สำหรับใครที่กําลังจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ประกอบการ
SME เรื่องสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของกฎหมายธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตสินค้าหรือบริการก็ตาม
ทุกอย่างมีข้อจํากัดทาง กฎหมายทั้งสิ้น
อีกทั้งการทำธุรกิจมีข้อผูกพันเกี่ยวกับเรื่องของภาษี
ซึ่งแน่นอนเลยว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของกฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากคิดจะดำเนินธุรกิจให้มีอุปสรรคทางด้านกฎหมายน้อยที่สุด
ก็ควรศึกษาเรื่องของกฎหมายธุรกิจให้ดีเพื่อจะได้ทำทุกอย่างได้ถูกต้อง
ดังนั้นก่อนจะเริ่มทำธุรกิจควรทราบกฎหมายเบื้องต้นที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเองดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
5 กฎหมายเบื้องต้นที่
SME ควรรู้
1. กฎหมายแรงงาน
: ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่
1 คนขึ้นไป ควรศึกษากฎหมายแรงงานควบคู่ไปด้วย เพราะกฎหมายแรงงาน
เป็นกฎหมายพื้นฐานที่ระบุถึงสิทธิของลูกจ้างและนายจ้างไว้อย่างชัดเจน
เพื่อป้องกันการเอาเปรียบไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม ซึ่งตามกฎหมายแรงงานจะกำหนดสิทธิและสวัสดิการต่างๆ
เอาไว้ เช่น ระยะเวลาการทำงาน วันหยุด ค่าแรง ความปลอดภัยในการทำงาน
2. กฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค
: จากกฎหมายนี้ระบุไว้ว่า
ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ถึงคุณภาพที่ถูกต้องและและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
และมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ เมื่อผู้บริโภครู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในสินค้าหรือบริการ
ผู้บริโภคมีสิทธิ์ฟ้องร้องและพิจารณาขอชดเชยความเสียหาย ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทของผู้ประกอบการก็ตาม
ผู้ประกอบการก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
ดังนั้นหากอยากดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ
ก็ต้องศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ดีเสียก่อน เพื่อเป็นการอุดช่องโหว่ให้กับธุรกิจดำเนินไปแบบไม่ต้องติดปัญหา
ซึ่งกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคก็มีด้วยกันหลานฉบับ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค,
พระราชบัญญัติยา, พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย,
พระราชบัญญัติอาหาร, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง
เป็นต้น
3. กฎหมายเครื่องหมายการค้า
: เครื่องหมายการค้า
กฎหมายระบุว่า จะต้องมีลักษณะที่ทำให้ประชาชนหรือผู้ใช้สินค้าทราบและเข้าใจได้ว่า
สินค้าของมีความแตกต่างจากสินค้าผู้อื่น และเครื่องหมายการค้าจะต้องบ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดของสินค้าและความเป็นเจ้าของอีกด้วย
รวมถึงยังเป็นเครื่องหมายที่รับประกันคุณภาพสินค้าแก่ผู้บริโภค ที่สำคัญจะต้องจดทะเบียนต่อกรมททรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
4. กฎหมายลิขสิทธิ์
: หากผู้ประกอบการมีความจำเป็นต้องหยิบยืมบางสิ่งบางอย่างจากผู้อื่นมาใช้
ซึ่งถ้าผู้นั้นมีการจดลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง
ผู้ประกอบการต้องศึกษาให้ดีว่าจะสามารถนํามาดัดแปลง หรือแก้ไขได้หรือไม่ ซึ่งกฎหมายระบุไว้ว่า
กรณีเป็นนิติบุคคล ลิขสิทธิ์จะมีอายุ 50 ปี นับตั้งแต่ได้สร้างสรรค์ผลงานขึ้น
ในส่วนงานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ หรืองานเสียง ภาพที่มีการเผยแพร่ลิขสิทธิ์มีอายุ
50 ปี นับแต่ได้ สร้างสรรค์งานชิ้นนั้นขึ้นมา หากเป็นงานที่สร้างสรรค์โดยการจ้าง
หรือทำตามคำสั่ง จะมีอายุ 50 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์งาน ดังนั้นหากผู้ประกอบการใดที่มีความจําเป็นจะต้อง
นํางานของผู้อื่นมาใช้ในการทำธุรกิจจะต้องศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อนที่จะนำมาใช้
เพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางธุรกิจที่ตามมา
5. กฎหมายสิทธิบัตร : คือหนังสือสำคัญที่ใช้คุ้มครองสิ่งประดิษฐ์ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือกรรมวิธีการผลิต ซึ่งการคุ้มครองด้วยสิทธิบัตรจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นลอกเลียนแบบหรือขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นผู้ประกอบการใดที่มีความเกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์ต่างๆ จำเป็นต้องศึกษาไว้ให้ดี เนื่องจากสิทธิบัตรถือเป็นหนังสือสำคัญที่ออกให้ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ทางธุรกิจ ส่วนอายุการคุ้มครองของสิทธิบัตรนั้น หากเป็นงานเกี่ยวกับการประดิษฐ์จะมีอายุ 20 ปี นับตั้งแต่วันขอรับสิทธิบัตร แต่ถ้าเป็นลักษณะของการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีอายุ 10 ปี นับตั้งแต่วันขอรับสิทธิบัตร
กฎหมายเหล่านี้นับเป็นกฎหมายพื้นฐานของการทำธุรกิจ
ดังนั้นผู้ประกอบการ SME ควรจะเรียนรู้ ศึกษา
และทำความเข้าใจให้ดี จะได้ไม่ทำผิดพลาดไป เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและแข็งแกร่ง
แหล่งอ้างอิง
:
กรมทรัพย์สินทางปัญญา
http://thaifranchisedownload.com/