‘กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป’ ยกระดับคุณภาพผลไม้ไทยเจาะ 6 ตลาดจีน โกยรายได้กว่า 700 ล้านต่อปี

SME in Focus
20/09/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 5144 คน
‘กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป’ ยกระดับคุณภาพผลไม้ไทยเจาะ 6 ตลาดจีน โกยรายได้กว่า 700 ล้านต่อปี
banner
จากชาวสวนเติบโตสู่ผู้ส่งออกผลไม้มืออาชีพ ภายใต้การบริหารงานของนักธุรกิจหญิงสุดแกร่งอย่าง คุณ เกศราภรณ์ วัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป จำกัด ที่สามารถส่งออกผลไม้ไทยสู่ 6 ตลาดใหญ่ในจีน ที่ใส่ใจคัดสรรผลไม้คุณภาพดี จนมัดใจผู้บริโภคชาวจีน มายาวนานกว่า 17 ปี สร้างยอดขายกว่า 700 ล้านบาทต่อปี



จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจผลไม้

คุณ เกศราภรณ์ วัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป จำกัด เล่าถึงเส้นทางธุรกิจค้าผลไม้ส่งออกว่า เดิมที่บ้านทำสวนผลไม้อยู่แล้วและจุดรับซื้อผลไม้สดด้วย หลังจากเรียนจบอยากทำธุรกิจเพิ่มเติม จึงกลับมามองที่จุดแข็งและความถนัดของเรา ก็เห็นว่าเราอยู่ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นเมืองแห่งผลไม้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผลไม้หลักอย่าง มังคุด ทุเรียน ลำไย ในขณะที่จีนก็นิยมผลไม้ไทยมาก ทำให้เราสนใจธุรกิจนี้

 
เกศราภรณ์ วัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป จำกัด

ต้องสัมผัสตลาดจริงถึงเข้าใจ

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำอย่างจริงจังในปี 2549 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว คุณ เกศราภรณ์ จึงบินไปศึกษาดูงานตลาดผลไม้ในประเทศจีน ก็มีโอกาสได้ไปที่ ‘ตลาดเจียงหนาน’ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ได้ไปพบผู้ส่งออกผลไม้รายอื่นๆ และได้มีโอกาสเจอคู่ค้าในตลาดที่นั่นก็ได้รับคำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาให้เรา หลังจากนั้นจึงลองดีลงานด้วยกันมาตลอดแล้วก็เริ่มที่จะผลิตสินค้าเข้าไปขาย จากนั้นจึงสร้างโรงงานและเริ่มทำส่งออก นี่คือจุดเริ่มต้นของธุรกิจส่งออกผลไม้ไปยังตลาดประเทศจีน โดยผลไม้อย่างแรกที่ส่งออกคือ มังคุดสด 

“บริษัทเราส่งมังคุดอยู่ประมาณ 10 ปี หลังจากนั้นก็เริ่มคิดที่จะขยายผลไม้ชนิดอื่นที่เป็นที่นิยมของชาวจีนในขณะนั้น คือ ทุเรียนและลำไย จากเดิมที่ส่งออกไปที่ตลาดเจียงหนานที่เดียว แต่เมื่อเราขยายตลาดส่งออกผลไม้ชนิดอื่นด้วย จึงขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของจีน ได้แก่ เจียซิง ปักกิ่ง หนานหนิง หนานจิง และซีอาน โดยมีตัวแทนขายในแต่ละเมือง”

 

รุกตลาดจีน พาร์ทเนอร์ที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

สำหรับการส่งออกนั้น คุณเกศราภรณ์ บอกว่าจะส่งออกในนามของบริษัทตัวเอง โดยมี Shipping ในการบริหารจัดการในเรื่องของการขนส่งและวิธีการในการนำเข้าส่งออก โดยมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ในประเทศจีนในเมืองต่างๆ โดยจะเป็นตัวแทนขายของโดยตรงกระจายสินค้าให้ ส่วนราคาตลาดก็จะขึ้นอยู่กับราคาตลาดซื้อขายของประเทศจีนในขณะนั้น

“พาร์ทเนอร์ที่เราร่วมงานด้วยจะต้องมีความซื่อสัตย์ อย่างของตัวแทนจำหน่ายของเราดีลงานกันมาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันที่ประเทศจีนเป็นเวลากว่า 17 ปีแล้ว จึงสามารถไว้วางใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งตลอดระยะเวลาไม่เคยมีปัญหาในการทำงานร่วมกันแต่อย่างใด 

เราโชคดีที่มีซัพพลายเออร์ที่เป็นลูกค้าเดิมๆ ที่ Support เรามาตลอดอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เราจะประสบปัญหาผลิตไม่ทันมากกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าซัพพลายเชนของ ‘กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป’ มีความเข้มแข็งพอสมควร ซัพพลายเออร์ก็มีประสิทธิภาพ การที่จะอยู่ได้อย่างมั่นคงในตลาดจึงต้องมีซัพพลายเออร์และซัพพลายเชนที่เข้มแข็งทั้งระบบทุกส่วนจึงต้องสอดรับทางธุรกิจกันได้เป็นอย่างดี”



ใช้คุณภาพเป็นจุดขาย สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า

นักธุรกิจสาว เผยว่า ส่วนใหญ่แล้วล้งจีนรายใหญ่ๆ ที่เข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย จะเพิ่งเปิดได้ประมาณ 4-5 ปีเท่านั้น ในขณะที่บริษัทอยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 17 ปี ด้วยความที่เรามีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพได้  จึงเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องของคุณภาพความสดใหม่และชื่อเสียงที่ติดตลาดในประเทศจีน โดยตั้งแต่เริ่มธุรกิจเรามุ่งเน้นคือเรื่องคุณภาพ รวมถึงเรื่องความสดใหม่มาตลอด ทำให้แบรนด์เราติดตลาดอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปีแรกที่ส่งออก

สะท้อนให้เห็นว่า คุณภาพเป็นจุดแข็งที่สำคัญในธุรกิจ ที่มุ่งเน้นคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนั้นยังมีความเข้าใจในเรื่องของตลาดอย่างแท้จริงจึงทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มส่งออกปัจจุบันชื่อของ กรีนฟรุ๊ต หรือชื่อที่รู้จักของตลาดชาวจีนในนามของ ’มี่เฟิง’ (ตราผึ้ง)ได้การตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำจนถึงทุกวันนี้

คุณ เกศราภรณ์ ชี้ให้เห็นโอกาสว่า ด้วยความที่ตลาดจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการ SME ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการได้ก็มีโอกาสที่จะขายสินค้าได้เหมือนกัน 



ทำธุรกิจต้องเข้าใจความต้องการของตลาดอย่างถ่องแท้

คุณ เกศราภรณ์ บอกว่า ตลาดจีนมีหลายระดับ นอกจากคุณภาพแล้ว ต้องเข้าใจผู้บริโภคและความต้องการของตลาดว่ามีความต้องการอย่างไร เช่นสีสันของผลไม้อย่างเปลือกมังคุดต้องมีสีที่สม่ำเสมอ และขนาดผลต้องมีขนาดเท่าๆ กัน รวมถึงระบบการขนส่งแบบไหนที่จะทำให้ผลไม้ยังสดใหม่เมื่อไปถึงตลาด สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวิเคราะห์และศึกษาทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

“การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภค เราจะมีการติดตามข้อมูลโดยตลอด เพื่อให้ตามทันเทรนด์ของผู้บริโภคในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและสามารถตอบโจทย์ตลาดได้ตรงจุดมากขึ้น อย่างเช่น เทรนด์ทุเรียนตอนนี้จะเน้นลูกเล็กกำลังรับประทาน กำลังเป็นที่นิยมของตลาดจีนเพราะว่าด้วยราคาที่ไม่แพงมาก และทำให้ขายง่ายขึ้นประมาณ กล่องละ 6 ลูกเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นในราคาที่จ่ายได้ถูกลง เราก็จะสามารถเลือกสินค้าได้ตรงกับความต้องการของตลาดในขณะนั้นเพื่อให้ผู้จำหน่ายสามารถขายได้ง่ายขึ้น ดังนั้นองค์ประกอบที่สำคัญในการที่ตลาดต้องการก็คือ รสชาติ รูปลักษณ์ ขนาดของไซซ์ จึงเป็นคีย์สำคัญในการตอบโจทย์ผู้บริโภค”



ใช้เทคโนโลยีแก้ Pain Point ยกระดับคุณภาพ-มาตรฐานสินค้า

ในการยกระดับเพื่อพัฒนามาตรฐานของสินค้า คุณ เกศราภรณ์  กล่าวว่าต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เริ่มจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เริ่มลงทุนในเทคโนโลยีสั่งเครื่องคัดมังคุดด้วยระบบคอมพิวเตอร์จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดย กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป  เป็นรายๆ แรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้เข้ามาซึ่งจะช่วยในเรื่องของการคัดไซซ์มังคุดให้มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมเมื่อ 17 ปีที่แล้วใช้แรงงานคนทั้งหมดในการคัด โดยอาศัยจากประสบการณ์และการคำนวณของแรงงานคน 

“เทคโนโลยีที่เราผลิตใช้ในปัจจุบันจะเป็นระบบที่คอมพิวเตอร์ควบคุมทั้งหมดในการทำงานทำให้มีความเสถียรและแม่นยำสูงมาก นอกจากนี้ยังสามารถวัดสีผิวของมังคุดได้ด้วย เมื่อเวลาลูกค้าเปิดตะกร้าออกมาหรือเปิดกล่องออกมาจะดูสวยเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้ถูกใจลูกค้า ขณะที่เราก็สามารถขายได้ราคาที่ดีขึ้นด้วย ที่สำคัญเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้เราลดต้นทุนในการผลิตลงได้อย่างมากและสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพให้ลูกค้ามากขึ้น”



ใช้ข้อมูลประเมินธุรกิจ ลดความเสี่ยง หาจังหวะทำกำไรให้ธุรกิจ

คุณ เกศราภรณ์  เผยถึงหัวใจสำคัญอีกข้อหนึ่งของการทำธุรกิจ คือ ข้อมูลทางธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจระหว่างประเทศมาก ทำให้เรารู้ทิศทางของการผลิตสินค้าเพื่อป้อนสู่ตลาดปลายทางว่าเทรนด์ของสินค้าช่วงฤดูกาลหรือช่วงเวลานั้นผู้บริโภคต้องการอะไร และที่สำคัญต้องดูคู่แข่งขันด้วย อย่างที่เมืองจีนช่วงฤดูร้อนเป็นหน้าลิ้นจี่ออก อาจจะผลิตสินค้าน้อยลง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีผลไม้ทดแทนในบ้านเขา อย่างเช่นช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของเมืองเขา จะเตรียมผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น เป็นต้น 

“เราต้องดูจังหวะในการทำกำไร เพราะธุรกิจเราไม่ได้ทำกำไรได้ต่อเนื่องตลอดเวลา แต่ต้องดูช่วงจังหวะเวลาเป็นสำคัญ ว่าช่วงไหนควรผลิตอะไรออกมาเยอะ หรือช่วงใดควรออกผลผลิตในปริมาณที่จำกัดเพื่อเสี่ยงต่อการขาดทุนน้อยที่สุด ซึ่งรวมถึงสินค้าทดแทนของจีนที่ออกมาในช่วงเวลานั้นด้วย”

ดังนั้นข้อมูลทางการค้าจะมีผลในการผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการของตลาดมากที่สุด เรื่อง Timing จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดี ซึ่งเมื่อเราได้ข้อมูลมาแล้วก็ต้องวางแผนร่วมกับซัพพลายเออร์ของเราในการผลิตสินค้าป้อนสู่ตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 



ทำไม? ยอดขายโตฝ่าวิกฤตโควิด-19

ช่วงวิกฤตโควิด19 ปี 63 ยอดขาย 400 กว่าล้านบาท ตกลงมาเพียง 6-7% เท่านั้น ขณะที่ ปี 64 ซึ่งยังอยู่ในช่วงโควิด19 ยอดขายกลับขยับสูงถึง 700 กว่าล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 60% มีรายได้เกือบเท่าตัว จะเห็นได้ว่าวิกฤตโควิด19 ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อการส่งออกเลย

คุณ เกศราภรณ์ เผยว่า “ถือเป็นความโชคดีที่ในช่วงปี 64 ผลไม้ในประเทศไทยออกเยอะมาก ทำให้ยอดการผลิตเยอะขึ้นและเป็นความโชคดีอีกอย่างก็คือ ในช่วงที่เรากังวลเรื่อการปิดเมืองของประเทศจีน เป็นจังหวะที่ประเทศเขาคลายล็อคโควิด 19 พอดี จึงทำให้ความต้องการผลไม้สูงมาก”

ช่องทางออนไลน์อีกหนึ่งช่องทางดันยอดขายเติบโต

คุณ เกศราภรณ์ เผยว่า ช่วงโควิด19 ช่องทางตลาดออนไลน์ ถือเป็นช่องทางที่ดีมากในการขายสินค้า ในช่วงที่ชาวจีนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เขาจะซื้อผัก ผลไม้ ผ่านออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก ตลาดออนไลน์ จึงเป็นตลาดที่ขายดีมากๆ ในจีน 

ด้วยความนิยมดังกล่าว ‘กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป’ จึงทำการตลาดออนไลน์ เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อโปรโมทสินค้าผ่านช่องทาง TikTok  และ  WeChat ของจีน ซึ่งพาร์ทเนอร์จะโปรโมทสินค้าให้เราผ่านโซเชียลมีเดียดังกล่าว เป็นเทคนิคการขายของตัวแทนจำหน่าย และเป็นการ Create การตลาดเพื่อให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าและสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าเรามากขึ้น ในขณะที่เราที่อยู่ฝั่งประเทศไทยก็ต้องผลิตสินค้าให้ได้ตามความต้องการหรือตอบโจทย์ตลาดของผู้บริโภคชาวจีนให้ได้ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเราและพาร์ทเนอร์ คือตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนนั่นเอง 

กลยุทธ์ในการผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการ โดยบริษัทที่เมืองไทยจะทำการตลาดโดยการจัดทำคลิปวิดีโอพาชมกระบวนการผลิต การคัดสรรคุณภาพของผลไม้ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายที่เป็นพาร์ทเนอร์อยู่ที่จีนโดยทำหน้าที่ทำการตลาดผ่าน TikTok เพื่อใช้โปรโมทสินค้าเราซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี เหมือนเป็นการ Co - Create Content ระหว่างผู้ผลิตกับผู้ขายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดึงดูดใจผู้บริโภคได้ไม่น้อย เป็นการตอกย้ำชื่อเสียงคุณภาพของผลไม้ไทยในตลาดจีนซึ่งเป็นที่ยอมรับกันดีมาอย่างยาวนาน

อนาคตผลไม้ไทยอะไรที่ยังสดใดในตลาดจีน

คุณ เกศราภรณ์  ฉายภาพว่า ผลไม้ไทยที่ชาวจีนนิยมนอกเหนือจากทุเรียน มังคุด และลำไย ก็คือ มะพร้าว ถือเป็นผลไม้ของไทยอีกชนิดหนึ่งที่ชาวจีนนิยมไม่น้อย แต่ก็ยังไม่นิยมเท่าผลไม้ทั้ง 3 ชนิดที่ส่งขายอยู่ในปัจจุบัน โดยทุเรียนยังถือเป็นอันดับหนึ่งที่ชาวจีนนิยมมากที่สุดของไทย ซึ่งแนวโน้มในปัจจุบันทุเรียนไทยก็ยังครองความนิยมอันดับ 1 ด้วยรสชาติทุเรียนไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ยังเป็นที่นิยมมายาวนานกว่า 30 ปี รองลงมาเป็นมังคุดที่ยังเติบโตได้อีกมากในตลาดจีน



วางอนาคต กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป ไว้อย่างไร?

คุณ เกศราภรณ์ เผยถึงทิศทางในอนาคตของบริษัทว่า ถึงแม้ปัจจุบันทุเรียนไทยก็ยังครองความนิยมอันดับ 1 ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร ซึ่งเดิมทีประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ได้รับสิทธิ์ในการส่งออก ‘ทุเรียนสด’ ไปยังประเทศจีนได้ แต่ในปัจจุบันเวียดนามสามารถส่งออกทุเรียนสดไปจีนได้แล้ว แต่ยังติดปัญหาเรื่องมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice)  และ GAP (Good Agriculture Practices) ซึ่งต้องบอกว่าทางรัฐบาลเวียดนามอาจจะไม่ได้ Support ดีเท่ากับบ้านเรา ทำให้การเดินเรื่องของเอกสารเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะจีนมุ่งเน้นเรื่องมาตรฐานดังกล่าวเป็นสำคัญ คือ ล้งต้องได้รับมาตรฐาน GMP ในขณะที่สวนผลไม้ก็ต้องได้รับมาตรฐาน GAP เช่นกัน 

“อีกไม่นานเวียดนามน่าจะมีความพร้อมมากขึ้น และสามารถส่งออกทุเรียนไปจีนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการแข่งขันกับทุเรียนไทยอย่างสมบูรณ์  ดังนั้นทุเรียนไทยต้องรักษาคุณภาพให้สามารถแข่งขันได้”
    
“ปัจจุบันเราขยายไปสู่ตลาดไปสู่เมืองต่างๆ ของประเทศจีน 6 ตลาดด้วยกัน แต่ละตลาดจะมีระดับที่แตกต่างกันไปออกไป เช่น ตลาดเจียงหนาน จะมีพ่อค้ามารับอีกทอดหนึ่งและนำไปจำหน่ายต่อ แต่ถ้าเป็น ตลาดเจียซิง และซีอาน  จะเป็นการจำหน่ายผ่านห้างโมเดิร์นเทรดที่ต้องการสินค้าแบรนด์เรา ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะไปสู่พ่อค้าคนกลางที่กระจายในตลาดทั่วๆ ไป” 



Key Success ของการทำธุรกิจในตลาดจีน

คุณ เกศราภรณ์ เผยว่า หัวใจหลักในการทำธุรกิจในตลาดจีนของเรา คือการสร้างแบรนด์ที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญ โดยเข้าใจตลาด เข้าใจผู้บริโภค ที่สำคัญต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ดีด้วย จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

คุณ เกศราภรณ์ ยังฝากแง่คิดในการทำธุรกิจในตลาดประเทศจีนด้วยว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ทำให้ผู้ประกอบการทุกคนสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจได้เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกัน คือเรื่องของคุณภาพ ถ้าเราผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและรักษามาตรฐานไว้ได้ เราจะได้เปรียบในการแข่งขันและสามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดได้อย่างยั่งยืน (Sustainability)

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

Transformation โรงงานผลิตพืชผลการเกษตรจากเคมีฟาร์ม สู่ข้าวโพดหวานออร์แกนิก ส่งเสริมเกษตรกรไทย เติบโตไปพร้อมกัน

Transformation โรงงานผลิตพืชผลการเกษตรจากเคมีฟาร์ม สู่ข้าวโพดหวานออร์แกนิก ส่งเสริมเกษตรกรไทย เติบโตไปพร้อมกัน

อาชีพเกษตรกรยุคดิจิทัล เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากการเป็นเพียงผู้ผลิต มีการพัฒนาความรู้ ทักษะ ผสมผสานความรู้ดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่…
pin
186 | 17/05/2024
‘GBY Digital Tech’ สานฝันเด็กไทย ปูทางสู่โอกาสการศึกษาดนตรี และศิลปะผ่าน แพลตฟอร์ม e-Learning Online

‘GBY Digital Tech’ สานฝันเด็กไทย ปูทางสู่โอกาสการศึกษาดนตรี และศิลปะผ่าน แพลตฟอร์ม e-Learning Online

ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกการดำเนินชีวิตของมนุษย์ รวมถึงยังแทรกซึมเข้ามาในระบบการศึกษาไทย ทำให้ปัจจุบัน…
pin
248 | 16/05/2024
จากกองภูเขาเศษหนังเหลือทิ้ง สู่แบรนด์ ‘THAIS’ เครื่องหนังรักษ์โลกสุดคูล

จากกองภูเขาเศษหนังเหลือทิ้ง สู่แบรนด์ ‘THAIS’ เครื่องหนังรักษ์โลกสุดคูล

‘ESG’ กลายเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่ผู้ประกอบการทั่วโลก ต่างให้ความสำคัญ และเริ่มนำมาปรับใช้อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน มีธุรกิจ SME…
pin
648 | 13/05/2024
‘กรีนฟรุ๊ตกรุ๊ป’ ยกระดับคุณภาพผลไม้ไทยเจาะ 6 ตลาดจีน โกยรายได้กว่า 700 ล้านต่อปี