เวียดนามกำลังพยายามเร่งฉีดวัคซีนและเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดโรคโควิด 19 หลายๆ อย่างหลังจากที่ใช้มาตรการเข้มงวดมาหลายเดือน โดยคาดการณ์มีแนวโน้มเชิงบวกจากภาคการส่งออกที่อาจจะเติบโตขึ้น 10.7% ณ สิ้นปี 2564 และเศรษฐกิจอาจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้นเป็น 6.8% yoy ในปี 2565
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในระยะกลาง อุตสาหกรรมหลักของเวียดนามอย่างอาจเป็นแรงหนุนที่ดีให้กับเศรษฐกิจของเวียดนาม เพื่อขับเคลื่อน GDP ของประเทศและตอกย้ำฐานะในการเป็นศูนย์กลางการผลิตแบบพลวัต โดย 4 อุตสาหกรรมหลักที่กำลังฟื้นตัวและน่าจับตามอง มีดังนี้
1.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มีการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยอุตสาหกรรมนี้ได้สร้างรายได้ถึง 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐใน 9 เดือนที่ผ่านมาในปี 2564 และมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ยื่นข้อเสนอแนะให้แก่รัฐบาลทั้งหมด 8 ข้อ เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวได้มากขึ้น เช่น เน้นให้ความสำคัญของการฉีดวัคซีนให้แก่พนักงาน กำหนดแนวทางการผลิตที่ปลอดภัย การขอหักภาษีทุกประเภท 50% และขยายเวลาในการชำระอีก 6-12 เดือน เป็นต้น
2.อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเวียดนามได้ส่งสัญญาณถึงการเติบโตจากกำลังซื้อและยอดสั่งจองล่วงหน้าที่เพิ่มมากขึ้นในปลายปีนี้และต้นปี 2565 ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆ รายพบว่ามีข้อได้เปรียบในแง่ของคุณภาพสินค้า เทคนิค ความสามารถในการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม และอัตราภาษีศุลกากรภายใต้ FTAs ที่หลากหลาย
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมามีการปิดโรงงานไปหลายแห่ง และอีกหลายๆ โรงงานมีการใช้แผน on-site เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของพนักงานในโรงงาน ทำให้มีต้นทุนและมีการขาดทุนเพิ่มขึ้น สมัชชาแห่งชาติเวียดนามจึงตัดสินใจละเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีจำนวนมากให้แก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตลอดทั้งปี แต่ก็ยังคงบังคับใช้มาตรการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ อยู่
3.อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
เวียดนามเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เพียง 3.7 ล้านคนและนักท่องเที่ยวในประเทศ 56 ล้านคน ในปี 2563 ลดลงถึง 80% และ 34.1% จากปีก่อนหน้าตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศลดลง 58.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
รัฐบาลจึงประกาศแผนฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวโดยเริ่มจากพื้นที่โซนสีเขียวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางไปด้วยตนเองหรือจองผ่านทัวร์ก็ได้ และโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้ 50% ของความจุสูงสุดตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19
4.อุตสาหกรรมการเกษตร
สำหรับภาคการเกษตรได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้ ขณะที่ผู้บริโภคในภาคใต้ของเวียดนามก็มีปัญหาด้านการจับจ่ายเนื่องจากตลาดค้าส่งและค้าปลีกปิดทำการชั่วคราว
อย่างไรก็ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด แต่ภาคเกษตรกรรมก็มีมูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้น 3.3 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 และภาคการเกษตร ป่าไม้ และประมงก็ขยายตัว 2.74% คิดเป็นสัดส่วน 23.52% ของการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม
นอกจากนี้ รัฐบาลก็มีแผนในการอำนวยความสะดวกในการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการบริโภคสินค้าเกษตรเพื่อสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นในเวียดนาม ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการผลักดันการเกษตรของเวียดนาม คือ การสนับสนุนการนำDigital Transformation มาใช้ เนื่องจากภาคการเกษตรนับเป็น ‘กระดูกสันหลัง’ ของเศรษฐกิจในภาวะที่ประเทศเผชิญความยากลำบาก
อย่างไรก็ดี แม้ว่า ‘เวียดนาม’ จะเผชิญความท้าทายต่างๆ จากโรคโควิด 19 แต่ยังคงถูกมองเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงสำหรับบริษัททั่วโลกที่วางแผนจะขยายการค้าและการลงทุน ซึ่งหากพิจารณาในแง่ความต้องการของผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ‘เวียดนาม’ จะสามารถฟื้นกลับมาได้ในอัตราที่รวดเร็วจนกระทั่งถึงปี 2566 และคาดว่าจะแซงหน้าประเทศคู่แข่ง กลับมาเติบโตและดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจำนวนมากในระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด 19 ได้ในที่สุด
ผู้เรียบเรียง: ณภัสสร มีไผ่แก้ว
Reference : https://www.vietnam-briefing.com/news/vietnams-business-recovery-4-industries-to-watch.html/