'วินเซทอลูมิเนียม' ผู้พัฒนาระบบงานประตูหน้าต่าง ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย สู่การสร้าง Product Category

บริษัท วินเซทอลูมิเนียม จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายระบบงานประตู - หน้าต่างอลูมิเนียม ภายใต้ตราสินค้าวินเซท (WINSET) ที่จัดตั้งบริษัทจากธุรกิจครอบครัว (Family Business) ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านงานอลูมิเนียมเส้น และใกล้ชิตกันดั่งญาติมิตรกับช่างและผู้รับเหมารับสร้างบ้าน

คุณณัฐธพงษ์ ประสิทธิ์เดชสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินเซทอลูมิเนียม จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ธุรกิจครอบครัวของตน ประกอบกิจการจำหน่ายอลูมิเนียม อลูมิเนียมเส้นหน้าตัด เพื่อใช้ในงานประกอบระบบประตู - หน้าต่างสำหรับบ้านและที่อยู่อาศัย โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักคือ ช่างก่อสร้าง และกลุ่มรับเหมา ซึ่งมีความชำนาญและประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี

ต่อมาเมื่อเทรนด์ในวงการก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลง เช่น จากเดิมที่มีการก่อสร้างบ้านและต้องติดตั้งงานระบบประตู-หน้าต่างอลูมิเนียมทีละหลัง ก็ได้เปลี่ยนไปสู่การผลิตครั้งละมากๆ แบบอุตสาหกรรม และมีการนำเข้า UPVC ซึ่งเป็นวัสดุที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นประตูหน้าต่างกันอย่างแพร่หลายในขณะนั้น จนมีการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด ทำให้ซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องต้องปรับตัวตามไปด้วย

ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพร้อมกับมีการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทราบถึง Pain Point ของลูกค้าเป็นอย่างดี จนในปี 2553 ตนจึงได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เพื่อพัฒนาระบบงานประตู - หน้าต่างอลูมิเนียม ภายใต้แบรนด์สินค้าวินเซท (WINSET) ให้มีคุณภาพและมาตรฐานภายใต้ราคาที่มีความเหมาะ เพื่อเป็นซัพพลายเชนให้กับช่างก่อสร้าง และผู้รับเหมารายย่อย ให้สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

คุณณัฐธพงษ์ เล่าต่อว่า สำหรับอลูมิเนียมซึ่งเป็นโลหะชนิดหนึ่ง แต่มีคุณสมบัติเด่นคือ มีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก แต่ให้ความคงทนแข็งแรงในระดับที่น่าพอใจ จึงนิยมนำมาใช้ในการสร้างบ้านและอาคาร ซึ่งงานจากอลูมิเนียมจะให้เนื้อวัสดุสีเงิน โดยในอดีตเมื่อต้องการนำไปทำสีเพื่อความสวยงามจะสามารถทำได้โดยผ่านกระบวนการชุบสี ซึ่งมีสีพื้นฐานที่สามารถทำได้เพียง สีเงิน สีขาว สีชา สีชาเข้ม และสีดำ

ขณะเดียวกันที่ UPVC ที่มีสีขาวบนผิววัสดุโดยไม่หลุดลอก ได้เขามามีบทบาทกับตลาดอสังหาริมทรัพย์และวงการก่อสร้างในขณะนั้น และมีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นอุปกรณ์ตกแต่งพรีเมียม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้างที่นำมาใช้ผลิตเป็นประตู - หน้าต่าง และงานอื่นที่ใช้ในการก่อสร้างบ้าน จึงทำให้งานอลูมิเนียมถูกชิงส่วนแบ่งทางการตลาดไป

อย่างไรก็ตาม ด้วย UPVC ยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถตัดแต่งขนาดได้หน้างาน เนื่องจากการผลิตบานประตูหรือหน้าต่างจะเชื่อมมุมบานด้วยความร้อนเพื่อหลอมเป็นชิ้นเดียวแบบสำเร็จรูป ซึ่งเมื่อเทียบกับอลูมิเนียมที่สามารถเชื่อมต่อร่วมกับอุปกรณ์หรือส่วนประกอบอื่นของบ้านได้ง่าย (Fitting) เพราะตัดแต่งรูปทรงได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาแต่ยังคงมีความแข็งแกร่ง รวมทั้งอายุการใช้งานที่ยาวนานและทนทานกว่า จึงทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงช่องทางในการทำตลาดดังกล่าว

แม้ผลิตภัณฑ์จาก UPVC จะเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น แต่เมื่อตนกลับมาย้อนมองถึงธุรกิจครอบครัว (Family Business) ที่ทำอยู่กับผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมซึ่งเป็นสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน จึงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และแนวทางการทำงานให้มีความสอดรับกับเทรนด์ของวงการก่อสร้างได้อย่างดีเยี่ยม อาทิ การใช้เทคโนโลยีทำสีพาวเดอร์โค้ทกับงานอลูมิเนียมได้เช่นเดียวกับงาน UPVC ตลอดจนการทำงานให้ตอบโจทย์กับระดับพรีเมียร์อย่างอลูมิเนียมสีซาฮาร่าซึ่งเป็นสีที่ให้ความหรูหราแตกต่างจากงานสีทั่วไปและมีผิวสัมผัสแบบ Metallic ที่ให้ความสวยงามเป็นพิเศษ

รวมทั้ง ยังมีการพัฒนาสินค้าและบริการมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ ประตูหน้าต่างที่สามารถทำบานขนาดใหญ่เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำพร้อมให้คำปรึกษากับกลุ่มช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมา ตลอดจนเจ้าของโครงการและเจ้าของบ้าน จนนำไปสู่การยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งซัพพลายเชน พร้อมทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนางานให้มีคุณภาพและมาตรฐานยิ่งขึ้นอีกด้วย

คุณณัฐธพงษ์ เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ภายหลังจากที่มีการก่อตั้ง บริษัท วินเซทอลูมิเนียม จำกัด ตนยังได้ดึงเอาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนมาเชื่อมต่อถึงกันผ่านรูปแบบการดำเนินงาน ภายใต้สโลแกน ‘นวัตกรรมสร้างสุข’ โดยเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานของสถาปนิก ผู้รับเหมา ช่าง และเจ้าของบ้าน ที่มีการพูดคุยและให้คำปรึกษากับทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด 

โดยมุ่งเน้นการพัฒนางานด้วยนวัตกรรมให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่า ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายอย่างมีความสุข ซึ่งขณะนี้บริษัทยังมีไลน์ประกอบชิ้นงานที่สามารถรับทำตามสั่ง พร้อมทั้งยังคำนึงถึงการออกแบบชิ้นงานให้ช่างความสะดวกในการติดตั้ง และให้เจ้าของบ้านหรือลูกค้าปลายทางสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีการซัพพอร์ตช่างและผู้รับเหมา โดยช่วยสนับสนุนด้านการทำการตลาด (Marketing) เช่น การทำแผ่นพับหรือโบรชัวร์ให้ และแนะนำช่างและผู้รับเหมาให้กับลูกค้าเมื่อต้องการติดตั้งงานอลูมิเนียม รวมทั้งการเข้าไปช่วยนำเสนอ Presentation ให้กับเจ้าของโครงการหรือเจ้าของบ้านเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าวินเซท (WINSET) มีความคุ้มค่าในราคาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ฝึกอบรมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติการประกอบประตู - หน้าต่างวินเซท ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าฝึกอบรมได้รับการถ่ายทอดความรู้และเทคนิคต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงาน ด้านประตู - หน้าต่างอลูมิเนียม ให้สามารถแข่งขันกับตลาดที่มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ตลอดจนมี Connection เครือข่ายที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์พร้อมช่างที่สามารถติดตั้งงานให้กับลูกค้าได้ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

สำหรับเรื่องนี้ ตนมองว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตประตู - หน้าต่าง มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีทางเลือกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น อลูมิเนียม หรือ UPVC ซึ่งแต่ละชนิดก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับงบประมาณและคุณสมบัติที่เจ้าของบ้านต้องการใช้เลือกใช้งาน ดังนั้น บริษัทจึงต้องมุ่งพัฒนานวัตกรรม โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อทำสิ่งใหม่ให้สามารถตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ได้ อีกทั้งยังต้องมีการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความเข้าใจและทราบถึงผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท

พร้อมกันนี้ หากมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติที่อาจทำให้เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ ต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้ได้ อาทิ การประเมินความเสี่ยงและเตรียมพร้อมสต๊อกวัสดุที่จะนำมาเข้าสู่กระบวนการผลิตให้มีความเหมาะสม, การวางแผนการทำงานโดยจัดสรรบุคลากรให้มีความเหมาะสมกับปริมาณงาน, และการปรับโครงสร้างการทำงานภายในองค์กรเพื่อให้การบริหารต้นทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านทิศทางธุรกิจในอนาคตตนมองว่า ด้วยขณะนี้มีผู้เล่นในตลาดเพิ่มมากขึ้น และทำให้การแข่งขันรุนแรงตามไปด้วย ดังนั้น ตนจึงตระหนักถึงการพัฒนาธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง โดยดูตัวอย่างจากองค์กรชั้นนำระดับสากลที่ประสบความสำเร็จ นำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงานเพื่อให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนา เพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) และนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้ ยังต้องมีการพัฒนาสินค้าให้คุณภาพภายใต้ราคาที่มีความยุติธรรม รวมทั้งคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจที่จริงใจและซื่อสัตว์กับลูกค้า พร้อมทั้งสร้างการรับรู้และสื่อสารไปยังลูกค้าให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ตลอดจนยึดมั่นในการบริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถไว้วางใจที่จะเลือกใช้สินค้าและบริการของบริษัทได้อย่างอบอุ่นใจ

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายปลายทางของระบบงานประตู - หน้าต่างอลูมิเนียม ภายใต้แบรนด์สินค้าวินเซท (WINSET) จะมีฐานกลุ่มลูกค้าใรระดับกลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเภทบ้านและที่อยู่อาศัยที่มีที่ตั้งในเขตกรุงเทพฯ - ปริมณฑล และรองลงมาคือกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่อยู่ตามต่างจังหวัด แต่อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีความพร้อมที่จะพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มตลาดอีกด้วย

ที่สำคัญตนยังมีโอกาสไปเรียนรู้เรื่องการตลาด (Marketing) จากอาจารย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจ ด้วยแนวคิด Product Category ที่ทำให้เล็งเห็นว่าสินค้าของตนในตลาดมีคุณสมบัติที่แตกต่าง และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้โดดเด่นกว่าผู้เล่นรายอื่น ทำให้มีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจได้เพราะมีการสร้างมาตรฐานใหม่ในแบบของตัวเอง เช่น การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีแต่มีราคาที่ไม่สูงมากและไม่เกินกำลังซื้อของลูกค้า เป็นต้น

การเป็นผู้ประกอบการและ SME เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องรู้จักหาวิธีแก้ไขและรับมือ เพื่อให้ก้าวข้ามไปสู่เป้าหมายใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า ที่สำคัญต้องรู้จักพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจและลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของตลาดอย่างถ่องแท้ และต้องมีการคิดค้นพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับเทรนด์ในแต่ละช่วงอย่างไม่หยุดยั้ง เหมือนอย่างที่ ‘คุณณัฐธพงษ์ ประสิทธิ์เดชสกุล’ ได้ใช้เป็นแนวทางการทำธุรกิจจนนำพา ‘ วินเซทอลูมิเนียม’ มาสู่การเติบโตและเป็นที่ยอมรับของช่างและผู้รับเหมามาอย่างยาวนาน

http://www.winset.co.th/aboutwinset.html

https://web.facebook.com/perfectwinset?_rdc=1&_rdr