Tea Specialist! ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ รักษารากฐาน & ครีเอทต่อยอดรสชาติ ตอบโจทย์ความปรารถนานักดื่มชา Gen ใหม่

SME in Focus
23/09/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 704 คน
Tea Specialist! ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ รักษารากฐาน & ครีเอทต่อยอดรสชาติ ตอบโจทย์ความปรารถนานักดื่มชา Gen ใหม่
banner
จะชงแบบร้อนหรือดื่มแบบเย็น ‘ชา’ ก็คับแน่นไปด้วยประโยชน์และคุณภาพ ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป รวมถึงไทย Bangkok Bank SME ชวนศึกษาแนวทางการบริหาร - แนวคิดการทำธุรกิจของบริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด เจ้าของไร่ชาชื่อดังในจังหวัดเชียงราย ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ Thailand Premium Organic Tea สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ให้กับโปรดักส์อย่างไร จนประสบความสำเร็จสามารถคว้าใจผู้บริโภค Gen ใหม่ ๆ รวมถึงชาวต่างชาติได้ ก่อเกิดไอเดียสำหรับผู้ประกอบการและ SME ในการนำไปพัฒนาสินค้าตนเอง



นำ Know How ที่บรรพบุรุษให้มา สร้างธุรกิจไร่ชาที่จังหวัดเชียงราย

คุณจารุวรรณ์ ณติณณ์วิรุฬห์ Managing Director บริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นธุรกิจครอบครัว (Family Business) โดยคุณพ่อได้นำ Know How จากอากงซึ่งเคยอาศัยอยู่ในเมืองคุนหมิง ที่เป็นแหล่งปลูกชาสำคัญของประเทศจีน มาเริ่มทำธุรกิจปลูกชาที่จังหวัดเชียงราย จากนั้นจึงค่อย ๆ ขยายกิจการ รวมถึงแปลงปลูกชามาจนถึงปัจจุบัน

“แปลงปลูกชาของเราเริ่มจากสเกลเล็ก ๆ แล้วจึงค่อย ๆ ขยายในพื้นที่นั้น ๆ อย่างเช่นสำนักงานใหญ่ที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เริ่มจากปลูกชาบนพื้นที่ 5 ไร่ ก่อนขยายเป็น 270 ไร่ในปัจจุบัน ขณะที่พื้นที่ปลูกชาของบริษัททั้งหมดมี 1,400 ไร่จากทั้งหมด 5 แปลง นอกจากนี้บริษัทยังมีลูกไร่อีกด้วย ซึ่งไร่ชาทั้งหมดของบริษัทมีคอนเซปต์ก็คือ Thailand Premium Organic Tea ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งของไทย สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยเป็นไร่ออร์แกนิก 100% ตั้งแต่ปี 2537 มีกระบวนการผลิตซึ่งใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย มีฝ่าย R&D, QC, QA เข้ามาช่วยดูแลในแต่ละกระบวนการ ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย รสชาติถูกปาก รับประทานอย่างไร้กังวล และสามารถตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ได้” 


คุณจารุวรรณ์ ณติณณ์วิรุฬห์ Managing Director บริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด

‘ชา’ ไม่ได้ปลูกแค่เฉพาะบนดอย

คุณจารุวรรณ์ อธิบายว่า สำหรับไร่ชาซึ่งสำนักงานใหญ่ที่อำเภอแม่ลาว ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกที่ราบสูงแห่งแรกในจังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองเพียง 25 กิโลเมตร กลายเป็นความแปลกใหม่จุดกำเนิดทำให้ผู้บริโภครู้จักบริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด เพราะผู้คนหากนึกถึงแหล่งปลูกชาก็มักจะนึกถึงการปลูกบนดอย แต่ด้วยความที่คุณพ่อคิดต่าง ประกอบกับได้ความรู้จากลูกค้าไต้หวัน ว่าพื้นที่นี้สูงกว่า 400 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไม่ใช่ที่ราบแต่เป็นที่ราบสูงสามารถปลูกชาได้ ดังนั้นคุณพ่อจึงเปลี่ยนสวนมะม่วง 5 ไร่ของครอบครัวให้กลายเป็นไร่ชา



ซึ่งข้อดีของพื้นที่ราบสูงก็คือ เนื่องจากชาเป็นพืชสีเขียว ต้องการสังเคราะห์แสง ที่ราบสูงช่วยให้ชาได้รับแสงทั้งวัน หากอยู่บนดอยอาจจะได้รับแสงเป็นบางช่วงเวลา ซึ่งที่ไต้หวันและเวียดนามมีการปลูกชาที่ราบสูง บริษัทจึงทดลองปลูกดูบ้าง ปรากฏว่าปลูกชาพื้นที่ราบสูง 5 ไร่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงขยายเป็น 270 ไร่ในปัจจุบัน มีการตั้งโรงงานผลิตชาที่นี่ด้วย เนื่องจากสะดวกในการจัดการต่าง ๆ รวมถึงด้านโลจิสติกส์



ชาประเภทไหน คนไทยนิยม

Managing Director บริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด ให้ความรู้ว่า ชาในเมืองไทยหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ก็คือ 1. ชาอัสสัม 2. ชาอู่หลง โดยชาทั้ง 2 ชนิดจะมีสายพันธุ์แยกย่อยไปอีก เช่น อู่หลงเบอร์ 12, อู่หลงเบอร์ 17, อู่หลง 4 ฤดู, อู่หลงทิกวนอิม เป็นต้น ซึ่งที่ไร่จะปลูกชาอู่หลงทั้งหมด 5 - 6 สายพันธุ์ ส่วนชาอัสสัมจะปลูก 2 สายพันธุ์

โดยชาที่ปลูกเกือบ 10 สายพันธุ์ จะมีการนำไปผ่านกระบวนการโดยแบ่งเป็น 3 กระบวนการคือ 

1. กระบวนการไม่หมัก ได้ชามาแล้วนำไปผ่านกระบวนการให้เร็วที่สุด ให้สีออกมาใส เขียวที่สุดไม่หมัก คือชาเขียว 

2. กระบวนการกึ่งหมัก หรือนำมาหมักแค่ครึ่งเดียว แต่กระบวนการหมักเต็มสมบูรณ์คือ 24 ชั่วโมง แต่ถ้ากึ่งหมักจะอยู่ในช่วงไม่เกิน 12 ชั่วโมง หรือเรียกว่ากระบวนการอู่หลง 

3. กระบวนการหมัก 100% ซึ่งก็คือชาดำหรือชาแดงในภาษาจีน 

“เรานำชาอะไรก็ได้มาผ่านกระบวนการ แล้วจะเรียกชื่อชาตามกระบวนการ เช่น ชาเขียวอู่หลง ชาเขียวอัสสัม โดยอดีตชาอู่หลงมักจะไม่ผ่านกระบวนการหมัก 100% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาอัสสัม ก็คือชาดำ ชาต้มใส่นม ชาอินเดีย ชาศรีลังกา ชาอินโดนีเซีย” 



ทำ Marketing อย่างไร? ให้ผู้บริโภครู้จัก ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’

ในอดีตจะเป็นการทำ Marketing โดยการออกบูธเป็นหลัก ทั้งงาน OTOP รวมถึงออกงานที่หน่วยงานภาครัฐจัด เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งคุณจารุวรรณ์เล่าว่า สมัยก่อนขายดีมาก ตนเองหลังจากจบคลาสเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในวันศุกร์ จะเดินทางไปช่วยพ่อแม่ขายของด้วย แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนักดื่มชารุ่นเก่าก็ค่อย ๆ ลดน้อยลง ดังนั้นหลังจากที่ตนได้เข้ามาช่วยคุณพ่อบริหารธุรกิจเต็มตัว จึงเกิดแนวคิดผลิตสินค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด เอาใจสาย Tea Lover ซึ่งกลายเป็นผู้คนยุคใหม่ Gen ต่าง ๆ ซึ่งมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป



ศึกษาตลาด สู่การครีเอท New Product

จากการศึกษาตลาดชาในเมืองไทย พบว่าชานำเข้าจะมีการปรุงแต่งกลิ่นด้วยรสชาติต่าง ๆ เช่น สตรอว์เบอร์รี กีวี่ แอปเปิล มิกซ์เบอร์รี สร้างไอเดียให้กับ คุณจารุวรรณ์ ในการนำชามาผสมกับสมุนไพรไทย โดยพยายามคง Essential Oil ของสมุนไพรแต่ละชนิดให้ได้มากที่สุด แล้วนำมาผสมกับชาของบริษัท ก่อเกิดเป็น ‘ชาไทย’ ในความหมายของ ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ 

โดยเริ่มต้นจาก ‘ตะไคร้’ เนื่องจากนึกถึงเมนูอาหารที่คนต่างชาติรู้จักประเทศไทยก็คือต้มยำกุ้ง แล้วในส่วนประกอบบริษัทจะดึงอะไรมาใช้ได้ หลังจากนำมาทดลองผลิตโดยเป็นสูตรชาทำเอง ขายในสิ่งที่เราดื่ม ก่อนใช้เวลากว่า 6 เดือน ปรับสูตรการผลิตให้นิ่ง และเนื่องด้วยตะไคร้ที่ซื้อมาแต่ละรอบจะให้รสชาติไม่เหมือนกัน ดังนั้นบริษัทจึงต้องเจาะจงสายพันธุ์ตะไคร้เพื่อให้รสชาติมีความเสถียร

และด้วยความที่กลุ่มเป้าหมายเป็น Gen รุ่นใหม่ อายุน้อยลง จากการจำหน่ายเป็นกิโลกรัมก็มีการครีเอทออกแบบแพ็กเกจจิ้งใหม่ โดยทำเป็นกระป๋องขนาดพอเหมาะ ซึ่งได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีจากทั้งชาวต่างชาติและคนไทย

ดังนั้นบริษัทจึงมีการผลิตสินค้าต่าง ๆ ออกมาหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค นอกเหนือจากตะไคร้ เช่น ขิง กระเจี๊ยบ มินต์ ใบเตย มะตูม มะรุม ใบหม่อน ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในปีแรกที่เริ่มผลิตอยู่ที่เกือบ 200,000 กระป๋อง ก่อนกลายเป็นโปรเจ็คต์ที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน สร้างตัวตน - ภาพลักษณ์ความเป็น ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ ให้ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยได้รู้จัก

“เราพยายาม Transformation องค์กรสู่การผลิตสินค้าใหม่ ๆ ด้วยการใช้สมุนไพรเป็นวัตถุดิบ เราได้นำศาสตร์ความรู้ของชามาทำชาผสมสมุนไพร ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่การหั่น ๆ แล้วตากแห้ง แต่ต้องมีการนวด การคั่ว การหมักเกิดขึ้นในสมุนไพรด้วย ซึ่งกระบวนการก็แล้วแต่ชนิดของสมุนไพรนั้น ๆ เหมาะกับกระบวนการใด”



เรื่องราวจากธรรมชาติของพืชสู่สตอรี่แบบสุวิรุฬห์ คืออีกหนึ่ง Key Success ปั้นสินค้า ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ ติดตลาด 

Managing Director บริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด เผยว่า สินค้าทุกประเภทของบริษัทจะมีการสร้างสตอรีเป็นซีรีส์ให้กับตัวโปรดักส์นั้น ๆ ซึ่งซีรีส์ดั้งเดิมเราจะเรียกว่า Original Series ที่คุณพ่อกับคุณแม่เคยทำไว้เราก็ยังเก็บคาแรกเตอร์นั้นไว้ แต่พอรุ่นเรามีการนำชามาผสมกับสมุนไพร แล้วครีเอทออกมาให้อยู่ในแพ็กเกจจิ้งกระป๋องอะลูมิเนียม เราจึงตั้งชื่อว่า ‘ทินนี่ซีรีส์’

จากนั้นตนเองเริ่มคิดว่าการทำชาเป็นซีรีส์นั้น มีเรื่องราวให้นำไปถ่ายทอดได้ จึงมีการนำมาทำอีกหลายซีรีส์เช่น อาโอกิ, เดอะ การ์เด้น ซีรีส์ ซึ่งแต่ละซีรีส์จะมีคอนเซปต์ของตัวเอง เช่น ดื่มแล้วช่วยในการนอนหลับ แล้วนำไปจำหน่ายในตลาดที่ต่างกัน ซึ่งการใส่สตอรีเป็นซีรีส์ให้กับตัวสินค้า ช่วยในเรื่องการประชาสัมพันธ์ ทำให้จำหน่ายง่ายขึ้นด้วย

กลุ่มเป้าหมายในปัจจุบันเป็นตลาด ‘ธรรมชาติ’ มากขึ้น ฟังชันนอลมากขึ้น โดยบริษัทพยายามตอบโจทย์ความหลากหลายของผู้บริโภค ชาไม่ได้มีรสขมเพียงอย่างเดียว สามารถมีรสชาติอื่น ๆ ได้ด้วย ปัจจุบันโปรดักส์ของบริษัทมีทั้ง ชารสเปรี้ยว ชารสหวาน ชารสซ่า สร้างความหลากหลายมากขึ้นให้ผู้คนได้ลิ้มลอง 



การตลาดออนไลน์ ช่องทางคว้าใจผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

ในอดีตบริษัทจะเน้นในเรื่องโปรดักชัน และ Marketing เพื่อทำให้เกิดการบอกต่อ แต่สิ่งสำคัญเช่นเดียวกับการบอกต่อคือการซื้อซ้ำ เมื่อสินค้าคุณภาพดีลูกค้าก็จะซื้อซ้ำเรื่อย ๆ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ ต้องมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม เช่นการสร้างเว็บไซต์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เคยไปเดินในงานที่บริษัทออกบูธ แล้วอยากได้สินค้าแต่หาซื้อไม่ได้ นอกจากนี้ยังเป็นการหาทางแก้ปัญหาเนื่องจากหน้าร้าน รวมถึงรีเทลซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของเราได้รับผลกระทบ ซึ่งส่งผลกระทบกับบริษัทตามไปด้วย

จึงเป็นโจทย์ว่า จะทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้า และทำให้คนไทยหันมาดื่มชาเพิ่มมากขึ้น จะพึ่งต่างชาติอย่างเดียวไม่ได้แล้ว บริษัทจึงนำสินค้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น ช้อปปี้ ลาซาด้า รวมทั้งทำแฟนเพจเฟซบุ๊ก เริ่มทำ Marketing ทางด้านนี้มากขึ้น เพื่อการตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป



ปัจจุบันยอดจำหน่ายช่องทางออนไลน์จาก 2 - 5% ขยับเป็น 20 - 30% โดยบริษัททำการตลาดออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ จึงทำให้มีแพลตฟอร์มในต่างประเทศด้วย เช่น Amazon ลูกค้ามาเมืองไทยไม่ได้ก็จะสั่งในออนไลน์แทน อย่างในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาก็โตขึ้น เนื่องจากไว้วางใจในคุณภาพใบและยอดชาที่ดีของบริษัท มาจากสมุนไพรที่เป็นสมุนไพรจริง ๆ ดื่มเสร็จนำมาแกะดูลูกค้าก็จะเห็นทุกอย่างที่เป็นเรียลลิตี้ ทำให้รู้ว่าดื่มอะไรเข้าไปในร่างกายได้ประโยชน์อะไรบ้างซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคยุคนี้

สำหรับการทำคอนเทนต์ พยายามบอกเล่าถ่ายทอดความเป็นตัวเราให้มากที่สุด นอกจากนี้จะมีแอดมินคอยตอบคำถามต่าง ๆ ที่ต้องตอบเร็วและให้คำตอบที่ถูกต้อง หากไม่ทราบต้องแจ้งลูกค้าว่าเดี๋ยวจะไปหาคำตอบมาให้ เนื่องจากบริษัทไม่ได้ต้องการที่จะจำหน่ายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อยากจะมอบความรู้ที่ถูกต้องให้กับลูกค้าด้วย ขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะรับคำแนะนำที่ลูกค้าให้มา เนื่องจากไร่ของบริษัทเป็นแหล่งศึกษาดูงานไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้นจึงมีการให้ความรู้ เช่น เกษตรอินทรีย์ การจัดการพืชไร่ในแปลงปลูกและในโรงงาน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดแข็งของบริษัท แล้วเราก็ส่งความรู้ให้พนักงานไปถ่ายทอดต่อ สร้าง Community แหล่งความรู้ในเรื่องชา แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน 



ก้าวต่อไปของ ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’

ท้ายบทสัมภาษณ์ คุณจารุวรรณ์ ได้บอกเล่าถึงทิศทางในอนาคตของบริษัทว่า กำลังจะมีชาอีกหลายซีรีส์ที่จะผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มเติม ขยายโปรดักส์ การทำชาเป็นถุง รวมถึงการทำหน้าร้านกลายเป็นคาเฟ่ชาที่ชื่อว่า ‘สุวิรุฬห์ทีเฟ่’ ซึ่งเป็นคาเฟ่ที่มีแต่ชา ภายในร้านจะมีเครื่องดื่มที่เป็นชาคุณภาพมาลงแก้ว ชงสดแก้วต่อแก้ว 

โดยบริษัทจะใช้ความหวานให้น้อยที่สุด พยายามให้ความหวานเกิดขึ้นจากตัวชาและการผสมผสานระหว่างชากับสมุนไพรเอง นอกจากนี้ก็จะมีเบเกอรีภายในร้านด้วย เช่น เค้กไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น รวมทั้งนำสมุนไพร เช่น ดอกคาโมมายล์ มาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสม และไข่ที่ใช้ก็เป็นไข่ที่เลี้ยงในฟาร์มเอง นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำธุรกิจขึ้นมาในอนาคต เป็นความแปลกใหม่ที่อยากให้ผู้บริโภคได้ลอง 

นอกจากนี้บริษัทมีร้านอีก 1 แบรนด์ที่ชื่อว่า So Tea โดยจะจำหน่ายสินค้าที่ให้ความหวานมันแบบออริจินัลดั้งเดิมที่เคยทำ เช่น ชานมไข่มุก ซึ่งลูกค้าอาจจะยังแบบเดิมอยู่ ซึ่งทั้ง 2 ร้านอยู่ในจังหวัดเชียงราย และยังมีหน้าร้านที่อยู่สำนักงานใหญ่ของบริษัทอีก 1 ร้าน 

รู้จัก ‘บริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด’ เพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/Suwirunteashop/ 
https://suwirunteashop.com/

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

A.I. TECHNOLOGY เพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วย Automation & Robotics สู่ Smart Factory 4.0

A.I. TECHNOLOGY เพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วย Automation & Robotics สู่ Smart Factory 4.0

ปัจจุบัน มีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่ให้บริการเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Automation & Robotics ไม่ว่าจะเป็นการทำ System Analysis (SA) เพื่อพัฒนา และตรวจสอบหา…
pin
28 | 23/03/2023
‘Coral Hotel Bangsaphan’ ฝ่าวิกฤตโควิด 19 ด้วย Passion ธุรกิจโรงแรม คือ ‘ความสุข’

‘Coral Hotel Bangsaphan’ ฝ่าวิกฤตโควิด 19 ด้วย Passion ธุรกิจโรงแรม คือ ‘ความสุข’

ปักหมุดจุด Check in ใหม่ สไตล์ ไทยล้านนา กับ ‘Coral Hotel Bangsaphan’ ที่ตั้งอยู่ติดชายหาดและทะเลอ่าวไทยที่กว้างใหญ่ ภายในโรงแรมถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นและสวยงาม…
pin
110 | 22/03/2023
เปิดโมเดลธุรกิจ ESG กับ "คุณกร สุริยพันธุ์" ผู้บริหาร บจก. เทพไทย โปรดัคท์ ยกระดับสมุนไพรไทยสู่ธุรกิจพันล้าน

เปิดโมเดลธุรกิจ ESG กับ "คุณกร สุริยพันธุ์" ผู้บริหาร บจก. เทพไทย โปรดัคท์ ยกระดับสมุนไพรไทยสู่ธุรกิจพันล้าน

มองเป็น เห็นโอกาส Bangkok Bank SME ได้รับเกียรติสัมภาษณ์ “คุณกร สุริยพันธุ์” ผู้บริหารบริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด แบรนด์ยาสีฟันของคนไทย…
pin
508 | 10/03/2023
Tea Specialist! ‘สุวิรุฬห์ ชาไทย’ รักษารากฐาน & ครีเอทต่อยอดรสชาติ ตอบโจทย์ความปรารถนานักดื่มชา Gen ใหม่