นำนวัตกรรม Business Transformation องค์กร ‘เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์’ จากดีเลอร์เคมีก่อสร้างสู่นวัตกรรมการผลิต 'เฟอร์โรกรีต216' ปูนซ่อมถนนแห้งไว สร้างรายได้หลักร้อยล้าน
ยุคสมัยเปลี่ยนแนวคิดการทำธุรกิจก็ต้องปรับ เพื่อการเติบโตต่อยอดและอยู่รอดในสมรภูมิการแข่งขันของภาคธุรกิจในยุคดิจิทัล บริษัท เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ จำกัด ถือเป็นอีกหนึ่งกิจการที่น่าสนใจ เพราะมีการ Business Transformation เนื่องจากถูกโควิด 19 ดิสรัปชัน สู่การปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจจากผู้แทนจำหน่ายเคมีสำหรับงานก่อสร้าง มาเป็นการผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเอง ได้แก่ ปูนซ่อมผิวถนนแบรนด์ ‘เฟอร์โรกรีต 216’ และน้ำยาเคลือบพื้นกันลื่นแบรนด์ ‘ไบโอพ็อกซ์ ’ สร้างรายได้หลักหลายร้อยล้านบาทต่อปี ที่เตรียมเปิดตัวสินค้าพื้นยางแบบพิเศษ ป้องกันผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุล้มแล้วกระดูกหัก ตอบโจทย์ Aging society ก่อเกิด Case Study ให้ผู้ประกอบการและ SME บ้านเรา นำไปปรับใช้สร้างประโยชน์กับองค์กรตนเอง
เปิดเส้นทางดีเลอร์เคมีก่อสร้าง Business Transformation สู่การผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเอง
คุณบุญชัย วังรัตนโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ จำกัด เล่าถึงเส้นทางธุรกิจว่า ตนเองได้เข้าสู่วงการเคมีก่อสร้างเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว โดยเป็นผู้แทนจำหน่ายเคมีที่ใช้ในงานก่อสร้าง ซึ่งสมัยก่อนนั้นเวลาฉาบปูนจะไม่ลื่นจึงจำเป็นต้องมีเคมีเข้ามาช่วย
“บริษัทจำหน่ายเคมีช่วยในการช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ โดยน้ำยาเป็นเคมีกาว เมื่อผสมกับปูนแล้วฉาบไม่ให้ร่อน จากนั้นบริษัทได้พัฒนาเป็นผู้ติดตั้งเกี่ยวกับพื้นสำหรับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงวัสดุกันซึมต่างๆ ซึ่งยังอยู่ในกลุ่มเคมีก่อสร้าง เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นบริษัทจึงผันตัวเป็นผู้นำเข้าวัสดุเหล่านี้มาจัดจำหน่ายในเมืองไทย โดยเป็น Exclusive Distributor กับบริษัทต่างประเทศ”
ก่อนที่ตนเองจะเกิดแนวคิดสร้างโรงงานเพื่อเริ่มผลิตสินค้าของบริษัทเมื่อปี 2545 เนื่องจากมองว่าเมืองไทยกำลังเข้าสู่การก่อสร้างอาคารสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนั้นมีคู่แข่งเป็นโรงงานมาตรฐานแบบเดียวกันประมาณ 20 โรงงาน และคู่แข่งหลักๆ จากต่างประเทศ 2 - 3 แบรนด์ จึงทำให้เรามีช่องว่างให้สามารถแข่งขันได้ แต่ด้วยความที่ตลาดนี้มีการแข่งขันสูง ลงทุนเยอะ ขณะที่มาร์จิ้นกลับสวนทาง
ดังนั้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ‘เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น’ จึงเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ หรือที่เรียกว่า Business Transformation ในเมื่อบริษัทสั่งสมประสบการณ์ ความรู้ต่างๆ เช่น การขาย การติดตั้ง การผลิต มาหลายปีแล้ว จากนั้นตนเองจึงได้เริ่มศึกษาดูงานประเทศต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ในประเทศจีน สหรัฐฯ เป็นต้น โดยจะศึกษาในส่วนนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับโอกาสทางธุรกิจของบริษัท คู่ขนานไปกับการวิจัยพัฒนาสินค้าเอง (R&D) ด้วย เพื่อเปลี่ยนองค์กรไปสู่การทำธุรกิจไม่ยุ่งยากเหมือนเดิมแต่มาร์จิ้นสูงขึ้น
วิธี R&D ของบริษัท คือเริ่มจากการไปดูว่ามีอะไรใหม่ในต่างประเทศที่บ้านเรายังไม่มี จากนั้นนำมาพัฒนาต่อโดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี เช่น ปูนซ่อมถนนเซ็ตตัวเร็ว โปรดักส์แบรนด์ ‘เฟอร์โรกรีต 216’
ส่วนสินค้ากันลื่นของบริษัทจะชื่อแบรนด์ว่า ‘Biopox’ ขณะนี้บริษัทมีสินค้า 2 แบรนด์ เพื่อให้ผู้คนในวงการรวมถึงคนทั่วไปได้รู้จัก ‘เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์’ ว่าเราคือใคร Identity ของบริษัทคืออะไร
ทำไม? ‘เฟอร์โรกรีต 216’ จึงเหมาะซ่อมผิวถนนมากกว่าปูนทั่วไป
คุณบุญชัย กล่าวว่า เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) บริษัทจึงได้มีการลงทุนด้าน R&D เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการนำนวัตกรรมต่างๆ มาพัฒนาต่อยอดนำมาสู่การผลิตสินค้าก็คือ ‘เฟอร์โรกรีต 216’ โดยเป็นปูนสำหรับซ่อมถนน ซึ่งในสหรัฐฯ มีมาประมาณ 6 - 7 ปีแล้ว แต่ในเมืองไทย ‘เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์’ เป็นเจ้าแรกที่เปิดตลาดและยังไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้แม้จะเกิดสถานการณ์โควิด 19 บริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้อยู่ในส่วนซ่อมแซมถนนซึ่งไม่ใช่การสร้างถนนใหม่ โดยปูนซ่อมผิวถนนแบรนด์ ‘เฟอร์โรกรีต 216’ ที่ฝ่าย R&D ของบริษัทได้พัฒนาขึ้น มีการจดสิทธิบัตรเรียบร้อย
สำหรับ ‘เฟอร์โรกรีต 216’ อธิบายให้เห็นภาพก็คือ จะเป็นปูนสำหรับซ่อมผิวถนนความหนาระหว่าง 3 - 8 มิลลิเมตร ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญก็คือรถยนต์ทั้ง รถบรรทุก หรือ 4 ล้อทั่วไป สามารถสัญจรผ่านบริเวณที่ซ่อมแซมได้ภายใน 3 - 6 ชั่วโมง ซึ่งเป็น Know How ของบริษัท เมื่อรถบรรทุกขับบนพื้นผิวที่ซ่อมแซมแล้วไม่เกิดการยุบตัว) และมีผิวเนียนสวย นอกจากนี้ยังช่วยลดการเกิดราดำ เนื่องจากมีสารป้องกันราดำ โดยพื้นผิวถนนคอนกรีตที่ไม่สวยงามหรือพื้นสึกเป็นบางที่ สามารถนำปูนนี้ไปปิดทับได้เลย โดยผลิตภัณฑ์จะมีกาวสูตรพิเศษเป็นส่วนผสมทำให้เกาะแน่นอยู่ได้นานหลายปี
สินค้าของ ‘เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์’ มีบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ Top 3 เมืองไทย นำไปใช้ในโครงการบ้านต่างๆ ยอดสั่งซื้อเกิน 10 ล้านบาทต่อปีในลูกค้ารายใหญ่ และมีการกลับมาซื้อซ้ำเนื่องจากได้ผลตอบรับดีเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากแต่ละหมู่บ้านมีการเก็บค่าส่วนกลาง ถนนหรือลานคอนกรีตต่างๆ ที่ผ่านการใช้งานจะเกิดการสึกของปูนก็สามารถนำสินค้าของบริษัทไปใช้ ทำให้ถนนคอนกรีตดูเหมือนใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการลูกบ้าน
“ปัจจุบันบริษัทกำลังวางแผนกำหนดเขตแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ช่างของเราอำนวยความสะดวกซ่อมผิวถนนคอนกรีตให้ถึงบ้านหรืออาคารต่างๆ โดยตรง”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ ‘เฟอร์โรกรีต 216’ จะเป็น B2B บริษัทรับเหมาก่อสร้างต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก
ส่วน Biopox เกิดจากแนวคิดที่ตนเองอยากผลิตสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสังคมและธุรกิจร่วมกัน (สินค้ากันลื่นช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น) โดยบริษัทมองว่าในอนาคตโอกาสเติบโตมีสูง เนื่องจากมีการเทพื้นคอนกรีต เพื่อสร้างถนน ทำลานจอดรถ และลานอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
Biopox น้ำยากันลื่นจะมีโจทย์ก็คือตัวเลือกสำหรับลูกค้ามีเยอะพอสมควร ดังนั้นบริษัทต้องเน้นด้านนวัตกรรมมากขึ้นโดยให้ฝ่าย R&D วิจัยและพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างความแตกต่างใช้เวลาดีเวลลอปประมาณ 5 ปี จนได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ โดยเปิดกระป๋องสามารถทาได้เลย ไม่ต้องมีหลายองค์ประกอบในการผสม สีใส ไม่มีกลิ่น แห้งเร็ว ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะในการผลิต
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ ‘Biopox’ กลุ่มลูกค้าจะเป็น B2C ผู้บริโภคสามารถใช้เองได้ตามบ้าน เป็น DIY Product
Marketing ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุดิจิทัลต้อง ‘การตลาดออนไลน์’
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ จำกัด เผยว่า บริษัทนอกจากจะต้องหาจุดยืน หาจุดที่ไม่มีคู่แข่งขันในตลาดซึ่งค่อนข้างยาก แม้จะมีการสร้างโรงงานผลิตสินค้ามากว่า 20 ปี แต่เราเพิ่งค้นพบโปรดักส์ที่เหมาะกับบริษัทก็คือ ‘เฟอร์โรกรีต 216’ เมื่อประมาณ 5 - 6 ปีที่แล้ว ซึ่งมีการประเมินรายได้จากสินค้าตัวนี้แต่ละปีจะอยู่ที่ประมาณ 300 - 500 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทจึงต้องทำ Marketing เพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าธุรกิจสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ ถึงแม้จะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม ปัจจุบันเริ่มมีการผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกมาทดแทนสินค้าเก่าที่บริษัทเป็นผู้แทนจำหน่าย นอกจากนี้จากการที่เมื่อก่อนเราถนัดในเรื่อง Direct Sale ขายสินค้าตามโปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งวิธีการดังกล่าวตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 บริษัทแทบไม่ได้ใช้เลยกลับกลายเป็นว่าการทำ Marketing ด้วยการตลาดออนไลน์ ในโลกโซเชียลมีเดียให้ผลลัพธ์ดีกว่าเยอะเลย ทั้ง Facebook TikTok ก็ดี ให้ผลตอบรับที่ดีมาก เราจึงเปลี่ยนวิธีการขาย Business Transformation องค์กร หลังเจอโควิด 19 ดิสรัปต์จนไม่สามารถไปพบกับลูกค้าได้
สำหรับกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันก็คล้ายๆ เดิม แต่มีขนาดเล็กลง แต่ก็สอดรับสินค้าที่บริษัทได้วิจัยและพัฒนาออกมา ซึ่งไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงลูกค้ากลุ่มผู้รับเหมาขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว ‘เฟอร์โรกรีต 216’ ท้องถนนทุกที่ที่ผิวสึกกร่อน ถนนหนาประมาณ 20 เซนติเมตร แต่ผิวถนนอาจเสียแค่ประมาณ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ดังนั้นความแข็งแรงของคอนกรีตก็ยังสามารถรับน้ำหนักได้ แต่ผิวสึกยังตรงนี้ไม่มีโปรดักส์สำหรับซ่อมผิวถนนให้ออกมาสวยเนี้ยบ ที่สำคัญระหว่างซ่อมต้องรวดเร็วใช้เวลาน้อย ซ่อมเสร็จไม่ต้องรอให้ปูนแห้งรถสามารถขับผ่านในเวลาอันรวดเร็ว
“สินค้าของบริษัทสามารถใช้กับพื้นถนน พื้นคอนกรีต ลานจอดรถยนต์ ลานจอดเครื่องบิน ซึ่งมักจะมีน้ำขังทำให้ผิวสึก ลานหน้าอาคาร ลานในปั๊มน้ำมัน ซึ่งเกือบ 90% ของทุกอา-คารสถานที่จำเป็นต้องใช้ สินค้าจึงเป็น Mass สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและขนาดใหญ่ ดังนั้นบริษัทจึงพยายามเจาะกลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็ก สามารถนำไปซ่อมผิวคอนกรีตได้เลย ทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากยิ่งขึ้นบริษัทก็มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในอนาคต”
วาดแพลนอนาคต ต้องผลิตสินค้าตอบโจทย์สังคมสูงอายุ
สำหรับเรื่องนี้ คุณบุญชัย เปิดเผยว่า ด้วยความที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ดังนั้นบริษัทจึงมีแนวคิดผลิตสินค้าตอบโจทย์ Aging Society โดยการดิสรัปต์ผลิตภัณฑ์พื้นทรายล้าง โดยคิดค้นผลิตภัณฑ์ ทรายล้างจากเม็ดยาง ซึ่งสวยงามและกันลื่นคล้ายพื้นทรายล้างทั่วไป แต่เดินแล้วนิ่มเหมือนยาง ช่วยลดความเสี่ยงหากลื่นล้ม จะไม่บาดเจ็บมากเมื่อเปรียบเทียบกับการลื่นล้มบนผิวแข็งของทรายล้างแบบดั้งเดิม
เพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากการล้ม 1 ครั้งมีความเสี่ยง บริษัทจึงพัฒนาสินค้าโดยใช้เป็นเม็ดยางแทน กันลื่น ล้มแล้วสะโพกไม่หัก เป็นต้น ซึ่งเม็ดยางมีความหนาสามารถกระเด้งกลับได้เลย เป็นกรีนโปรดักส์ซึ่งผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (ยางรถยนต์) โดยปีหน้าจะมีการเปิดตัวสินค้าอย่างเป็นทางการ ได้อนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดีเวลลอปเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงคุณภาพให้ตอบโจทย์ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุมากที่สุด
คุณบุญชัย วังรัตนโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ จำกัด
ส่งท้ายบทสัมภาษณ์ คุณบุญชัย ได้แสดงทรรศนะเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการและ SME ยุคใหม่ ไว้อย่างน่าสนใจว่า การเป็นผู้นำองค์กรบางครั้งไม่ใช่การมองตัวเองเพียงอย่างเดียว หรือมองเฉพาะผลประกอบการในรายงานของบริษัท 3 บรรทัดสุดท้ายเท่านั้น แต่ต้องมองลูกน้องด้วยว่าทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า ผลตอบแทนเหมาะสมหรือไม่ ที่สำคัญพนักงานต้อง Work Life Balance อันจะทำให้ทุกคนทุกฝ่ายต่างแฮปปี้ ส่งผลให้พนักงานของ ‘เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์’ กว่า 65% อยู่กับองค์กรมายาวนานเกิน 10 ปี
นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบันบริษัทยุคใหม่ต้องตัวเบา ไม่ลงทุนสูง แต่ผลตอบแทนที่ได้ต้องดีและคุ้มค่า ดังนั้นองค์กรจึงต้องคิดโปรดักส์ออกมาให้ตอบโจทย์ตลาดมากที่สุดมีประโยชน์ต่อสังคมและกับตัวธุรกิจเอง วางกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน สินค้าใช้งานแล้วต้องเกิดคุ้มค่า ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ลูกค้าหลงรักและภักดีในแบรนด์สินค้าของเรา
รู้จัก ‘บริษัท เฟอร์โร คอนสตรัคชั่น โปรดักส์ จำกัด’ เพิ่มเติมได้ที่
http://www.ferroproduct.co.th
http://www.biopox.co.th/
https://www.facebook.com/Biopox/
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333
Related Article
Transition สู่ Operation Excellence ความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการทำงาน สู่ความเป็นเลิศในธุรกิจแป้งทำอาหาร ‘แบรนด์ปลาแฟนซีคาร์ฟ’
การทำโลกธุรกิจสำหรับ SME ยุคดิจิทัล ต้องมี ‘นวัตกรรม’ เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเติบโต และอยู่รอดท่ามกลางการแข่งขัน เพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาสินค้า…
141 | 22/04/2024
จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร
Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม (Telco) ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่ารูปแบบของการดำเนินงาน มีภาพรวมของรายละเอียดอย่างไร…
703 | 17/04/2024
‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี AI ยกระดับภาคการเกษตรไทย พร้อมดันประเทศสู่สังคม Net Zero
ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกมีความตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยดูแลและช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ปัจจุบันทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย…
546 | 10/04/2024