู้ผลิตหรือผู้ว่าจ้างโดยตรง จากที่แต่ก่อนธุรกิจยังเป็นเพียงผู้รับเหมาช่วงเท่านั้น”



ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ

คุณชลิสร์ เล่าว่า การก้าวกระโดดครั้งสำคัญคือความไว้ใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มองเห็นพัฒนาการของธุรกิจเราที่ไม่หยุดนิ่งอยู่แค่การผลิตเพื่อส่ง แต่ยังมีการสร้างมาตรฐานและนำระบบการจัดการด้านคุณภาพเข้ามาพัฒนาการจัดการภายในบริษัทและการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ทั้งมีการให้ความรู้คนงานให้ตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานตามที่ ISO 9001 และหลังจากนั้นก็พัฒนาเรื่องมาตรฐาน ISO 14000 ซึ่งเป็นระบบการจัดการมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม

ด้านหนึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องของความโชคดีที่ ‘ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด’ มีโรงงานตั้งอยู่ใจกลางอำเภอศรีราชาทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องโลเคชัน ทั้งในด้านระยะทางการจัดส่งสินค้า รวมถึงการจัดการขนส่งและโลจิสติกส์ เนื่องจากหากเป็นธุรกิจรายอื่นจะต้องมียอดสั่งซื้อเป็นจำนวนมากเพื่อให้คุ้มกับต้นทุนการขนส่ง ขณะที่เขาสามารถผลิตตามออร์เดอร์ปริมาณน้อยๆได้

เนื่องจากระยะทางอยู่ใกล้ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งไม่สูงมากนัก ทั้งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในละแวกจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง ประกอบกับมีลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลกมากมายที่มีฐานการผลิตอยู่บริเวณอำเภอศรีราชา ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2544 ยอดขายแพ็กกิ้งไม้และกระดาษเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งที่ขณะนั้นทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ

“ยอดขายจากสมัยคุณพ่อประมาณปีละ 1-5 ล้านบาท แต่พอปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่ (Business Transformation) มีการนำระบบคุณภาพมาพัฒนาและปรับใช้ ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งลูกค้าเห็นว่าเราพัฒนา สินค้ามีคุณภาพ และส่งมอบตรงเวลาจึงมีออร์เดอร์เพิ่มปริมาณมากขึ้น ทำให้ภายใน 3-4 ปี สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 50-60 ล้านบาทต่อปี”



ระบบคุณภาพมาช่วยอย่างไรบ้าง

คุณชลิสร์ ขยายความเรื่องการนำระบบคุณภาพที่เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาธุรกิจของศรีราชา แพคกิ้ง วู้ดว่า นอกจากการนำระบบ EDI มาจัดการด้านเอกสารให้เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับลูกค้าเพื่อให้การการทำงานตามออเดอร์ของลูกค้าทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

โดยขอให้ลูกค้าส่งออเดอร์มาทางอีเมลแล้วก็นำข้อมูลออเดอร์ดังกล่าวเข้าระบบคอมพิวเตอร์ก็ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนเลยว่าจะต้องวางแผนการผลิตเท่าไหร่ ปริมาณสต็อกวัตถุดิบในปัจจุบันมีเพียงพอหรือไม่ หรือจะต้องมีการจัดหาวัตถุดิบมาเพิ่มหรือไม่ และวางแผนการจัดส่งเมื่อไร และสามารถจัดส่งได้ตรงตามเวลาที่ลูกค้ากำหนดได้หรือไม่

ขณะเดียวกันงานที่จัดส่งให้ลูกค้าจะต้องมีคุณภาพด้วย จึงต้องเน้นทั้งด้านคุณภาพและการจัดส่งที่ตรงเวลา ก็กลายเป็นว่าสามารถสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว ซึ่งบางขณะลูกค้ามีการเปลี่ยนแผนมีคำสั่งซื้อเข้ามาแบบด่วนๆ ก็สามารถรับออเดอร์มาผลิตและจัดส่งให้ได้ตลอด จึงเกิดเป็นความไว้วางใจ และเชื่อมั่น นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ลูกค้าเพิ่มออเดอร์ขึ้นเรื่อยๆ 

“ต้องยอมรับว่าบางครั้งเราก็ผลิตเต็มความสามารถที่โรงงานจะรับได้แล้ว แต่คุณพ่อก็ตอบรับออเดอร์ลูกค้าตลอด ประมาณว่าสั่งมาเหอะเดี๋ยวทำให้ได้ เพราะนโยบายของคุณพ่อคือไม่ปฏิเสธลูกค้า จนลูกค้าตั้งฉายาให้คุณพ่อว่าเป็น Mr.YES สั่งอะไรมาก็ YES! YES! YES! ไว้ก่อน (ฮ่าๆ) แล้วเดี๋ยวค่อยมาดูกันภายในว่าจะสามารถปรับปรุงหรือวางแผนทำงานอย่างไรเพื่อให้สามารถผลิตได้ทันเวลาและรักษาคุณภาพได้” 



รู้เทรนด์โลกพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง

คุณชลิสร์  กล่าวว่า ก่อนหน้าที่เขาทำเรื่องระบบมาตรฐานและพัฒนาคุณภาพการผลิต ลูกค้ายังไม่ได้ร้องขอหรือมีความต้องการว่าจะต้องทำ แต่ว่าเขาก็พยายามส่งเสริมให้ทำ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น เขาก็มองเราเป็นพาร์ทเนอร์ และหากเขาโต เราก็โตด้วย ดังนั้นเราจะหยุดนิ่งไม่ได้ จะต้องพยามยามพัฒนาปรับปรุงตัวให้เติบโตไปพร้อมกับลูกค้าให้ได้

นอกจากมีการทำเรื่องมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO 14001 ด้วยการที่ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด อยู่ในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ที่จะมีข้อกำหนดต่างๆ เช่น ข้อกฎหมายระหว่างประเทศ ระเบียบด้านการส่งออก ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบต่างๆ ของแต่ละประเทศที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นธุรกิจจะต้องมีการเตรียมพร้อม มีการศึกษาเทรนด์การค้าระหว่างประเทศว่าตอนนี้เป็นอย่างไร กฎระเบียบการค้าในยุโรป สหรัฐอเมริกาเป็นอย่างไร เช่น มาตรฐาน IPPC ที่ได้กำหนดให้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากไม้ ต้องผ่านวิธีการกำจัดศัตรูพืช เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของศัตรูพืชที่อาจติดมากับไม้ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการขนส่งระหว่างประเทศ

ซึ่งอาจนำผลกระทบมาสู่ประเทศปลายทางได้ หรือเรื่องของมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสารละลาย Formaldehyde ที่จะมาเป็นข้อกำหนดในการกีดกันทางการค้ากลายๆ แต่ไม่ได้ถึงกับบังคับเข้มงวดมากนัก รวมทั้งมาตรฐาน RoHS (Restriction of Hazardous Substances) เป็นข้อกำหนดของยุโรป ว่าด้วยเรื่องของการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะต้องผ่านตามข้อกำหนด

เขามองว่าในอนาคตกฎระเบียบการค้าต่อไปจะต้องมีเรื่องเหล่านี้แน่ๆ จึงรีบทำก่อนจนได้รับการรับรองมาตรฐานก่อนที่ลูกค้าจะร้องขอให้ทำ ซึ่งลูกค้าพอได้รับข้อมูลมาจากฝ่ายส่งออก เช่น ทางตลาดใน EU กำหนดมาตรฐานใหม่ไว้แบบนี้ พอมีความต้องการของลูกค้ามา เราก็มีทำมาตรฐานดังกล่าวไว้รองรับอยู่แล้ว หรืออย่างเรื่องมาตรฐานการจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน (FSC TM)

บางครั้งลูกค้ายังไม่ได้รับข้อมูลจากทางลูกค้า EU เลย แต่ทางเราได้ติดตามเทรนด์ของโลก และได้ทำมาตรฐานดังกล่าวเตรียมไว้ เพื่อรองรับกฎระเบียบดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ FSC TM  จากเราได้เลย โดยไม่ต้องรอเพราะกว่าจะได้รับการรับรองมาตรฐาน ต้องใช้เวลาเตรียมการพอสมควร



Expert ด้านแพ็กกิ้งที่ลูกค้าเชื่อมั่น

คุณชลิสร์ บอกอีกว่า บางครั้งลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายหรือส่งออกอาจยังไม่ทราบถึงกฎระเบียบด้านบรรจุภัณฑ์เหล่านี้มากนัก จะรู้ก็ต่อเมื่อลูกค้าในต่างประเทศแจ้งมา ตอนหลัง ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด จึงเป็นฝ่ายไปบอกลูกค้าเองว่าต่อไปจะต้องทำเรื่องนี้ ทำมาตรฐานนี้ ไม่อย่างนั้นอาจมีปัญหาได้ลูกค้าก็ยิ่งเกิดความเชื่อมั่น

และการที่เรามีความเชี่ยวชาญในด้านการทำบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนข้อกำหนด กฎระเบียบการค้าและมาตรฐานต่างๆ จึงทำให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมากยิ่งขึ้น ถึงขนาดว่าพอลูกค้าต้องการจะออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ อาจจะต้องมาพูดคุยหรือปรึกษากับทางเราด้วยเพื่อที่จะได้เป็นการพัฒนาหรือแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้ด้วย

ในขณะเดียวกันก็มีลูกค้ารายขนาดเล็กที่มาปรึกษาหรือขอคำแนะนำในด้านบรรจุภัณฑ์ ทั้งในเรื่องการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุน การเลือกใช้วัตถุดิบของบรรจุภัณฑ์ ใช้ไม้แบบไหน ความหนาเท่าไรจึงจะเหมาะสมสำหรับการใช้งานของลูกกค้า ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราภาคภูมิใจว่าได้มีการพัฒนาร่วมกันกับลูกค้าในทุกกลุ่มของอุตสาหกรรม

โดยใช้ความเชี่ยวชาญและมาตรฐานที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตควบคู่ไปกับลูกค้า ไม่เพียงแค่การผลิตตามออเดอร์และจัดส่งเพียงอย่างเดียว ทำให้เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของลูกค้าได้ และยังสามารถดำเนินการเพื่อช่วยลดต้นทุนสินค้าให้ลูกค้าได้ด้วย 



ป้องกันสินค้าเสียหายจากผู้ผลิตจนถึงมือผู้บริโภค

ปัจจุบัน ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแพ็กกิ้งอยู่ 3 ประเภท คือ 

1. บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากไม้ ลักษณะการตีลังขึ้นโครงเป็นพาเลทลังไม้ที่ใช้บรรจุสินค้าหรือป้องกันสินค้าเสียหายของสินค้า และสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก 

2. บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษ 

3. สินค้านคอนเนอร์ (ฉากกระดาษเข้ามุมที่ใช้สำหรับกันกระแทกหรือสินค้าที่สามารถวางซ้อนกันได้และเสริมความแข็งแรงให้กับบรรจุภัณฑ์) ซึ่งเป็นอีกโรงงานหนึ่งที่เราต่อยอดมาจากบรรจุภัณฑ์กระดาษ ทำให้ปัจจุบันเรามีโรงงานที่ผลิตภัณฑ์จุภัณฑ์แบบต่างๆ อยู่จำนวน 6 โรงงาน มียอดขายเฉลี่ยประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี 
 
ทั้งมีการพัฒนาร่วมกันกับลูกค้าเพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับสินค้าแต่ละประเภท เช่น บรรจุภัณฑ์สำหรับตู้เย็นหรือแอร์ อาจมีการใช้พาเลทไม้ด้านล่างเพื่อรองรับน้ำหนัก หุ้มด้วยกล่องกระดาษ เสริมความมั่นคงแข็งแรงด้วยคอนเนอร์และโฟมเพื่อปกป้องสินค้าไม่ให้เกิดความเสียหายซึ่งค่อนข้างครบวงจรในการแพ็กกิ้งให้กับลูกค้าและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้า ทำให้การจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค (End User) ไม่เกิดความเสียหาย และสามารถจัดส่งสินค้าบรรจุภัณฑ์ให้แบบ Just in time ซึ่งช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุนในการสต็อกสินค้าได้ด้วย 



เทคโนโลยีในการผลิต 

จากยุคแรกที่ซื้อเศษไม้มาตีลังหรือทำเป็นพาเลทมือ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อาศัยแรงงานงานคนและเครื่องมือขนาดเล็กเพียงไม่กี่ชิ้นในการทำ ปัจจุบันก็มีการนำเข้าไม้ใหม่จากต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงและลดต้นทุน รวมทั้งมีการนำเครื่องจักรในอุตสาหกรรมมาใช้งานมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดเป็นระบบ Automation ทั้งหมด

แต่เป็นลักษณะการเริ่มเอาระบบ Automation เข้ามาทดแทนแรงงานคนในบางส่วน (Semi-Automatic) โดยงานแพ็กกิ้งยังมีรายละเอียดบางอย่างที่ยังต้องใช้แรงงานคนในการดำเนินการ เช่น ไม้ธรรมชาติ ที่ซื้อมาบางส่วนอาจจะมีตาไม้ก็ยังจำเป็นที่จะต้องอาศัยความชำนาญของคนในการดำเนินการ ซึ่งระบบอัตโนมัติก็สามารถช่วยทุ่นแรงในบางส่วนและมีควาปลอดภัยมากขึ้น

คุณชลิสร์  มองว่าปัจจุบันธุรกิจได้พัฒนามาจากจุดเดิมอยู่มากพอสมควรโดยมีการผสานระหว่างคนและเครื่องจักรทำให้งานออกมามีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการ โดยในด้านเทคโนโลยีต่างๆ จึงควรที่จะปรับไปตามสถานการณ์และความเหมาะสมของงานแต่ละประเภท ความปลอดภัย และกำลังการผลิต รวมถึงการนำเทคโนโลยี QR Code เพื่อการตรวจสอบคุณภาพแพ็กกิ้งก่อนถึงมือลูกค้า

อย่างไรก็ตาม การใช้งานเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติแม้จะมีความจำเป็นในงานบางประเภท แต่เบื้องต้นยังจะต้องสร้างความเข้าใจให้แก่พนักงานผู้ปฏิบัติให้มีความรู้ ความเข้าใจรูปแบบงานที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีแต่ละประเภท และบ่อยครั้งอาจจะเกิดกระแสต่อต้านจากพนักงานที่เคยชินกันการทำงานในรูปแบบเดิม

วิธีการสร้างความเข้าใจที่ดีที่สุดคือการรับฟังความคิดเห็นและเข้าไปพูดคุยแบบเปิดใจ เพราะไม่ได้นำเครื่องจักรมาทดแทนคน เพียงแต่นำมาช่วยงานให้คนสามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย คือต้องเข้าไปเปลี่ยน Mindset ของพนักงานด้วย 

แผนขั้นต่อไป

อย่างที่บอกว่าพอมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ ก็ยังต้องดูเทรนด์ว่าต่อไปการค้าและกฎระเบียบทางการค้าต่างๆ จะมีการปรับปรุงหรือพัฒนาอย่างไร เช่น เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศจะมีทิศทางหรือมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร จะต้องทำอะไรเพิ่มหรือสร้างมาตรฐานการรับรองในด้านใดเพิ่มอีกบ้าง

แต่ประเด็นหลักที่เป็นความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ปีคือการลดต้นทุน (Cost Down) ให้กับลูกค้าอย่างไร ซึ่งลูกค้าจะต้องมีเป้าหมายในการผลิต และถ้าจะใช้วัสดุแบบเดิมจะสามารถลดต้นทุนอย่างไรให้ลูกค้าสามารถไปต่อได้ และมีผลกำไรที่น่าพึงพอใจ รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่อาจเพิ่มเข้ามา เช่น การนำวัสดุประเภทต่างๆ มารวมกันเพื่อพัฒนาแพ็กกิ้งในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 



แพ็กกิ้งไม้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

จากประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบัน ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด มีการกำหนดเป้าหมายเรื่องการปล่อยคาร์บอน รวมถึงกฎของการแยกประเภทของบรรจุภัณฑ์ อย่างที่เคยบอกว่า มีไม้ กระดาษ โฟม ปนอยู่ในแพ็กเก็จจิ้งเดียวกันโดยใช้กาวยึด ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป เริ่มมีกฎระเบียบว่าวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ส่งถึงผู้บริโภคจะต้องสามารถแยกประเภทของวัสดุได้

ซึ่งก็มีการปรับปรุงส่วนนี้โดยได้พัฒนาร่วมกับ Vendor ผู้ผลิตกาว ว่าขอกาวที่สามารถแกะออกได้ ก็มีการพัฒนาสูตรกาวขึ้นมาใหม่เพื่อให้แพ็กเก็จจิ้งไปถึงมือผู้บริโภคจะสามารถแกะออกได้ง่าย แต่ยังคงยึดยึดบรรจุภัณฑ์ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย

ประเด็นสิ่งแวดล้อมอีกเรื่อง คือ ระเบียบเรื่องการจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน (FSCTM) ผู้ผลิตจะต้องใช้ไม้จากป่าที่ปลูกเพื่อนำมาทำเป็นวัสดุแพ็กกิ้งเท่านั้น รวมถึงการตัดไม้มาใช้จะต้องมีการปลูกทดแทน ซึ่งศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด ก็มีมาตรฐานการรับรองภายใต้ข้อกำหนดของ FSCTM  อยู่แล้ว ไม้ที่เราใช้สามารถตรวจสอบได้ย้อนกลับได้ว่าไม่ได้ซื้อไม้เถื่อนหรือส่งเสริมการทำลายป่าไม้ และยังสามารถนำไปรีไซเคิลหรือทำเป็นอย่างอื่นได้ สิ่งเหล่านี้เราพยายามที่จะปรับตัวตามเทรนด์ให้ทันมาโดยตลอด 



ทั้งนี้ เห็นชัดว่าจากจุดเริ่มของ ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด ที่ทำพาเลทไม้ แพ็กกิ้งไม้ ต่อยอดไปสู่งานแพ็กกิ้งที่เป็นกระดาษ สินค้าคอร์นเนอร์ รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ร่วมกับผู้ผลิตซึ่งอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านการเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ครบวงจรและยังสามารถให้คำแนะนำสำหรับลูกค้าทั้งในด้านกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ และสามารถแนะนำให้ส่วนการเลือกใช้ประเภทของวัตถุดิบในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สามารถลดต้นทุนได้

สิ่งเหล่านี้เริ่มจากแนวคิดที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและก้าวทันเทรนด์ธุรกิจยุคใหม่ ทำให้มองเห็นโอกาส สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเป็นที่ไว้วางใจของผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ระดับโลก

ทำความรู้จักบริษัท ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด จำกัด เพิ่มเติมได้ที่ : 
http://www.spw.co.th/

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘LED Farm’ โรงงานผลิตพืชด้วยหลอดไฟ ฟาร์มผักพันธุ์ใหม่ เอาใจคนรักสุขภาพยุคดิจิทัล

‘LED Farm’ โรงงานผลิตพืชด้วยหลอดไฟ ฟาร์มผักพันธุ์ใหม่ เอาใจคนรักสุขภาพยุคดิจิทัล

จากธุรกิจผลิตหลอดไฟ LED ต่อยอดสู่การพัฒนาด้านการผลิตอาหารและนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรออร์แกนิก แบรนด์ ‘แอลอีดี ฟาร์ม’ (LED Farm) ที่มุ่งสร้างมาตรฐานสินค้าเกษตรคุณภาพ…
pin
339 | 25/04/2024
Transition สู่ Operation Excellence ความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการทำงาน สู่ความเป็นเลิศในธุรกิจแป้งทำอาหาร ‘แบรนด์ปลาแฟนซีคาร์ฟ’

Transition สู่ Operation Excellence ความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการทำงาน สู่ความเป็นเลิศในธุรกิจแป้งทำอาหาร ‘แบรนด์ปลาแฟนซีคาร์ฟ’

การทำโลกธุรกิจสำหรับ SME ยุคดิจิทัล ต้องมี ‘นวัตกรรม’ เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเติบโต และอยู่รอดท่ามกลางการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาสินค้า…
pin
362 | 22/04/2024
จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม (Telco) ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่ารูปแบบของการดำเนินงาน มีภาพรวมของรายละเอียดอย่างไร…
pin
996 | 17/04/2024
‘ศรีราชา แพคกิ้ง วู้ด’ Expert ด้านแพ็กกิ้งที่แบรนด์ระดับโลกเชื่อมั่น