3 Success Cased ทายาทยุคใหม่ ลด 'Generation Gap' แบบไร้รอยต่อในธุรกิจครอบครัว
จากที่ผ่านมา เราได้นำเสนอแนวทางการลดช่องว่างระหว่างวัยแต่ละวัย รวมถึงอธิบายลักษณะพฤติกรรม และวิธีการปรับจูนคนแต่ละวัยเข้าหากันเพื่อลดช่องว่าง ให้การทำธุรกิจช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่าง Generation โดยเฉพาะผู้บริหาร 3 รุ่น 3 ช่วงวัยไร้รอยต่อและข้อขัดแย้งลงได้
อ่านเพิ่มเติม : ผู้บริหาร 3 วัย ทำอย่างไร? ให้ไร้ช่องว่างระหว่าง GEN เปลี่ยนความต่างเป็นความสำเร็จใน ‘ธุรกิจครอบครัว’
ซึ่งการสืบทอดที่ราบรื่น นอกจากความเข้าใจกันของคนแต่ละวัย ยังต้องอาศัย Business Model ที่ดี เพื่อทำให้องค์กรเติบโต และอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน บทความนี้ เราจึงขอนำเสนอ Case Study เหล่าทายาทธุรกิจ ที่เข้ามาดูแลกิจการต่อจากพ่อแม่ และสามารถก้าวข้ามอุปสรรคเรื่องของวัย สานต่อกิจการได้โดยไม่เกิดปัญหา ขณะเดียวกัน ยังนำพาให้ธุรกิจของครอบครัวดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นแบบยั่งยืน แต่ละครอบครัว มีแนวทางการทำธุรกิจเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้
Thai Arts Knitting รุ่นพ่อบริหาร – ลูกสร้างสรรค์ สานต่อสู่แบรนด์ใหม่
Thai Arts Knitting factory Co.,Ltd. คือแบบอย่างของทายาทธุรกิจเจน 2 ที่คร่ำหวอดในธุรกิจสิ่งทอตั้งแต่เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ผ่านวิกฤตและอุปสรรคต่าง ๆ จนก้าวสู่ความสำเร็จ ด้วยการใช้กลยุทธ์ และการออกแบบอย่างพิถีพิถัน รวมถึงการปรับใช้เทคโนโลยี ควบคู่กับการพัฒนางานฝีมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชิ้นงานมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน จนกลายเป็นแบรนด์ผู้ผลิตและส่งออกเสื้อไหมพรม ให้กับแบรนด์ชั้นนำ ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศทั่วโลก
ในรุ่นคุณพ่อที่เป็นเจน 2 เข้ามารับช่วงการทำธุรกิจเสื้อไหมพรมกันหนาว จนมีโรงงานของตัวเอง สิ่งที่เรามองเห็นและอยากเสนอเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับผู้อ่าน คือ การเติบโตสู่ รุ่น 3 ของลูกสาว ที่เข้ามาเรียนรู้การทำงานในช่วงที่คุณพ่อบริหารอยู่ แต่เกิดไอเดียธุรกิจ จึงแยกไปเปิดแบรนด์ใหม่ โดยใช้ Material ของบริษัท นำไปทำแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ตัวเอง ตอบโจทย์วัยรุ่น วัยทำงาน
คุณธัญภค ธัญญศิริ หรือ คุณเพิร์ล ทายาทธุรกิจ รุ่นที่ 3 Thai Arts Knitting factory Co.,Ltd
แบรนด์ inci.bkk คือผลงานการบริหารธุรกิจของ คุณธัญภค ธัญญศิริ หรือ คุณเพิร์ล ทายาท Thai Arts Knitting factory Co.,Ltd. ที่ต่อยอดจากวัตถุดิบที่มี มาเน้นผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าตอบโจทย์วัยรุ่นจากไหมพรม สร้างจุดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ ที่ลบภาพจำว่า ‘ไหมพรม’ ไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะฤดูหนาว แต่เป็นเทรนด์แฟชั่นที่ใส่ในชีวิตประจำวันได้
แบรนด์ inci.bkk
นอกจากวัตถุดิบที่ ธุรกิจครอบครัวของที่บ้านมีให้ อีกสิ่งหนึ่งที่ลูกสาวนำไปปรับใช้ คือแนวคิดธุรกิจเรื่องการมุ่งเน้นคุณภาพระดับพรีเมียม ไปพร้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ใส่ใจให้ทุกกระบวนการผลิต ลดความสูญเปล่า (Waste) มุ่งสู่ Green Product และให้ความสำคัญกับการออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ทำให้กลายเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต ทั้งขายในประเทศและต่างประเทศ
ความสำเร็จที่มีความสร้างสรรค์นำทาง และเสริมแกร่งด้วยประสบการณ์จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ไม่มี Gap (ช่องว่าง) แต่มี กรอบ ที่พ่อปูทางไว้ ทำให้ลูกเดินบนเส้นทางธุรกิจของตัวเองได้อย่างราบรื่น
อ่านเพิ่มเติม : คลิก https://www.bangkokbanksme.com/en/23-10focus-brand-story-thai-arts-knitting-factory
ธุรกิจครอบครัว ที่ทายาทใส่ใจกับการทำ R&D รุ่นพ่อ พร้อมเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์โลก
อีกหนึ่งธุรกิจครอบครัว ที่เราอยากพูดถึง คือ บริษัท วัลย์ดีพาณิชย์ อุตสาหกรรม จำกัด แบบอย่างธุรกิจ SME ในอุตสาหกรรมพลาสติก ที่มีประวัติการดำเนินกิจการยาวนานถึง 74 ปี ผ่านการสืบทอดธุรกิจมาแล้วถึง 3 รุ่น
คุณพิชญา ชูเอกวงศ์ ทายาทธุรกิจ รุ่นที่ 3 บริษัท วัลย์ดีพาณิชย์ อุตสาหกรรม จำกัด
คุณพิชญา เผยว่า โรงงานแห่งนี้ ก่อตั้งโดยคุณปู่ ประมาณ 60-70 ปีมาแล้ว ซึ่งคุณพ่อเป็นผู้ร่วมกับคุณปู่ในรูปแบบกงสี แต่ปัจจุบันคุณพ่อดูแลเป็นหลัก จึงได้เปลี่ยนแนวทางการบริหารใหม่ และชักชวนให้ลูกทุกคนมาช่วยกันบริหารงาน
บทบาทหลัก ๆ คุณพ่อจะดูเรื่อง Marketing กับ Product Development ส่วนของเรา พยายามจะทำ R&D มากขึ้น และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ โดยนำ Data Driven มาขับเคลื่อนกระบวนการคิดและตัดสินใจที่แม่นยำมากขึ้น เช่น ปกติ พลาสติกคลุมโรงเรือนจะใช้เป็น Clear Film ธรรมดา แต่เราเริ่มร่วมมือกับบริษัทใหญ่ ๆ วิจัยและพัฒนา เพื่อทำโรงเรือนที่กระเจิงแสง (Light Diffusion) ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ภายในโรงเรือน ได้รับแสงที่สม่ำเสมอ ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และได้ผลผลิตมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีการทำ R&D แยกแต่ละผลิตภัณฑ์ด้วย
รับฟัง และเข้าใจ ทำให้ไร้รอยต่อระหว่างเจนเนอเรชัน
คุณพิชญา กล่าวว่า คุณพ่อให้โอกาสลูกได้ออกไปเรียนรู้การทำงานข้างนอก สิบกว่าปี ก่อนจะให้กลับมาทำธุรกิจของที่บ้าน ทำให้เรารู้ระบบการทำงานจริง ๆ ซึ่งทุกที่ มีความท้าทาย แต่เราโชคดีสองเรื่อง คือ เรื่องแรกคุณพ่อเป็นคนเปิดใจรับฟัง และมีแนวคิดแบบคนสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีความขัดแย้งกัน
เรื่องที่สอง คือทีมงานในบริษัทของเราที่มีทั้งคนรุ่นบุกเบิกมาพร้อมกับคุณพ่อ และคนรุ่นใหม่ล้วนแต่เป็นคนน่ารัก และมีความพร้อมที่จะพัฒนาไปด้วยกัน จึงทำงานร่วมกันได้ไม่ยาก
สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้ คือ การทำธุรกิจครอบครัว คนมักคิดว่า ทำกันแบบครอบครัว แต่ความจริงคิดว่าแบบนั้นไม่ได้ เราต้องทำธุรกิจแบบมืออาชีพมากที่สุด แม้จะเป็นรูปแบบครอบครัว แต่ต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกันและมีธรรมนูญครอบครัวเป็นพื้นฐาน
และสิ่งที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวนี้ ไม่สะดุดจากช่องว่างระหว่างวัย เพราะได้สร้างความเข้าใจ และเปิดใจรับฟัง
“คุณพ่อ เป็นผู้บริหาร เราเป็นลูก แต่อยู่ในฐานะพนักงาน ต้องให้เกียรติในบทบาทและหน้าที่ของทุกคน เพราะถ้าไม่เรียนรู้การทำธุรกิจครอบครัว จะเกิดการล้ำเส้นได้ง่าย และเสียความรู้สึกได้ง่ายกว่าการทำธุรกิจรูปแบบอื่น”
อ่านเพิ่มเติม : คลิก
https://www.bangkokbanksme.com/en/23-10focus-heir-to-the-3rd-generation-of-wandee-panich-industry
ทายาทรุ่น 5 ต่อยอดภูมิปัญญากว่า 100 ปี สร้างนวัตกรรมสมุนไพรด้วยเทคโนโลยี
เทคโนโลยี และนวัตกรรม คือองค์ประกอบสำคัญของการก้าวสู่ยุคดิจิทัล ทั้งยังมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจในระยะหลายปีมานี้ จนอาจกล่าวได้ว่า เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจ สามารถเปลี่ยนแปลงไปสู่การแข่งขันในตลาดปัจจุบันได้ ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยาสมุนไพร
ซึ่งนั่นคือ แนวคิดพัฒนาสมุนไพรเป็นยารักษา นำไปสู่การพัฒนาและต่อยอดตำรับยาสมัยใหม่ โดยทายาทธุรกิจคนเก่ง อย่างเภสัชกรหญิงนวรรณ พวงมาลัย หรือ คุณต่าย ผู้สืบทอดองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย และตำรับยาสมุนไพร จากครอบครัวหมอแผนไทย โดยรุ่น 3 คือ หมอชอน (ปู่) เป็นรุ่นที่มีคนไข้มารักษาจำนวนมาก ทำให้คลินิกหมอชอนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในจังหวัดเพชรบุรี
เภสัชกรหญิงนวรรณ พวงมาลัย ทายาทธุรกิจ รุ่นที่ 5 บริษัท อินโนเวทีฟ ฟาร์ม่า เฮิร์บส์ จำกัด
คุณค่าจากภูมิปัญญาด้าน ‘สมุนไพร’ ที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น
ความยากของวงการสมุนไพร คือการสร้างความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องพิสูจน์และยืนยันตามการอ้างอิงผลงานวิจัยในหลายหัวข้อ ซึ่งแม้จะยาก แต่ด้วยความพยายามผสมผสาน ทั้งศาสตร์ความรู้แบบตะวันตกและตะวันออก จึงยังมุ่งพัฒนาและวิจัยตำรับยาแผนโบราณให้มีงานวิจัย และมาตรฐานการผลิตที่ดีในระดับสากล เพื่อตอบโจทย์ผู้คนยุคปัจจุบัน สืบสานและต่อยอดการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม และรองรับการตลาดสมัยใหม่
ด้วย Business Model ในแบบ Innovation Digital Managements ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมเข้ามายกระดับ ทำให้เภสัชกรหญิงนวรรณ ในฐานะทายาทธุรกิจ มุ่งพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง จากพื้นฐานความรู้ และประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานในบริษัทพัฒนาวิจัยยาแผนปัจจุบัน จึงเข้าใจแผนผังการคิดค้นสูตรตำรับยา ประกอบกับรากฐานของธุรกิจครอบครัวสร้างไว้อย่างมั่นคง เมื่อถูกนำมาเป็นโอกาส ด้วยการผสานเทคโนโลยีใหม่เข้ากับองค์ความรู้ จาก รุ่นปู่ และรุ่นพ่อ บริษัท อินโนเวทีฟ ฟาร์ม่า เฮิร์บส์ จำกัด จึงก้าวสู่ธุรกิจสมุนไพรที่ก้าวล้ำไปในทุกกาลเวลา
ในโลกการทำธุรกิจครอบครัว มีความได้เปรียบกว่าธุรกิจทั่วไป คือการส่งต่อคุณค่าจากรุ่นก่อตั้ง มอบหมายให้ทายาทธุรกิจ สานต่อ โดยที่พวกเขาไม่ต้องเริ่มต้นจากการนับ 1 ใหม่ แต่ความท้าทาย คือทำอย่างไร จะต่อยอดจากพื้นฐานที่ดี ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคของ 'Generation Gap'
ซึ่งตัวอย่างของทายาทธุรกิจ ที่เรานำเสนอข้างต้น คือบทพิสูจน์ว่าพวกเขา ทำสำเร็จ
ติดตามเรื่องราวความรู้ของการทำธุรกิจครอบครัว (Family Business) ในครั้งหน้า