อีคอมเมิร์ซแคนาดาเดือด ฟ้องร้อง Amazon ทุ่มตลาด

SME Go Inter
31/08/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 1749 คน
อีคอมเมิร์ซแคนาดาเดือด ฟ้องร้อง Amazon ทุ่มตลาด
banner

สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในแคนาดารุนแรงติดอันดับท็อป 20 ของโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1 แสนคน ด้วยเหตุนี้ประชาชนแคนาดาจึงต้องลดการเดินทางออกจากบ้าน และหันมาใช้บริการซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น

นาย Michael LeBlanc ที่ปรึกษาธุรกิจค้าปลีกจากหน่วยงาน Retails Council of Canada ให้ข้อมูลว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซในแคนาดาขยายตัว 8-10% สอดคล้องกับข้อมูลของของหน่วยงาน Statistic Canada ที่พบว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ชาวแคนาดาเพิ่มการจับจ่ายผ่านออนไลน์มากถึง 92,000 ล้านบาท เฉพาะในเดือนพฤษภาคม 2563 แค่เดือนเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจากผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการจะออกไปจับจ่ายใช้สอยด้วยตัวเอง เพราะไม่ต้องการสัมผัสสินค้า

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง รศ.ซาร่าห์ วิลเนอร์ นักวิชาการด้านการตลาดจาก Wilfrid Laurier University's Lazaridis School of Business and Economics มองว่าหลังจากผ่านพ้นช่วงโควิด 19 จะถือเป็นช่วงที่ธุรกิจค้าปลีกมีความท้าทายมาก จากภาวะที่ลูกค้าหันไปใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)

ด้วยเหตุนี้การแข่งขันในสมรภูมิค้าปลีกของแคนาดาจึงถือว่ารุนแรงไม่น้อย ทั้งผู้ค้าที่เป็นธุรกิจค้าปลีกโมเดิร์นเทรดอย่าง Walmart หรือธุรกิจค้าออนไลน์อย่าง Amazon ที่ต่างกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด

กระทั่งล่าสุดเกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้ประกอบการที่ซัพพลายสินค้าให้กับ Amazon โดยสำนักงานแข่งขันทางการค้าแคนาดา (Canada Competition Bureau) ได้ออกประกาศเปิดไต่สวน บริษัท Amazon Canada เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ว่ามีพฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาดในการกำหนดเงื่อนไขทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ (ข้อมูล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครโทรอนโต ประเทศแคนาดา)

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีซัพพลายเออร์บริษัทต่างๆ ร้องเรียนต่อสำนักงานแข่งขันฯ ว่า Amazon ใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่รวมถึงการแข่งขัน การตั้งราคาสินค้า หรือรูปแบบการบีบให้ซัพพลายเออร์ต้องทำตามนโยบายของอเมซอน เช่น เจ้าของสินค้าที่จะนำสินค้ามาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มนี้จะตั้งราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มนี้สูงกว่าราคาที่ตั้งไว้ในเว็บไซต์เจ้าของสินค้า เพื่อจะเอื้อให้ลูกค้าหันไปสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของเจ้าของสินค้าโดยตรง

หรือพฤติกรรมการบีบให้ผู้ขายสินค้าบนเว็บไซต์จะต้องใช้คลังสินค้า (Warehouse) และระบบโลจิสติกส์ของ Amazon หรือการบีบให้ซัพพลายเออร์ต้องจ่ายค่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มของห้าง Amazon ซึ่งด้วยอำนาจเหนือตลาดทำให้เจ้าของสินค้าต้องพึ่งการใช้ Amazon เป็นช่องทางจำหน่ายก็จำเป็นต้องทำตาม

ขณะที่ทางฝั่ง Amazon ออกมาประกาศว่าจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการเปิดข้อมูล ให้ความร่วมมือในการไต่สวนครั้งนี้ ทั้งยังอ้างว่าแพลตฟอร์มอเมซอนนั้นได้ช่วยเหลือและขับเคลื่อนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สามารถขยายเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดออนไลน์ได้

ทั้งนี้กรณีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปออกมาว่าเป็นอย่างไร แต่หากผลการพิจารณาตัดสินออกมาว่าทาง Amazon มีความผิดในเรื่องการใช้อำนาจเหนือตลาดในการบิดเบือนตลาดหรือคู่แข่ง "Abuse of Dominace" ตามกฎหมายแคนาดา ซึ่งจะมีโทษปรับ 10 ล้านเหรียญแคนาดา หรือ 230 ล้านบาท ในครั้งแรก และหากมีคดีความอีกในครั้งต่อไปจะถูกปรับเพิ่มครั้งละ 15 ล้านเหรียญแคนาดา หรือ 345 ล้านบาท

ไม่เพียงเฉพาะเคสนี้ กลุ่มซัพพลายเออร์ในแคนาดายังได้รวมกลุ่มกันร้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานแข่งขันทางการค้าถึงพฤติกรรมของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ชื่อดังอย่าง Walmart ซึ่งได้แจ้งไปยังซัพพลายเออร์กว่า 3,000 รายทั่วประเทศว่าจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ โดยคิดอัตรา 1.25%-6.25% ของราคาต้นทุน เพื่อนำไปใช้เป็นค่าสนับสนุนต้นทุน Modernization Cost และ Infrastructure Development Fee หรือค่าใช้จ่ายที่ใช้อัพเกรด การตกแต่งสาขา ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของโควิด 19

ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกในรูปแบบเดิมได้รับผลกระทบ แต่ละห้างจึงมีค่าใช้จ่ายแฝงเพิ่มขึ้น เช่น ค่าจ้างต่อชั่วโมง ค่าอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ชุด PPE สำหรับพนักงาน ค่าทำความสะอาดที่ต้องทำบ่อยขึ้น ขณะที่จำนวนลูกค้ายังไม่กลับมาใช้บริการตามปกติ ผลประกอบการของห้างลดลง จึงนำมาสู่การเรียกร้องค่าจ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่างเคสเหล่านี้ ถือว่าเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขายผ่านช่องทางค้าปลีกออนไลน์ ต้องศึกษาอย่างจริงจัง เพราะจากพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของผู้ประกอบการก็เป็นได้


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<

 

กลยุทธ์ WALMART ค้าปลีกเบอร์รองที่หวังไล่ทันเบอร์หนึ่ง

Omni Channel เทรนด์นี้กำลังมาน่าจับตาอย่างไร


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

เทรนด์การรับประทานอาหารแบบเนื้อไร้เนื้อ ยังคงเป็นแนวโน้มการบริโภคที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  จากกระแสการหันมาดูแลสุขภาพ…
pin
7731 | 17/01/2023
ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ขณะนี้ โลกของเราได้เข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy : DE) ซึ่งหลอมรวมเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คน ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลได้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย…
pin
2481 | 21/12/2022
โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

อีกหนึ่งโอกาสเกษตรกรไทย! คาดการณ์ความต้องการมันสำปะหลังช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดทั้งปีไทยส่งออกกว่า 11 ล้านตัน…
pin
5706 | 23/10/2022
อีคอมเมิร์ซแคนาดาเดือด ฟ้องร้อง Amazon ทุ่มตลาด