How-to ห้าง/ร้านค้าปลีกที่เปิดตัวให้บริการท่ามกลางโควิด-19
หลังรัฐบาลปลดล็อกให้ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดบริการได้ตามปกติเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผู้คนกลับมาใช้บริการอีกครั้งอย่างคึกคักหลังจากปิดตัวไปนาน หากแต่การกลับมาให้บริการ/ใช้บริการครั้งนี้มีความแตกต่างและเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งในมุมของผู้ประกอบการและผู้มาใช้บริการที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่ New Normal กับการใช้บริการห้างร้านหลังโควิด-19 ต้องมีการปรับตัวกันยกใหญ่ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการปลอดโรคให้แก่ผู้บริโภค และผู้ประกอบการร้านค้าในห้างฯ สิ่งที่ทางศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มีชื่อเสียงหลายแห่งได้นำมาปรับใช้เพื่อลดและเลี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แก่
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. คัดกรองสุขภาพอนามัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานในห้างร้าน
โดยระบุให้
- พนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์
(Face Shield) ตลอดเวลา ขณะปฏิบัติงาน
และทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังบริการ
- ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคนทุก 3
ชั่วโมง และตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าใช้บริการทุกคน รวมถึงลูกค้า พนักงานร้านค้า
พนักงานคู่ค้า พนักงานรับ-ส่งสินค้า DELIVERY ด้วย THERMO SCAN และ THERMOMETER ณ ประตูทางเข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า
โดยต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
จึงจะอนุญาตให้เข้าพื้นที่
- ควบคุมดูแลระบบระบายอากาศหมุนเวียน
(Air Change) มากกว่า 10 เท่า เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งยังเพิ่มระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง
UVC ในระบบปรับอากาศตลอดเวลา
- มีระบบติดตาม (Tracking) ข้อมูลลูกค้าที่มาใช้บริการ
รวมถึงพนักงานที่เข้ามาปฏิบัติงานที่ห้างสรรพสินค้า
- คัดกรองตรวจสุขภาพพนักงานโดยจัดทำการ
Tracking ข้อมูลสุขภาพ
และการเดินทางของพนักงานบริษัทย้อนหลัง 14 วัน
พร้อมตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานทุกคนก่อนเข้าในพื้นที่ทุกวัน 100%
- พนักงานต้องลงทะเบียนการเข้า-ออก
ทุกพื้นที่ปฏิบัติงานผ่าน Application (หรือผ่าน QR
Code หรือ แบบฟอร์ม Online) ทุกวัน
- การ Self-Checked
ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานระหว่างวัน
- พนักงานทำความสะอาดต้องสวมถุงมือขณะปฏิบัติงาน
- สร้างการตระหนักรู้และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
2. ทำความสะอาดทุกจุดที่มีการสัมผัส ในบางจุดให้บริการมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับการสัมผัสมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อโรคสะสมหรือเป็นช่องทางแห่งการแพร่กระจายเชื้อ
จำต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกครั้ง ได้แก่
- สินค้าที่จำเป็นต้องสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง
อาทิ ชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ เสื้อผ้า รองเท้า หรือแผนกเครื่องครัว
ต้องนำสินค้าที่ลองหรือสัมผัสแล้ว ไปฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งทำความสะอาดภายในห้องลอง ด้วยการฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งหลังใช้บริการ
- ปูผ้าหุ้มพรม
บริเวณประตูทางเข้า-ออก ห้างฯ พร้อมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และเปลี่ยนผ้าวันละ 2 รอบ
หรือบ่อยครั้งตามความเหมาะสมของแต่ละสาขา
- จัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ อาทิ
ทางเข้าห้างฯ จุดประชาสัมพันธ์ เคาน์เตอร์แคชเชียร์ และในลิฟต์ทุกตัว
รวมทั้งตรวจจุดติดตั้งเครื่องเจลแอลกอฮอล์ ทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเติมไม่ให้ขาด
- ทำความสะอาดห้องน้ำทุก 30 นาที
และติดตั้งเครื่องจ่ายเจลแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อโรคบนฝาสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
- ทำความสะอาดตามรอบความถี่ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งทำความสะอาด Deep Cleaning ทั่วพื้นที่ขาย
และห้องให้บริการต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เครื่องอบโอโซน และเครื่อง UVC
เคลื่อนที่ หลังปิดทำการในแต่ละวัน พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคผ่าน
Disinfecting Fogger Technology ทั่วทุกพื้นที่ และทำความสะอาดในจุดที่ลูกค้าสัมผัสมากด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อโรคทุกครึ่งชั่วโมง
เช่น ราวบันไดเลื่อน ที่จับประตู และปุ่มกดลิฟต์ พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด เช่น
จุดเก้าอี้นั่งคอย และที่นั่งโดยสารภายในของ Shuttle Bus, Shuttle Boat เป็นต้น
- ทำความสะอาดบัตรจอดรถและบัตรศูนย์อาหาร
ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนและหลังการใช้งานทุกครั้ง
- ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ร้านผู้เช่า
ในระบบท่อน้ำทิ้งของศูนย์ฯ และร้านค้าทั้งหมด
- ล้างเครื่องส่งลมเย็นในพื้นที่ส่วนกลาง
และใช้สาร Enzyme ฉีดเคลือบ Coil&Fin
เพื่อยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ ทำความสะอาดระบบปรับอากาศด้วยเครื่องฆ่าเชื้ออบโอโซน
- แยกขยะหน้ากากอนามัยจากขยะทั่วไป
3. ลดความแออัดจำกัดจำนวน จากในอดีตที่เปิดให้บริการแบบไม่จำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการ
เน้นเปิดให้บริการตามเวลาที่กำหนด ท่ามกลางสถานการณ์ของโรคโควิด-19
ที่ยังควบคุมไม่ได้ และยังไม่หายไปจากโลกแบบถาวร
การลดความแออัดจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการต่อวัน
กลายเป็นตัวเลือกที่ทุกห้างฯร้านเลือกใช้
- จำกัดจำนวนคนเข้าห้างฯ ไม่เกิน 1 คน
ต่อ 5 ตร.ม. บางแห่งระบุจำนวนคนต่อวัน ผ่านระบบการนับที่เคร่งครัด
- กำหนดจุดเว้นระยะห่าง
ทุกประตูทางเข้า-ออก และทุกจุดให้บริการ อาทิ เคาน์เตอร์แคชเชียร์
เคาน์เตอร์บริการลูกค้า จุดเข้าคิวห้องน้ำ จุดแลกซื้อ จุดรอลิฟต์ บันไดเลื่อน
ร้านและศูนย์อาหาร
- มีการจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง ณ
พื้นที่ห้องบริการ และที่นั่งคอยในพื้นที่ขาย บริเวณเคาน์เตอร์
รวมถึงจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับภาชนะต่างๆ ในห้องเลาจน์ อาทิ แก้วน้ำ
และช้อน เปลี่ยนเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง
- จัดให้มีพื้นที่ติดต่อของบุคคลภายนอก
และพนักงานรับส่งอาหาร โดยจัดทำป้ายและสติ๊กเกอร์การเว้นระยะห่าง รวมทั้งทำความสะอาดตามรอบที่กำหนด
- มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ
เพื่อให้ลูกค้าเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างกัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
- กำหนดทางเข้า-ออกของลูกค้า
โดยใช้คนละข้างของประตู
- ทำฉากกั้นใส (Window Shield) ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า
และบนโต๊ะรับประทานอาหาร (Table Shield) ในร้านและศูนย์อาหาร
- ทำป้ายรณรงค์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
COVID-19 พร้อมข้อควรปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ อาทิ
การใช้ห้องน้ำ การใช้ลิฟต์ และการใช้บันไดเลื่อนที่ปลอดภัย
4. สร้างสังคมไร้สัมผัส (TOUCHLESS SOCIETY)
- ส่งเสริมการชำระเงินผ่านโมบายแบงกิ้ง
หรืออีเพย์เมนต์ แทนการชำระเงินสด *กรณีลูกค้าชำระเงินสด
ทั้งธนบัตรและเหรียญที่ได้รับจะแยกไว้เพื่อนำไปฆ่าเชื้อโรคโดยการอบโอโซน
และเงินที่ทอนให้ลูกค้าจะมีการใส่แผ่นรองเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง
- จัดพนักงานบริการกดลิฟท์ทุกตัวให้กับลูกค้า
และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในลิฟท์ทุก 10 นาที รวมถึงจัดพนักงานบริการเปิด–ปิดประตูศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเพื่อลดการสัมผัส
- ลดการสัมผัสประตูห้องน้ำด้วยอุปกรณ์พิเศษ
- ส่งเสริมให้มีการช้อปปิ้งสินค้าทุกประเภทของห้างฯ
ผ่านช่องทางออนไลน์
5. คัดกรองผู้เข้าใช้บริการอย่างเคร่งครัด
มีระบบตรวจสอบได้ เรื่องนี้มีใช้มานานรับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
ในประเทศไทย หากแต่เพิ่มการคัดกรองอย่างเข้มงวดขึ้น เพื่อรองรับระบบการตรวจสอบและเข้าถึงตัวบุคุคลที่มีความเสี่ยงได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
ผ่านมาตรการ
- ลงทะเบียนก่อนเข้าออกภายในศูนย์ฯ
ด้วย Mobile Application เพื่อเฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
- กำหนด Zoning ในการเข้า-ออก เพื่อให้ทุกคนผ่านจุดคัดกรอง 100%
- ติดตั้งเครื่องสแกนวัดอุณหภูมิร่างกายทุกประตูทางเข้าของอาคาร
มีการนำนวัตกรรมสุดล้ำหุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G Temi Thermal Scan, AutoBot มาช่วยวัดอุณหภูมิผู้ใช้บริการ
และแจ้งเตือนได้ทันทีผ่าน Line Application ไปยังผู้เกี่ยวข้องกรณีมีผู้ที่อุณหภูมิเกินเกณฑ์กำหนด
- จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมือกระจายครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางการรับมือกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใช้ดำเนินการท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงไม่หยุดนิ่ง หากแต่ถ้าให้ปิดห้างฯ นิ่งนานไปเศรษฐกิจชาติและปากท้องคนไทยคงออกอาการสาหัสจนยากจะเยียวยา และในเมื่อต้องดำเนินธุรกิจต่อไปท่ามกลางความเสี่ยงของโรคระบาด นี่จึงเป็นหนทางการรับมือและนับเป็นการปรับตัวทุ่มทุนสร้างระบบป้องกัน เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้ต่อไปที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีร้านค้าขนาดย่อมควรศึกษาไว้เป็นแบบอย่างแนวทาง.