‘AI’ พลิกโฉมวงการ HR สู่ยุค Digital HR เครื่องมือสรรหา ‘บุคลากรคุณภาพ’ ตอบโจทย์โดนใจองค์กรยุคใหม่

SME Startup
01/08/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 6663 คน
‘AI’ พลิกโฉมวงการ HR สู่ยุค Digital HR เครื่องมือสรรหา ‘บุคลากรคุณภาพ’ ตอบโจทย์โดนใจองค์กรยุคใหม่
banner
ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน เทคโนโลยี เข้ามามีอิทธิพลต่อโลกการทำงานทุกภาคส่วน ไม่ว่าองค์กรธุรกิจ ขนาดใหญ่ หรือ SME หรือแม้แต่เหล่าสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในส่วนของการจัดการทรัพยากรบุคคล หรือ Human Resource Development (HR) ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี นวัตกรรมแห่งยุคอย่าง ‘AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์’ โดยตรง

เพราะในการนำองค์กรให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น ฝ่าย HR จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเฟ้นหาบุคลากรที่มี DNA ตรงกับวัฒนธรรมองค์กร ไม่ใช่แค่มีความรู้ ความสามารถตรงตามตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น ซึ่งในยุคนี้ AI ช่วยได้

โดย HR ในยุคนี้ต้องปรับตัวยกระดับตัวเองสู่ ‘Digital HR’ ด้วยการปรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพในการสรรหาบุคลากร เพื่อให้องค์กรได้คนทำงานแบบมืออาชีพที่มีคุณภาพมาทำงานที่ตอบโจทย์ ตรงใจองค์กรมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ๆ ในการสรรหาคัดเลือกบุคลากร  เขามีกระบวนการอย่างไรบ้างมาดูกัน



1. Chatbots

กำลังเป็น AI ตัวหนึ่งที่มาแรงมากๆ ในยุคนี้ แล้วเทคโนโลยีนี้ก็กำลังเข้ามามีบทบาทในวงการ Human Resource มากขึ้นเรื่อยๆ ในบ้านเราเช่นกัน เป็นเหมือนเครื่องมือโต้ตอบ พูดคุย ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ในกระบวนการสรรหาคัดเลือกได้ ตั้งแต่การส่งข้อความนัดหมาย การลงตารางเวลานัดหมายกับผู้สมัครแต่ละคน ซึ่งระบบจะทำงานตามตารางที่ว่างอยู่ ทำให้การนัดหมายเพื่อสัมภาษณ์นั้น ทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Chatbots ยังสามารถคุยพร้อมกันในเวลาเดียวกัน โดยแยกห้องคุยได้ โดยไม่ต้องรอคิวสัมภาษณ์ให้วุ่นวาย 

สำหรับ HR Chatbot สายเลือดไทยก็มีให้เลือกใช้แล้ว คือ OneDee.ai ซึ่งแอปพลิเคชันนี้ช่วยงาน HR ตั้งแต่ระบบฐานข้อมูลของพนักงานบริษัท, ระบบเข้าออกงาน, ไปจนถึงระบบเงินเดือนของพนักงาน, ซึ่งพนักงานทุกคนสามารถโหลดแอปพลิเคชันนี้มาใช้บนสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ และสามารถพูดคุยการจัดการเบื้องต้นต่างๆ ได้กับ HR Chatbot โดยตรง 

ซึ่ง HR Chatbot สายเลือดไทยตัวนี้ มุ่งเป้าไปที่ธุรกิจในกลุ่ม SME ที่ต้องการบริหารจัดการงบของตัวเองให้คุ้มค่า และลดการจ้างแรงงานคนให้มากที่สุด ซึ่ง AI Chatbot นี้สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเหล่า SME ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทาง OneDee.ai ยังมีการพัฒนาให้สอดรับกับธุรกิจแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน อาทิ ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านขายยา, หรือแม้แต่งานรับเหมาก่อสร้าง ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้เลยทีเดียว



2. Enhanced Vetting

เป็นเครื่องมือตรวจสอบประวัติการทำงานเชิงลึก หรือต้องการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง ซึ่งตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ต้องเคยเข้าไปท่องโลก Social Media ทำกิจกรรมต่างๆ ในโลกอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งโปรแกรมเหล่านั้นจะเก็บข้อมูลประวัติของเราไว้ทั้งหมด สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วมากกว่าในอดีต ทำให้เราสามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนที่มาสมัครงานว่าคนไหนเป็นคนที่เหมาะกับองค์กรของเราได้ง่ายขึ้น



3. Predictive Analytics

เป็นเครื่องมือที่มุ่งเน้นในการวิเคราะห์หาคุณสมบัติของคนที่เหมาะสม โดยระบบจะประมวลผลจากฐานข้อมูลพนักงานในองค์กรของตน ว่ามีใครบ้างที่เป็นพนักงานมีควาที่มสามารถ ตรงเวลา ไม่ทำผิดระเบียบ

บางแห่งสามารถเก็บข้อมูลวิธีคิดวิธีการทำงาน โดยดูจากพฤติกรรมต่างๆ เช่นการเขียนตอบอีเมล การโต้ตอบใน Social Media แล้วตัวระบบจะสรุปออกมาได้ว่า คนที่มีความสามารถสูงขององค์กรนี้มีคุณสมบัติอย่างไร จากนั้น ก็เอาข้อมูลเหล่านี้ไป ไปใช้เปรียบเทียบหาผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับทีมและกับวัฒนธรรมขององค์กรมากที่สุด

ซึ่งองค์กรระดับโลกอย่าง Google ใช้แนวทาง Predictive Hiring ในการรับสมัครพนักงานใหม่ โดยประยุกต์ใช้โมเดลเทคโนโลยี Predictive ของตัวเองในการสรรหาบุคลากร ซึ่ง Google ไม่ได้เลือกใช้ตัวชี้วัด จากผลเกรดจากสถาบันการศึกษาในการคัดเลือกบุคลากร เหมือนในอดีตที่ผ่านมา



4.Artificial Intelligence

การประเมินความสามารถของพนักงานจะเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ HR แต่ในหลายองค์กรที่มีขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมากหลายองค์กรได้หันมาใช้งาน AI เพื่อทดสอบ ค้นหาและประเมินทักษะที่มีของพนักงานแต่ละคนแทนการตัดสินใจจากฝ่าย HR ด้วยเหตุผลว่าการประเมินของ AI นั้นมีความแม่นยำมากกว่า 80% อีกทั้งการใช้ AI จะช่วยตัดปัญหาเรื่องอคติ (Human Bias) ที่อาจเกิดขึ้นด้วย 

เป็นการใช้ AI แบบเต็มรูปแบบในการสรรหาคัดเลือก ตั้งแต่การสกรีนผู้สมัคร เทียบกับคุณสมบัติที่กำหนด โดยที่คุณสมบัตินั้น AI สามารถไปวิเคราะห์ได้จากฐานข้อมูล HR ขององค์กร ว่าบุคลากรที่ประสบความสำเร็จ โตไปยังตำแหน่งสูงๆ ได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง AI ก็จะเอาสิ่งเหล่านี้มาประมวลผล แล้วกำหนดเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน ที่เราเรียกว่า Algorithms นั้นเอง 

จากนั้นก็ Matching กับคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ สามารถทำได้อย่างรวดเร็วกว่าการใช้พนักงานมานั่งอ่านประวัติ เรียกคุยไปทีละคนมาก ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เกิดความรู้สึก อารมณ์ และความเบื่อหน่ายเกิดขึ้นได้ ซึ่งทำให้การสรรหาคัดเลือกพนักงานอาจมีอารมณ์และอคติเข้ามาเกี่ยวได้ แต่ AI สามารถแก้ปัญหาสิ่งเหล่านั้นได้ 

สำหรับประโยชน์ที่ได้จากการใช้ AI มาช่วยในงาน HR

1. ช่วยคัดกรองผู้สมัครจำนวนมาก และจัดการข้อมูลการสมัครงานให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

2. ช่วยติดตามผู้สมัครแต่ละรายเพื่อทำการนัดหมายกับทาง HR ได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น การสัมภาษณ์, การทดสอบ, การเซ็นเอกสาร, การฝึกอบรม จะลดภาระ HR ได้เป็นอย่างมาก

3. ช่วยประเมินความสามารถพนักงานใหม่และพนักงานปัจจุบัน พร้อมจัดคอร์สฝึกอบรมตามความสามารถของพนักงาน

4. ช่วยสื่อสารสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงาน ซึ่งมักมีคำถามเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ ขององค์กรอยู่แล้ว ดังนั้นการพัฒนาระบบ Chatbot เพื่อช่วยตอบคำถามต่าง ๆ เหล่านี้ให้กับพนักงานโดยอัตโนมัติจะช่วยลดภาระการงานของ HR ได้ อีกทั้งยังเก็บสถิติข้อมูลคำถามเพื่อนำไปปรับปรุงองค์กรในอนาคตด้วย

5. ช่วยในการแนะนำได้ว่าพนักงานคนใดควรจะได้เลื่อนตำแหน่ง หรือได้รับการประเมินอย่างโดดเด่น แต่ทั้งนี้ ระบบงานต่างๆ ขององค์กรก็ต้องมีการติดตามทีชัดเจนว่าพนักงานคนใดทำงานมากน้อยแค่ไหน และมีผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ต่อองค์กรในระดับใด ไปจนถึงข้อมูลปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลได้ ทั้งอายุงาน, ความสามารถที่เพิ่มขึ้น, ข้อมูลเปรียบเทียบจากพนักงานในระดับที่ใกล้เคียงกัน

6. ช่วยทำนายแนวโน้มการลาออกของพนักงาน ทำให้องค์กรสามารถวางแผนการรับคนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น พร้อมพูดคุยกับบุคลากรที่มีความเสี่ยงล่วงหน้า เพื่อรับฟังปัญหาหรือเหตุผลต่าง ๆ เพื่อลดโอกาสที่องค์กรจะสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถลงได้

สะท้อนให้เห็นว่า อนาคตอันใกล้นี้ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดลักษณะงานด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลทั่วโลก เนื่องจากการใช้ AI จะช่วยลดอคติของคน เพิ่มประสิทธิภาพในการสรรหาบุคลากรพัฒนาความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายแล้ว AI ไม่สามารถเข้ามาแทนที่บุคลากรของฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้ แต่จะเข้ามาช่วยลดภาระงานเพื่อให้พนักงานได้ใช้เวลาในการพัฒนาองค์กรในด้านอื่นๆ เช่น การรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กร และการประเมินความต้องการของผู้สมัครงาน 
     
ดังนั้น หาก HR นำ AI เข้ามาเสริมศักยภาพในการทำงาน จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรได้ในระยะยาว พร้อมทั้งก้าวสู่การเป็นฝ่ายทรัพยากรบุคคลในยุคดิจิทัล (Digital HR) อย่างเต็มรูปแบบได้

ที่มา :
https://www.ftpi.or.th/2019/31410
https://adaptivity.us/th/future-hr/
https://th.hrnote.asia/hrtech/191108-hrtech-onedee/
https://shorturl.asia/l4P9J
https://www.thansettakij.com/general-news/304966

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

4 สตาร์ทอัพไทย ที่ใช้ Model Innovation เปลี่ยนโลกใบนี้เป็นสีเขียว

4 สตาร์ทอัพไทย ที่ใช้ Model Innovation เปลี่ยนโลกใบนี้เป็นสีเขียว

อย่างที่ทราบดีว่า ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก ที่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ และกลายมาเป็นโจทย์สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ…
pin
2286 | 14/02/2023
ไม่ดูตอนนี้ รู้อีกทีปีหน้า! ส่องเทรนด์ธุรกิจมาแรง ที่ SME ห้ามพลาดใน ปี 66

ไม่ดูตอนนี้ รู้อีกทีปีหน้า! ส่องเทรนด์ธุรกิจมาแรง ที่ SME ห้ามพลาดใน ปี 66

หลังจากไทยเผชิญการระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หลายหน่วยงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการค้าต่างออกมาวิเคราะห์เทรนด์ธุรกิจที่มาแรงในปี…
pin
4478 | 19/01/2023
ตอบโจทย์ Aging Society! นักวิจัยไทยคิดค้น ‘MONICA’ เกมกระตุ้นสมองสำหรับผู้สูงอายุ ที่ผู้ประกอบการต่อยอดไอเดียได้

ตอบโจทย์ Aging Society! นักวิจัยไทยคิดค้น ‘MONICA’ เกมกระตุ้นสมองสำหรับผู้สูงอายุ ที่ผู้ประกอบการต่อยอดไอเดียได้

‘ไทย’ ได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว คิดเป็นประมาณ 18.3% ของประชากรทั้งหมด และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ…
pin
2261 | 22/12/2022
‘AI’ พลิกโฉมวงการ HR สู่ยุค Digital HR เครื่องมือสรรหา ‘บุคลากรคุณภาพ’ ตอบโจทย์โดนใจองค์กรยุคใหม่